ปปง.เดินหน้าไล่เช็คทรัพย์สิน "บอสพอล-ก๊วนดารา" เตือนอย่าย้ายทรัพย์

14 ต.ค. 67

เลขา ปปง. ไล่เช็คทรัพย์สิน"บอสพอล-ก๊วนดารา" แย้มหากข้อมูลครบ จ่อยึดทรัพย์ทันที เตือน โยกย้าย-จ่ายโอนทรัพย์หนี ส่อโดนฟอกเงินหลายกระทง

จากกรณีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด - The iCon Group Co., Ltd. ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม ถูกผู้เสียหายกว่า 500 ราย มูลค่าความเสียหาย 118 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัทและกรรมการต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ให้ตรวจสอบว่าบริษัทฯ เข้าข่ายกระทำความ ผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 รวมทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบการครอบครองทรัพย์สินมูลค่าสูงของบรรดาผู้บริหารบริษัทฯ ดังกล่าว

ล่าสุด วันนี้ (14 ตุลาคม 2567) นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. เปิดเผยว่า สำนักงาน ปปง. กำลังจะมีการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมในวันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคมนี้ เวลา 13.30 น. โดยวาระสำคัญของการประชุมจะเกี่ยวกับการดำเนินการทางทรัพย์สินของ 2 คดีสำคัญ คือ คดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด และคดีทอง 99.99% หรือคดีของ น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร (แม่ตั๊ก) และนายกานต์พล เรืองอร่าม (ป๋าเบียร์) เนื่องจากคณะกรรมการธุรกรรม มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลสำนักงาน ปปง. เพื่อตรวจสอบธุรกรรม หรือรายการทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด
ดังนั้น กรณีคดีของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ถือเป็นเรื่องราวที่สังคมให้ความสนใจอย่างยิ่ง ตนจึงได้เตรียมเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรม เพื่อขอให้ที่ประชุมมีมติให้ตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินในเชิงลึก นอกจากนี้ ขอบเขตการตรวจสอบเรื่องทรัพย์สิน ปปง. จะทำการตรวจสอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินของนิติบุคคล หรือบุคคลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนธุรกิจ เพราะ ปปง. ได้มีการประสานข้อมูลอย่างใกล้ชิดกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. รวมทั้งยังประสานงานกับ สคบ.

นายเทพสุ เผยอีกว่า สำหรับกรณีของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด จากแนวทางการทำงานสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจากรายงานข่าวสารสื่อมวลชน พบว่าเข้าข่ายเป็นความผิดฐาน พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ส่วนมูลค่ารายการทรัพย์สินที่ ปปง. จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมเพื่อตรวจสอบก่อนมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์ จะเป็นรายละเอียดตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. จะได้ประสานข้อมูลรายงานตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประสานงาน ซึ่งในการทำงานร่วมกันนี้จะไปสู่มิติของการทำคดีอาญาที่ตำรวจจะตั้งประเด็นการสอบสวนว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง ใครคือผู้ต้องหา และเกี่ยวข้องโดยพฤติการณ์ใด เบื้องต้นจึงยังอยู่ระหว่างดำเนินการรวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วนรอบด้านก่อน จึงยังไม่สามารถสรุปตัวเลขมูลค่า และประเภทรายการทรัพย์สินได้ ทั้งนี้ จะเป็นบรรดารถยนต์หรู นาฬิกาหรู บ้านหลังโต เงินสด เงินฝากในบัญชีธนาคารหรือไม่ ขอให้สังคมจับตาดูการทำงานอย่างเต็มที่ ถูกต้อง และรวดเร็วของ ปปง.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส