เจ้าของศูนย์บริบาลช้าง โผเข้ากอด “ฟ้าใส-พลายทอง” ร้องไห้เสียใจสูญเสียสัตว์รัก

5 ต.ค. 67

 

แม่เล็ก เจ้าของศูนย์บริบาลช้าง โผเข้ากอด “ฟ้าใส-พลายทอง” ช้าง 2 เชือกที่ล้ม องไห้เสียใจสูญเสียสัตว์รัก บอก “กลับมาเกิดเป็นลูกแม่อีกนะ” แจ้งปิดศูนย์ 3 เดือนขึ้นไป 

จากกรณีช่วงค่ำวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ “Elephant Nature Park” โพสต์อัปเดต ว่า "ขณะนี้ ช้าง 1 เชือก (ฟ้าใส) ได้ว่ายน้ำไหลลงไปทางอุโมงค์ผันน้ำ ใครพบเห็นรบกวนแจ้งที่เบอร์ 094-635-2892 และ 088-917-2668" 

ต่อมาช่วงเช้าวันนี้ (5 ต.ค. 67) เฟซบุ๊กเพจ “ควาญแบงค์ พลายน้ำแตง” โพสต์ข้อความแจ้งข่าวเศร้าว่าพบช้างล้มเพิ่มอีก 2 เชือก ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า ช้างทั้ง 2 เชือกนั้นคือ น้อง “ฟ้าใส” และ “พลายทอง” 

ต่อมาทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” เดินทางไปที่สิบแสน รีสอร์ท อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดที่พบน้อง “ฟ้าใส” ช้างอายุอายุ  16 ปี และห่างกันประมาณ 300 เมตรก็เจอช่อง “พลายทอง” อายุ 40 ปี ที่ตาบอด 2 ข้าง ซึ่งเส้นทางที่ช้างทั้ง 2 เชือกลอยมาในแม่น้ำแม่แตง ระยะทางจากศูนย์บริบาลช้างถึงจุดที่พบประมาณ 3.7 กิโลเมตร ต้องผ่านประตูระบายน้ำแม่ตะมาน และโขดหินต่างๆ อาจจะเป็นปัจจัยให้ช้างทััง 2 เชือกล้มได้ 

นอกจากนี้บรรยากาศที่บีบหัวใจมากที่สุดคือช่วงที่ นางแสงเดือน ชัยเลิศ หรือ แม่เล็ก ผอ.ศูนย์บริบาลช้าง แม่แตง-เชียงใหม่ และประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อมเดินผ่านซากปรักหักพังเศษไม้ ที่ทับถมกัน ไปเจอร่างของช้างทั้ง 2 เชือกที่ล้มถึงกับเข้าไปกอดร้องไห้ออกมา โดยตัวแรกที่แม่เล็กไปหาคือ “ช้างฟ้าใส” อายุ 16 ปี 

หลังจากนั้นแม่เล็กเดินไปต่อ เพื่อจะไปหา “ช้างพลายทอง” อายุ 40 ปี ที่ล้มอยู่ไม่ห่างกันพอไปถึงก็โผล่เข้ากอด พร้อมกับร้องไห้ออกมา บางจังหวะแม่เล็กถึงกับเข้าไปจูบเข้าไปหอม และเอามือไปลูบตา “ช้างพลายทอง” ซึ่งเป็นช้างตาบอด ก่อนจะบอกว่า “ ขอให้หนูกลับมาเป็นลูกสาวแม่อีกนะ ไม่ต้องเกิดมาเป็นช้าง เกิดเป็นอย่างอื่นจะได้ไม่ลำบาก” 

 หลังจากนั้นนางแสงเดือน ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมอีกว่า เหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้เกิดขึ้นเร็วมาก ช้างพลอยทอง ตาบอดมองไม่เห็นคงจะปล่อยตัวเองไปกับน้ำ ยิ่งมีโขดหินด้วยยิ่งลำบาก ยอมรับว่ารักช้างตัวนี้มากๆ ช่วยมาตั้งแต่ 3 ขวบ เป็นช้างข้างถนนตอนแรกดุมากๆ พอเลี้ยงไปเรื่อยๆ ก็ดีขึ้น สุดท้ายก็หลุดออกจากปางไป ปกติจะว่ายน้ำเก่งมากๆ ไม่คิดว่าจะมาล้มแบบนี้ 

ตอนนี้เจอ 2 เชือกแล้ว อีก 1 เชือกจับสัญญาณผ่านโดรน และเจอความร้อนอยู่ในป่าห่างจากบริบาลช้างราว 2 กิโลเมตร ส่วนอีกเชือกยังสูญหายอยู่ ส่วนสัวต์อื่นๆ ก็มีควาย หมู ซึ่งหมูย้ายหนีได้บางส่วน ได้มา 20 ตัว ตายคาดว่าจะ 8 ตัว ควายเหลือ 70 ตัว หายไป 30 ตัว กระต่ายและสัวต์เล็กๆ ย้ายไปหมดแล้ว ยอมรับตั้งแต่เกิดมาพื้นที่ดังกล่าวครั้งนี้ท่วมเสียหายหมด 

ตอนนี้การเยียวยา ตนเองไม่ได้มองถึงภาครัฐ ต้องช่วยเหลือตัวเองดีกว่า คงจะปิดศูนย์ช้างอย่างน้อย 3 เดือน เนื่องจากว่าความโศกเศร้าที่เสียสัตว์ไปมันมีมูลค่ามากกว่าทรัพย์สิน เมื่อวานก็มืดไปหมดรับไม่ได้ และมองว่าหลังจากนี้คงจะต้องย้ายพื้นที่เลี้ยงสัวต์ไปอยู่ที่อื่นแล้ว เพราะไม่สามารถให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีก

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส