แซม ยุรนันท์ ยันมีตำแหน่ง ผอ.จริง แต่อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่เจ้าของคนเดียว

แซม ยุรนันท์ ยันมีตำแหน่ง ผอ.ก็จริง แต่ไม่ได้อยู่ในโครงสร้างบริษัท เพราะอำนาจการตัดสินใจทุกอย่าง คือ "บอสพอล"คนเดียว

เป็นกระแสดังดังไปทั่วโซเชียลเลยก็ว่าได้กับประเด็น ที่สังคมพูดถึงตอนนี้กับธุรกิจเครือข่าย บริษัทดัง ที่มีเหล่านักแสดงที่มีชื่อเสียง แล้วยังมีตำแหน่งในบริษัทด้วย อาทิ “แซม ยุรนันท์” “กันต์ กันตถาวร“ ”มิน พีชญา“ ซึ่งมีเพจดังออกมาทำการขุดถึงธุรกิจนี้ ว่าเป็นธุรกิจหลอกลงทุนและทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก จนเป็นหนี้ แต่ละคนเสียหายหนัก ต่ำๆหลักแสนบาทเลยทีเดียว

ล่าสุดวันนี้ (9 ตุลาคม 2567) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้เดินทางมาพูดคุยกับ ”แซม ยุรนันท์“ เพื่อถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยเจ้าตัวเผยว่า จริงๆตนก็ไม่ได้จะมาชี้แจงหรือแถลงอะไร เพียงแค่ว่าวันนี้คนมาถามเยอะจนตอบไม่ไหว กลัวว่าเรื่องราวจะไปกันใหญ่ หากถามตนก็ไม่สามารถตอบแทนทางบริษัทได้ และตนนั้นทำงานได้ยังไม่ถึงปีเลย เจตนาที่ทำงานด้วย เพราะว่า “คุณพอล“ กับตนเรียนหลักสูตรเดียวกันซึ่งตนเป็นประธานรุ่น ได้ทำกิจกรรมด้วยกันบ่อยๆ ซึ่งก็ได้ไปร่วม ธุรกิจของแต่ละคน ครั้งนั้นก็ได้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมธุรกิจของทาง “คุณพอล” เลยได้เห็นคนประสบความสำเร็จและดูมีความหวัง ทาง ”คุณพอล“ ก็ได้ไปเยี่ยมเยียนธุรกิจของตนที่โรงพยาบาลและคลินิก หลังจากนั้นเขาเลยบอกว่าทางบริษัทของเขากำลังจะผลิตสินค้าสู่ตลาดตลาดโลก เลยอยากจะให้เอาองค์ความรู้ของตนมาช่วยพัฒนาสินค้า ให้มีมาตรฐานระดับสากล เลยให้ตำแหน่งกับตน เหมือนกับการให้เกียรติมากกว่าเลยให้ตำแหน่ง ”ผู้อำนวยการพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์“ แต่ก็ไม่ได้ให้อำนาจตัดสินใจอะไรมาก หน้าที่ตนก็แค่ต้องดูแลสินค้า ส่วนใหญ่จะแค่ให้คำปรึกษามากกว่า โดยในแต่ละเดือนตนก็จะเป็นผู้มอบรางวัลให้กับคนที่ขายสินค้าได้ดีระดับต้นๆ เลยเห็นทุกคนที่ก่อนหน้านี้เคยลำบากและสามารถเติบโตได้

หลังจากทราบข่าวก็ตกใจที่มีคนขายสินค้าไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็เข้าใจ เพราะบางคนเขาก็ขายได้ดี เพราะชีวิตมันก็มีคนที่ต้องได้ที่หนึ่ง คนสอบตก แต่หากว่ามีคนสอบตกเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ เราในฐานะเปรียบเหมือนครูบาอาจารย์ก็ต้องมาดูว่าเราสอนไม่ดีหรือเปล่า บริษัทเราเลยต้องเอาตรงนี้มาปรับ เพื่อรู้ว่าเขาขายสินค้าไม่ได้เพราะอะไร บางคนซื้อไปเยอะมากแต่ขายไม่ได้ เรื่องนี้ตนก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น หากมีดราม่าแบบนี้ มันก็จะช่วยเหลือกันไม่ได้ คาดว่าดราม่าเพราะว่ามีคนเคยอยู่ในทีมแล้วก็ได้ออกไปอยู่ที่อื่น เกิดความไม่ชอบใจก็เป็นได้ ตนก็ตกใจว่ามันมีคน คิดถึงขนาดฆ่าตัวตายด้วยเพราะตนเพิ่งอยู่บริษัทนี้ไม่ถึงปี

