องุ่นไซมัสคัส หรือ องุ่นไชน์มัสแคท กับ 5 เหตุผล ทำไมคนไทยถึงฮิตกินกัน? ย้อนจุดเริ่มต้นวันเฟื่องฟูสู่วันตรวจพบสารพิษตกค้างอื้อ
องุ่นไซมัสคัส หรือ องุ่นไชน์มัสแคท จุดกำเนิดมาจากไหน
องุ่นไซมัสคัส หรือที่เรียกว่า องุ่นไชน์มัสแคท (Shine Muscat) มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น เป็นพันธุ์องุ่นที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยการผสมพันธุ์ระหว่างองุ่นพันธุ์ Akitsu-21 และ Hakunan ในช่วงทศวรรษ 1980 โดยสถาบันวิจัยด้านการเกษตรในประเทศญี่ปุ่น และวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในปี 2006
องุ่นไชน์มัสแคท ถูกยกให้เป็น "ราชินีแห่งองุ่น" หรือบางสื่อเปรียบเปรยว่าเธอคือ "แอร์เมสแห่งวงการองุ่น" ด้วยมีคุณลักษณะเด่นคือ เม็ดกลมใหญ่ เนื้อกรอบ รสชาติหวาน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวขององุ่นมัสแคท เปลือกบาง สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือก ทำให้เป็นที่นิยมในตลาดผู้บริโภคที่ชื่นชอบผลไม้ที่มีรสหวานและเนื้อสัมผัสไม่สากกระด้างทำลายสุนทรียแห่งการรับรส
นอกจากนี้ องุ่นไชน์มัสแคทยังถูกปลูกในหลายประเทศในเอเชียและยุโรป แต่การปลูกที่มีคุณภาพสูงยังคงอยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นหลัก
องุ่นไซมัสคัส หรือ องุ่นไชน์มัสแคท ได้รับความนิยมในไทยได้อย่างไร
องุ่นไซมัสคัส หรือ องุ่นไชน์มัสแคท ได้รับความนิยมในประเทศไทยเนื่องจากหลายปัจจัยสำคัญ ดังเช่น
คุณภาพและรสชาติที่โดดเด่น : องุ่นไชน์มัสแคทมีรสชาติหวานหอม เนื้อกรอบ และสามารถทานได้ทั้งเปลือก ทำให้เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคที่ชื่นชอบผลไม้คุณภาพสูง นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมัสแคทที่ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะเมื่อเทียบกับองุ่นสายพันธุ์อื่น
การตลาดและภาพลักษณ์ที่ดี : องุ่นไชน์มัสแคทได้รับการโปรโมตว่าเป็นผลไม้พรีเมียมที่มีคุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการเกษตรและสินค้าคุณภาพดี การบรรจุและการนำเสนอที่หรูหราก็ช่วยดึงดูดผู้บริโภคในตลาดพรีเมียมของไทย
ความนิยมในวัฒนธรรมญี่ปุ่น : คนไทยหลายคนชื่นชอบและมีความสนใจในวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมถึงอาหารและผลไม้จากญี่ปุ่น การที่องุ่นไชน์มัสแคทมีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่นทำให้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของการนำเข้าผลไม้พรีเมียมจากญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยม
การนำเข้าและกระจายสินค้า : ผู้นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นได้นำองุ่นไชน์มัสแคทเข้ามาจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านผลไม้พรีเมียมในประเทศไทย ทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงองุ่นชนิดนี้ได้สะดวกมากขึ้น
การเติบโตของตลาดผลไม้พรีเมียม : ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดผลไม้พรีเมียมในไทยเติบโตขึ้นอย่างมาก มีผู้บริโภคที่พร้อมจะจ่ายเพื่อสินค้าที่มีคุณภาพสูงและรสชาติดี องุ่นไชน์มัสแคทจึงกลายเป็นผลไม้ที่ได้รับความสนใจในตลาดนี้
ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คาดว่าทำให้องุ่นไชน์มัสแคทกลายเป็นผลไม้ยอดนิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย
