กรณีนางจริยาภรณ์ อายุ 55 ปี ชาวจ.ระยอง ร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อนายอำเภอบ้านค่าย จ.ระยอง เนื่องจากอ้างว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้ถูกคนร้ายใช้ปืนยิงตาย 1 ตัว และชำแหละนำเนื้อไปให้แรงงานต่างด้าวปรุงอาหาร
โดยเหตุเกิดเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับได้เดินทางไปแจ้งความไว้กับตำรวจ เนื่องจากถูกคู่กรณีทำร้ายด้วยการตบหน้า แต่เมื่อผ่านมาแล้ว 2 เดือน คดีกลับไม่มีคืบหน้าแต่ประการใด
เหตุการณ์เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.63 สุนัขของนางจริยาภรณ์ แอบไปกัดไก่ชนที่บ้านของคู่กรณี เจ้าของไก่ชนจึงบุกมาที่บ้านเพื่อต่อว่านางจริยาภรณ์ ซึ่งเธอเชื่อว่าคู่กรณีเจ็บแค้นจึงใช้ปืนยิงสุนัขของเธอ และนำไปชำแหละให้แรงงานต่างด้าวปรุงเป็นอาหาร กระทั่งวันที่ 13 ม.ค.63 คู่กรณีกลับมาที่บ้านนางจริยาภรณ์ อีกครั้ง และลงไม้ลงมือตบตีเธอ จึงทนไม่ไหวตั้งใจจะร้องเรียนต่อนายอำเภอ
ล่าสุดวันที่ 18 มี.ค.63 นางจริยาภรณ์ จึงเดินทางมาร้องเรียนนายอำเภอบ้านค่าย เพื่อเอาผิดคู่กรณี โดยหลังจากที่กลายเป็นข่าวนายสมชาย แก้วรักษ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จึงเข้าพบนายวิจิตร พาพลงาม ปลัดอาวุโสอำเภอบ้านค่าย เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากถูกนางจริยาภรณ์ กล่าวหาว่าใช้ปืนยิงสุนัขที่เลี้ยงไว้ และนำสุนัขไปให้แรงงานต่างด้าวกินเป็นอาหารนั้นไม่ใช่เรื่องจริง
นายสมชาย แก้วรักษ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 เปิดเผยว่า ตนเป็นฝ่ายเสียหาย ซึ่งเลี้ยงไก่ชน 70 ตัว แต่ไก่ชนที่เลี้ยงไว้ในฟาร์มถูกสุนัขของนางจริยาภรณ์ เข้ามาในฟาร์มและกัดกินไก่ชนตายไปหลายตัว รอบแรก 7 ตัว รอบสอง 6 ตัว และรอบสาม 6 ตัว รวมเป็น 19 ตัว คิดเป็นมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 9.5 หมื่นบาท และนางจริยาภรณ์ ไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบความเสียหายของตนแต่อย่างใด ซ้ำยังเรียกค่าเสียหายจากตนอีก 5 หมื่นบาท ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียง จึงแจ้งให้นางจริยาภรณ์ทราบเรื่อง และให้ดูแลสุนัขไม่ให้มาสร้างความเดือดร้อนกับเพื่อนบ้านอีก
กรณีที่นางจริยาภรณ์ กล่าวหาว่าตนว่ายิงสุนัขและนำไปให้ลูกน้องกินเป็นอาหารนั้นไม่เป็นความจริง ตนมีปืนจริงซื้อมาหลายหมื่น แต่ไม่เอาไปยิงสุนัขแน่ อีกทั้งลูกน้องตนไม่ได้ยากจนถึงกับกินสุนัข ส่วนสุนัขของนางจริยาภรณ์ จะถูกฆ่าตายหรืออย่างไรนั้นตนไม่ทราบ และขณะนี้อยู่ระหว่างติดต่อทนายความเพื่อดำเนินคดีกับนางจริยาภรณ์ ข้อหาหมิ่นประมาท
เช่นเดียวกับ น.ส.วา เพื่อนบ้านคนกลาง เปิดเผยว่า ขณะที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านบ้านนางจริยาภรณ์ มักจะวิ่งไล่กัด และเคยถูกกัดมาแล้ว ที่สำคัญเคยไปเจรจากับนางจริยาภรณ์ แต่กลับได้รับคำตอบว่า "ขี่รถอย่างไรให้หมากัด" ตนจึงไปแจ้งความไว้กับตำรวจเช่นกัน