เศร้า! ญาติทยอยรอรับร่างผู้เสียชีวิต ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษามรณะ ร่วมกตัญญูเตรียมรถ 23 คัน ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
จากเหตุการณ์ ไฟไหม้รถบัสที่นำนักเรียนจาก จ.อุทัยธานี เข้ามาทัศนศึกษาในกทม. และเกิดอุบัติเหตุ บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 2 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจช่วงเช้าวันนี้ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ MCATT หรือ ทีมเยียวยาจิตใจ กรมสุขภาพจิตเดินทางมา เพื่อดูแลสภาพจิตใจญาติครอบครัวผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ รถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ที่จะเดินทางมารอฟังผลการตรวจ DNA และรับศพผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศล
โดยได้มีการประสานรถพยาบาล เพื่อรองรับในกรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตต้องการความช่วยเหลือทางด้านการแพทย์ นอกจากนี้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูได้จัดเตรียมรถรับส่งศพไปยัง จ.อุทัยธานี ซึ่งจะมีการจัดเตรียมรถรองรับทั้ง 23 คัน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งได้มีเจ้าหน้าที่จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เดินทางมาประสานเรื่องการรับเงินช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิของผู้เสียหายในคดีอาญาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย
นอกจากนี้ทางสถาบันนิติเวชวิทยาได้จัดพื้นที่พักคอยให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตบนชั้น 3 ของอาคาร และได้จัดพื้นที่พักแรมให้แก่ครอบครัวที่เดินทางมาตั้งแต่เมื่อคืนที่คุรุสภา ถนนราชดำเนิน ซึ่งจะมีบริการรถรับส่งให้
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนงดสัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้นแก่ญาติครอบครัวผู้เสียชีวิต เพราะเนื่องจากครอบครัวผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ และเพื่อป้องกันไม่ให้สร้างความกระทบกระเทือนทางจิตใจแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย รวมทั้งไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นชั้น 3 ของอาคารสถาบันนิติเวชวิทยาทุกกรณี อนุญาตให้สื่ออยู่บริเวณชั้น 1 ของอาคารหรือบริเวณโดยรอบเท่านั้น โดยในช่วงเช้ายังพบครอบครัวของผู้เสียชีวิตบางส่วนทยอยเดินทางมายังสถาบันนิติเวชวิทยาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้เวลาประมาณ 08.09 น. รถบริการรับส่งจากคุรุสภา ถนนราชดำเนิน ได้พาครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ รถบัสไฟไหม้ มาส่งที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ โดยเป็นครอบครัวที่ได้เดินทางมาเก็บตัวอย่าง DNA ที่สถาบันนิติเวชวิทยาตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประสานที่พักแก่ครอบครัวที่เดินทางมาเมื่อคืนให้พำนักที่คุรุสภา
โดยเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์หรือพูดคุยอะไรกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อป้องกันการสร้างความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ซึ่งสังเกตเห็นได้ว่า เครือญาติทุกคนนั้นมีสีหน้าที่เศร้าโศกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก บางรายถึงขนาดร้องไห้ออกมาอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะผู้สูงอายุ