แม่น้องตุ้มรับสะเทือนใจ ปล่อยลูกในไส้ 6 ขวบถูกแม่เลี้ยงทารุณ - ตร.พบพ่อแม่มีคดีทั้งคู่ (คลิป)

24 ส.ค. 60
จากกรณีเพจเฟซบุ๊กหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอเด็กวัย 6 ขวบ ถูกทำร้ายร่างกายจนเป็นแผลและรอยฟกช้ำขนาดใหญ่ตามตัว พร้อมกับข้อความที่ระบุว่า “พ่อแท้ๆ กับแม่เลี้ยงและยายเป็นคนทำร้ายเด็ก เด็กตัวเท่านี้ มึงทำร้ายได้ลงคอ กูถามจริงๆ จิตใจพวกมึงทำด้วยวิญญาณซาตานหรือ” ซึ่งคลิปดังกล่าวเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยผู้ที่กระทำเป็นพ่อแท้ๆ แม่เลี้ยง รวมถึงยายด้วย ล่าสุด วันนี้ (23 ส.ค. 60) ทีมข่าวอมรินทร์ได้เดินทางมาที่บ้านพักเด็กและครอบครัว กทม. เนื่องจากทราบมาว่า นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์กรสาธารณประโยชน์) พร้อมกับน.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี แม่แท้ๆ ของน้องตุ้ม จะเดินทางมาเยี่ยมน้องตุ้มเป็นครั้งแรก หลังจากเกิดเรื่องราวอันเลวร้าย ซึ่งนางสาวบี ได้เปิดเผยว่า ไม่ได้เจอน้องตุ้มมาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งแต่ก่อนตอนช่วงที่ยังคบกับพ่อแท้ๆของน้องตุ้มอยู่ จะมีปากมีเสียงกันเป็นประจำ โดยตอนนั้นได้เช่าห้องพักอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชรและส่วนมากจะทะเลาะกันแต่เรื่องงาน เพราะตอนนั้นตนทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ ซึ่งจะเริ่มงานตั้งแต่ 13.00 - 24.00 น. ได้เงินเพียงวันละ 200 บาท ประกอบกับทางพ่อแท้ๆของน้องตุ้มก็ตกงาน เนื่องจากโดนไล่ออกจากโรงงาน ทำให้พ่อของน้องตุ้ม ต้องเป็นคนเลี้ยงดูลูกอยู่ที่ห้องพัก ซึ่งมีวันหนึ่งได้ทะเลาะกันครั้งใหญ่ ตนจึงไล่ให้พ่อของน้องตุ้มไปจากห้องพักแล้วเขาก็เอาน้องตุ้มไปอยู่ที่บ้านแม่ของพ่อแท้ๆ (ย่า) ที่ จ.สระบุรี เพราะตอนนั้นตนก็ไม่มีปัญญาเลี้ยงจริงๆ
น.ส.บี (นามสมมุติ) แม่แท้ๆ ของน้องตุ้ม
หลังจากนั้นทราบว่ามีภรรยาใหม่มาอยู่ที่ กทม.จนกระทั่งเมื่อคลิปออกมาก ตนก็พึ่งมาทราบเรื่องจากแม่เลี้ยงที่ได้โทรศัพท์มาหาว่า "น้องตุ้มไปอยู่ที่มูลนิธิปวีณาแล้วนะ" ตนจึงเป็นห่วง ก็เลยติดต่อมูลนิธิปวีณา เพื่ออยากพบหน้าน้องตุ้มและขอขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือ โดยเมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) ช่วงเลิกงานเพื่อนที่โรงงานตนก็ได้รวบรวมเงินให้เป็นค่ารถ ค่ากิน รวมเป็นเงิน 4,000 บาท เพื่อนั่งรถทัวร์มาที่มูลนิธิ ซึ่งวันนี้ (23 ส.ค.) ได้มาพบน้องตุ้ม ก็ได้โผเข้ากอดด้วยความคิดถึง แล้วเห็นว่าน้องสดใส ร่าเริงดูมีความสุข ทำให้ตนหายห่วงและหมดความกังวลไปได้บ้าง โดยส่วนตัวอยากจะเอาน้องตุ้มกลับไปเลี้ยงดูเอง เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของน้องตุ้ม แม้ว่าจะไม่มีเงินทองมากมายก็ตาม ซึ่งเบื้องตนก็ได้ถามน้องตุ้ม ว่าอยากอยู่กับใคร น้องตุ้มก็ตอบมาว่า "อยากอยู่กับแม่ ไม่อยากกลับไปอยู่กับพ่อ พ่อชอบตี" ขณะเดียวกันรอยแผลตามตัวน้อง ตนก็สงสัยทำไมถึงลงโทษ สั่งสอนกันขนาดนี้ ประกอบกับตาที่เขียว น้องตุ้มไม่ได้แพ้กุ้ง
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์กรสาธารณประโยชน์)
ด้าน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์กรสาธารณประโยชน์) ระบุว่า เมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) นางสาวบีเดินทางมาจากจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อเข้าพบเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่ช่วยเหลือ ซึ่งทางทีมงาน รวมถึงตนก็ได้พานางสาวบีมาเยี่ยมลูก ก็เห็นได้ว่าน้องตุ้มได้รับความอบอุ่นเป็นอย่างมาก เมื่อได้เจอแม่ มีความดีใจและความสดใสกันทั้งคู่ ซึ่งทางนางสาวบีเอง ก็ประสงค์ที่จะรับน้องตุ้มไปอยู่ด้วย แต่ต้องรอทีมสหวิชาชีพ ร่วมประเมินในวันพรุ่งนี้ (24 ส.ค.) ว่าในอนาคตจะมีแนวทางอย่างไร โดยทางบ้านพักเด็กฯ กทม. ตำรวจสน.สำเหร่ รวมถึงมูลนิธิมีการทำงานบูรณาการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือเด็กให้มีชีวิตที่ดีขึ้นด้วย
พ.ต.อ.ภัสพงษ์ บุตรไทย ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสำเหร่
ด้าน พ.ต.อ.ภัสพงษ์ บุตรไทย ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสำเหร่ เผยว่า ขณะนี้ได้รับเรื่องที่แม่ได้มาแจ้งความไว้ ก็ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐานทันที ว่ามีการทำร้ายร่างกายเด็กจริงหรือไม่ โดยเบื้องต้นเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางพ่อแท้ , แม่เลี้ยง และยายเลี้ยง ได้ให้ข้อมูลมาว่า ได้ลงมือตีเด็กจริง เนื่องจากต้องการที่จะสั่งสอน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการโดยเร็วที่สุด ส่วนเรื่องของพ่อแท้ๆ เคยมีคดีติดตัวหรือไม่ ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่สืบประวัติก่อน เพราะจากการสอบถามแม่แท้ๆของเด็ก พบว่า เคยติดยาด้วย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