ถามว่าตอนนี้คนมองว่าเป็นธุรกิจหลอกลวง เจ้าตัวก็บอกว่า ตนไม่รู้ว่าจริงไหมเพราะไม่เคยคุยกับผู้เสียหายโดยตรง เพราะตนเป็นคนระวังตัวมากๆ ถ้าจะรับพรีเซนเตอร์สินค้าตัวไหนตนจะค่อนข้างจะเช็คอย่างละเอียด และใช้จริง พอตนได้มาอยู่บริษัทนี้ตนก็เอกซเรย์ตลอด ว่าจดทะเบียนถูกต้องหรือเปล่า ใครเป็นผู้ถือหุ้น ดูถึงขนาดว่าเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่หรือเปล่า? ตนตั้งใจที่จะมาเรียนรู้ศึกษาเกี่ยวกับโซเชียลในบริษัทเหมือนกัน หากบอกว่าบริษัทหลอกลวงก็ต้องหาให้เจอว่าใครเป็นคนไปหลอกลวงจนเขาหมดเงินเป็นแสน ถามย้ำว่าถ้าคุยกับบริษัทและบริษัทผิดจริง ก็พร้อมรับผิดชอบ แต่ก็ได้มีโอกาสคุยกับ “คุณพอล” เรียบร้อยแล้ว เขาก็บอกว่า เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดและอยู่ในพื้นฐานของการทำงานว่าสินค้าต้องดี ราคาเป็นธรรม การตลาดต้องดี และรับผิดชอบต่อสังคม ส่วนเรื่องผิดถูกค่อยว่ากัน แต่ควรทดสอบคนที่เดือดร้อนจริงๆ ยืนยัน สินค้าถูกต้องตามกฎหมาย

ทาง “คุณพอล” มีวิธีการเยียวยาปัญหาอะไรไหม เจ้าตัวกลับบอกว่า เขายังไม่เล่าถึงวิธี แต่ที่ตนได้เห็นรู้สึกว่าเขานั้นเศร้าและไม่คิดว่าเรื่องจะถึงขนาดนี้ แต่เชื่อว่าเขา ตั้งใจทำธุรกิจมาเพื่อให้โอกาสคน คิดว่าคนไทยควรจะหาทางออกที่ดีด้วยกัน เพื่อพูดคุย เพื่อเยียวยาผู้เสียหาย ตนก็มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด และไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการปิดยอดของลูกข่าย

ถามถึงตำแหน่งตอนนี้เป็นหุ้นส่วนหรือพรีเซนเตอร์เจ้าตัวบอกว่า ไม่ได้เป็นทั้งสองอย่าง ไม่มีหุ้นส่วนเลย มีคนถือหุ้นแค่คนเดียว และตนก็ไม่ได้ถือหุ้นด้วย การตัดสินใจเลยอยู่ที่คนๆเดียว ส่วนยอดรายได้ตนขอไม่พูดถึงเพราะว่ามันไม่ได้เยอะขนาดนั้น ตอนปีที่ตนมาอยู่สินค้าก็ไม่ได้ขายดีด้วย ยอดยังไม่ถึงสิบล้านเลย ตามในสัญญานั้นตำแหน่งตนคือผู้อำนวยการ พอคนมาเรียกบอส ก็ปล่อยให้เรียก

ส่วนนักแสดงคนอื่นๆที่โดนเหมือนกับตนนั้นตนก็ได้มีการคุยกับ “น้องมิน” ว่ามันเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ยังไง แต่การที่มาคุยเรื่องนี้ไม่ได้ต้องการมายอมรับว่าเป็นจำเลยทางสังคม เพียงแค่ออกมาพูดเพื่อที่จะให้ข้อมูลกับทุกคน และถ้าจะให้ตนพูดแทนบริษัทก็คงพูดไม่ได้เพราะไม่ได้รู้เรื่องอะไรเข้ามาครั้งนี้ ก็ไม่ได้มาเป็นเจ้านาย หากตำรวจเชิญไปเรียกก็พร้อมไปให้ข้อมูลอยู่แล้ว และการออกมาพูดไม่ได้จะแก้ตัว เพียงแค่เอามาพูดในมุมมองของตนหลังจากนี้สังคมจะมองตนยังไงก็อยู่ที่ให้ข้อมูลที่ตนบอกไป.