องุ่นไซมัสคัส หรือ องุ่นไชน์มัสแคท เข้ามาในไทยตอนไหน
องุ่นไซมัสคัส หรือ องุ่นไชน์มัสแคท (Shine Muscat) เริ่มเข้ามาในประเทศไทยประมาณช่วงปี 2010 หรือหลังจากนั้นเล็กน้อย โดยเริ่มจากการนำเข้าผ่านผู้นำเข้าผลไม้พรีเมียม ซึ่งในช่วงแรกจะพบเห็นในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือตลาดผลไม้ระดับพรีเมียมเท่านั้น เช่น ห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่จำหน่ายสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ
ในช่วงแรก องุ่นไชน์มัสแคทยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป เนื่องจากมีราคาค่อนข้างสูงและจำหน่ายในตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่หลังจากนั้นด้วยคุณภาพและรสชาติที่โดดเด่นขององุ่นชนิดนี้ ประกอบกับการตลาดและความนิยมของสินค้าเกษตรจากญี่ปุ่น ทำให้องุ่นไชน์มัสแคทได้รับความสนใจและมีการนำเข้าเพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในประเทศไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันนี้ องุ่นไชน์มัสแคทเป็นที่รู้จักในตลาดผลไม้พรีเมียมของไทย และสามารถพบได้ในหลายแห่ง รวมถึงตลาดผลไม้ทั่วไป
การปรากฏตัวของ องุ่นไซมัสคัส หรือ องุ่นไชน์มัสแคท จากจีน
องุ่นไซมัสคัส หรือ องุ่นไชน์มัสแคทจากจีน เริ่มเข้ามาในประเทศไทยหลังจากที่องุ่นไชน์มัสแคทจากญี่ปุ่นได้รับความนิยมแล้ว โดยประมาณช่วง กลางปี 2010 หรือหลังจากนั้นไม่นาน หลังจากที่เทคโนโลยีการปลูกองุ่นไชน์มัสแคทได้รับการถ่ายทอดไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความสามารถในการผลิตผลไม้ในปริมาณมากและราคาที่แข่งขันได้
จีนได้พัฒนาการปลูกองุ่นไชน์มัสแคทให้มีคุณภาพดีในหลายภูมิภาคที่มีสภาพอากาศเอื้อต่อการปลูกองุ่น การผลิตองุ่นไชน์มัสแคทในจีนสามารถทำได้ในปริมาณมากขึ้น ส่งผลให้ราคาลดลงเมื่อเทียบกับองุ่นที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งทำให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นในช่วงปี 2020 เป็นต้นมา
แม้ว่าองุ่นไชน์มัสแคทจากจีนจะมีราคาถูกกว่าองุ่นจากญี่ปุ่น แต่เรื่องรสชาติ กลิ่นหอมเฉพาะตัว และรสสัมผัส บางคนบอกว่า ต่างกัน, เทียบกันไม่ได้ ทว่า บางคนกลับบอกว่า ไม่ต่างกันสักเท่าไร หรือแทบไม่ต่าง ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นเรื่อง ลิ้นใครลิ้นมันทั้งสิ้น
ข้อพึงระวังในการรับประทาน องุ่นไซมัสคัส หรือ องุ่นไชน์มัสแคท หลังตรวจพบสารพิษตกค้างเกินกว่ากฎหมายกำหนด
สืบเนื่องจากการ เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) ร่วมกับนิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สุ่มตรวจองุ่นไชน์มัสแคท 24 ตัวอย่าง ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล โดยสุ่มตรวจสารเคมีเกษตรมากกว่า 400 ชนิด พบสารเคมีเกษตรตกค้างในทุกตัวอย่างที่ตรวจ และพบตกค้างเกินค่ามาตรฐานมากถึงร้อยละ 95.8 ผนึกกำลัง อย. ยกระดับการเฝ้าระวังความปลอดภัยผักผลไม้เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค
ซึ่งจากประเด็นนี้เองอาจต้องจับตาดูกันต่อกับอนาคตของ องุ่นไซมัสคัส หรือ องุ่นไชน์มัสแคท จะได้รับความนิยมต่อไปหรือไม่อย่างไร หรือนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสู่การรูดม่านความนิยมของ องุ่นไซมัสคัส ?
รวบรวมข้อมูลจาก : winepigeon.com / thechinaacademy / มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
