จากกรณี คนร้ายใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิ่งใส่ นายภัธรชัย ทัดเทียม หรือ ช็อปเปอร์ อายุ 27 ปี จนร่างพรุนเสียชีวิตคารถเก๋ง ขณะขับรถยนต์มารับแฟนสาว เหตุเกิดบริเวณริมถนนราชพฤกษ์ ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุจำนวน 5 คน คือ นายเทอดธรรม ศรีประทุม หรือ เบนซ์ อายุ 31 ปี นายหนึ่ง บัวแดง หรือ บังจ๋า อายุ 34 ปี นายชนภา ปริยกูล หรือ ศร อายุ 36 ปี นายสุริยะ และยา หรือกิ๊ก อายุ 26 ปี และนายชาตรี ปรีเปรม หรือเอ็ม อายุ 25 ปี
ล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 2 ราย คือนายเบนซ์ มือยิง และบังจ๋า ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
วันที่ 16 มี.ค. 63 เวลา 10.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรบางศรีเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไปขออนุมัติศาลฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรี
โดยนายเบนซ์ กล่าวสั้น ๆ ว่า กราบขอโทษพ่อและแม่ของตัวเอง และฝากขอโทษพ่อแม่ผู้เสียชีวิตที่ทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ทั้งยืนยันว่าตนไม่ได้รับใบสั่งมาจากผู้มีอิทธิพลในจังหวัดนนทบุรีตามที่มีข่าว เพราะตนไม่รู้จักผู้เสียชีวิตมาก่อน แต่ผู้เสียชีวิตเป็นคู่อริของเพื่อน เมื่อเห็นเพื่อนยิงจึงยิงใส่ด้วย
ด้าน นายเต๋อ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี เพื่อนของนายภัธรชัย ผู้ตาย บอกว่า ชนวนเหตุที่ทำให้กลุ่มของตนกับกลุ่มของบังจ๋า เริ่มมีปัญหากัน คือช่วงเดือน ก.พ.62 โดยกลุ่มของตนประมาณ10 คน เดินทางไปที่ร้านเหล้าจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นร้านเดียวกันกับที่นายภัทรชัย โดนรุมกระทืบ
เหตุการณ์ในวันนั้น เกิดจากกลุ่มของตัวเองลุกขึ้นเต้นแล้วสร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายของกลุ่มบังจ๋า จนมีปากเสียงกัน และเกิดเรื่องชกต่อย ซึ่งต่างฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ได้มีอาวุธหรือใช้ขวดขว้างปาแต่อย่างใด
ขณะที่ น.ส.จีน (นามสมมติ) แฟนสาวของนายภัธรชัย ผู้ตาย บอกว่า ตนไม่เชื่อว่าคนร้ายมี 5 คน เชื่อว่ามีคนอยู่เบื้องหลังมากกว่านี้ เพราะต้องมีคนสั่งการ สำหรับเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.62 ที่ผู้ตายไปทำร้ายร่างกายนายบลู ลูกซ้อเอ๋ กลางห้างนั้น ตนเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว โดยนายภัทรชัย บอกตนก่อนไปก่อเหตุว่า “เจอหนึ่งในคนที่รุมกระทืบในห้องน้ำที่ร้านเหล้า จะรีบไปเอาคืน”
จากนั้นก็เป็นไปตามคลิป โดยมีการกระทืบ และเตะไป 3 ครั้ง ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่า นายภัทรชัย กำลังโกรธ และหัวร้อน เนื่องจากแผล-รอยช้ำ บนใบหน้า ยังไม่ทันหาย แต่มาเจอกันที่ห้าง จึงได้ตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ ยืนยันว่าขณะเกิดเรื่องในร้านเหล้า มีนายบลู ลูกชายซ้อเอ๋ ร่วมด้วยทำร้ายร่างกายนายภัทรชัย จึงทำให้เกิดความแค้น มีการเอาคืน
หลังจากเหตุการณ์ที่นายภัทรชัย ทำร้ายร่างกายนายบลู ทำให้นายกิ๊ก ผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนี โทรศัพท์มาเพื่อสอบถามเหตุการณ์ โดยสิ่งแรกที่โทรมาถาม คือ “มึงไปทำอะไรมา ไปกระทืบใคร” ก่อนจะมีการบอกอีกว่า “คนที่มึงไปกระทืบ คือ ลูกชายของซ้อเอ๋ อยากให้มึงมาเจรจา อยากให้มึงมาขอโทษ” แต่ในวันดังกล่าว นายภัทรชัย เลือกที่จะไม่เข้าไปเจรจา เพราะคำนึงถึงความปลอดภัย
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปที่บ้าน ซ้อเอ๋ พบกับลูกจ้าง ทราบว่า ซ้อเอ๋ ฝากแจ้งว่าจะไม่มีการชี้แจงใด ๆ หลังจากนี้ให้ทุกอย่างพิสูจน์ไปตามหลักฐาน และปล่อยให้เป็นเรื่องของกฏหมาย
ส่วน น.ส.นุ่น (นามสมมุติ) แฟนเก่านายศร หนึ่งในผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี บอกว่า ส่วนตัวคิดว่านายศรไม่ได้มีส่วนรู้เห็นแต่แค่ติดร่างแหไปด้วยเท่านั้น โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อเหตุก็เป็นกลุ่มเพื่อนของนายศร ที่ชอบไปเที่ยวกลางคืนด้วยกันเป็นประจำ ซึ่งนอกจากเที่ยวตามสถานบันเทิง ก็จะไปกินเหล้ากันที่บ้านของซ้อเอ๋ เจ้าของค่ายมวยดังเมืองนนทบุรี
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ซ้อเอ๋ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการก่อเหตุครั้งนี้ เพราะไม่พอใจที่ผู้ตายเคยทำร้ายลูกชายนั้น ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะซ้อเอ๋ ไม่น่าจะส่งคนสนิทไปจัดการ ทั้งนี้ตนยังไม่สามารถติดต่อนายศรได้ และรู้สึกเป็นห่วงและอยากให้เข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