ผู้ว่าฯอุทัยธานี เปิดบัญชีกลาง รับบริจาคช่วยเหยื่อไฟไหม้รถบัส

3 ต.ค. 67

 

ผู้ว่าฯอุทัยธานี เปิดบัญชีกลาง รับบริจาคช่วยเหยื่อเหตุไฟไหม้รถบัส ป้องกันมิจฉาชีพแอบอ้าง ตอบสนองต่อความต้องการผู้มีจิตศรัทธา 

จากเหตุการณ์ ไฟไหม้รถบัสที่นำครู และนักเรียนจาก โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เดินทางไปทัศนศึกษาได้เกิดอุบัติเหตุ บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าไป กทม. พื้นที่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมากนั้น 

วันที่ 3 ต.ค. 67 นาย ธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเปิดบัญชีรับบริจาค เพื่อช่วยเหลือเหยื่อ เหตุเพลิงไหม้รถบัสว่า หลังจากเกิดเหตุ โรงเรียนได้เปิดบัญชีรับบริจาคใหม่ขึ้นมา เนื่องจากมีประชาชนที่มีจิตศรัทธาอยากช่วยเหลือเหยื่อ และครอบครัวผู้ประสบภัย 

แต่ทางจังหวัดเห็นว่าอาจมีการขัดต่อกฎหมายบางประการ จึงได้พูดคุยกับทางโรงเรียน และดำเนินการเปิดเป็นบัญชีกลางของจังหวัดแทน เพื่อให้เป็นบัญชีหลักบัญชีเดียวสำหรับการรับบริจาค 

นายธีรพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในช่วงแรกทางจังหวัดไม่ได้เปิดบัญชีรับบริจาคเอง เพราะรัฐบาลทุกกระทรวง รวมถึงมูลนิธิต่างๆ ที่อยู่ในความดูแลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ได้มีการประสานงานเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาอยู่แล้ว แต่มีผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมากแสดงความประสงค์ที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยตรง ทางจังหวัดจึงตัดสินใจเปิดบัญชีนี้ขึ้นมา โดยให้เป็นบัญชีกลางเพียงบัญชีเดียว เพื่อป้องกันการถูกหลอกจากกลุ่มมิจฉาชีพ ที่มักฉวยโอกาสในสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและเสียหาย 

นายธีรพัฒน์ ยังย้ำว่า การเปิดบัญชีรับบริจาคนี้ เป็นการปรึกษาหารือระหว่างจังหวัดและโรงเรียน โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้การบริจาคเป็นไปอย่างโปร่งใสและปลอดภัย เงินที่ได้ทั้งหมดจะถูกนำไปช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัยทุกบาททุกสตางค์ 

นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดยังเข้าใจในกระแสสังคมที่อาจตั้งข้อสงสัยว่าทำไมจังหวัดต้องเปิดรับบริจาค ทั้งที่มีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือแล้ว แต่นี่เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนผู้มีจิตศรัทธาที่อยากช่วยเหลือโดยตรง และเป็นมาตรการป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพ 

สำหรับการเปิดบัญชีดังกล่าว ทางจังหวัดจะเปิดรับบริจาคจนกว่ามองว่าไม่มีความจำเป็นแล้วจึงจะปิดบัญชี และยอดบริจาคจะถูกแจ้งให้ครอบครัวผู้ประสบภัยทุกครอบครัวทราบ รวมถึงจะมีการจัดสรรเงินบริจาคอย่างเท่าเทียมกัน ทางจังหวัดเองก็ไม่ได้มีความต้องการที่จะเปิดบัญชีรับบริจาคไว้นานเกินจำเป็น 

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุยังไม่ได้พูดคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนมากนัก เนื่องจากผู้อำนวยการยังคงมีภาระหน้าที่ในการจัดการเรื่องงาน และอยู่ในสภาวะเสียใจเช่นเดียวกับทุกคน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส