เปิดใจ! ยายวัย 77 ปี ถูกหมอดูฮวงจุ้ยหลอกทำพิธี สูญ 66 ล้าน ทั้งโรยผงกระดูกผี แก้คุณไสย ลั่น หลงคำพูดจา “ขอให้หยุดแค่นี้ มันบาป และคืนด้วย”
จากกรณีเพจ บิ๊กเกรียน ได้โพสต์ภาพ และเล่าถึงเรื่องราดเหตุการณ์ที่คุณยายวัย 77 ปี ท่านหนึ่ง ถูกหลอก ดูฮวงจุ้ย และ ค่า วัตถุมงคล ค่าทำพิธี 66 ล้าน
โดยโพสต์ระบุว่า #หมอดูฮวงจุ้ยช่องดังป้ายยาคุณยายกับลูกสาวรวม66ล้านบาทเกลี้ยงบัญชี
-คุณยายวัย 77 ปีเห็น หมอดู ฮวงจุ้ย ในทีวีดิจิทัลช่องดัง หลงเชื่อ เลยติดต่อให้มาดูฮวงจุ้ย ที่บ้าน เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2567
-แค่เรียกมาดู แต่คุณยายกับลูกสาวเหมือนถูกป้ายยา โดนค่าต่างๆ เพื่อใช้ ดูฮวงจุ้ย และ ค่า วัตถุมงคล ค่าทำพิธี ครั้งแรกรวมแล้ว 1.3 ล้านบาท
-จากนั้น จ่ายยิบจ่ายย่อย หมอดูฮวงจุ้ย อ้างเป็นค่า ค่าทำพิธี 9 แสน ค่าภาษีอากร นำเข้า 6 แสน ค่าพระผงกระดูกผี 4.4 ล้าน
-ตั้งแต่ เดือน ค่านิมนต์พระทำพิธี 6 หมื่น ค่าพิธีล่มศาล 2 ล้าน ค่าซื้อที่ดิน สุสาน 4 แสน ค่าสิงห์ 2 ตัว 1.2 ล้าน
-แพงสุด ค่าหินแกะสลักศักดิ์ นำเข้าจากเมื่องจีน 38 ล้านบาท แต่ไม่เห็นของ
-ตลอด เดือนกุมภาพันธ์-ตุลาคม ยอมรวม จ่ายไป 66 ล้านบาท
-คุณยาย บอกว่า มาทุกครั้ง ต้องโอนเงินจ่ายทุกครั้ง อ้างต้องปรับเปลี่ยน ฮวงจุ้ย แก้ คุณไสย ทำพิธีต่างๆ
-พอทวงถาม ว่าพิธีจะเริ่มเมื่อไร ของเซ่นไหว้ วัตถุมงคลที่สั่งไปจะมาวันไหน กลับสร้างความไม่พอใจ ให้หมอดู ฮวงจุ้นช่องดัง เกิดอารมณ์เกรี้ยวกราด จึงรู้ว่า โดนหลอกแล้ว
-วันที่ 29 ตุลาคม 2567 จึงรวบรวมหลักฐาน ให้ลูกสาวไปแจ้งความที่ สน.บางกอกน้อย ให้ดำเนินคดี กับหมอดู ต ล ฮ จ ฐานฉ้อโกง
-คุณยาย บอกว่า ได้มาแค่ สิงห์ 1 คู่ ศาลเจ้าที่ตี้จู้เอี๊ยะ 1 หลัง กับ เจาะหลุม อีก 4 หลุม
-"ทำกับคนแก่ได้อย่างไร เงินที่เอาไป ทั้งหมดจนเกลี้ยงบัญชี เป็นเงินเก็บไว้รักษาผู้ป่วยติดเตียง"
จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่ทันที ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริษัท อมรินทร์ฯ โดยผู้ร้องเรียนอยู่ที่บ้าน ย่านจรัญสนิทวงศ์ เมื่อเดินทางมาถึง พบว่าบริเวณด้านหน้าบ้านเป็นอาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้นมี 8 ห้องอยู่ระหว่างรีโนเวทปรับปรุง ขณะที่พื้นที่ชั้นในเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขณะที่ฝั่งทิศใต้และทิศตะวันออกมีโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมประมาณ 20 ชั้น
ทีมข่าวพบคนภายในครอบครัว ซึ่งอยู่กันพ่อแม่ มีลูกสาว 2 คน รวมถึงพี่สาวแม่ (ป่วยติดเตียง) โดยข้อมูลของครอบครัวนี้ ค่อนข้างมีฐานะ ซึ่งอยู่กันมาตั้งแต่รุ่นปู่ของ แม่ หรือนางเดือน(นามสมมติ) อายุ 77 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งทำธุรกิจให้เช่าตึกแถว 6 ห้อง อยู่เอง 2 ห้อง ส่วนพื้นที่ด้านหลัง ให้เช่าที่จอดรถ ต่อมาโครงการคอนโดขอแบ่งซื้อที่ข้าง ๆ เพื่อทำทางเข้า-ออก (หลักหลายล้าน) จึงมีเงิน ก่อนนำเงินมาปลูกสร้างบ้าน โดยยกเลิกการทำที่เช่าจอดรถมาสร้างบ้านอยู่แทน
ทีมข่าวพบนางเดือน (นามสมมติ) อายุ 77 ปี เป็นเจ้าของบ้าน มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ความจำดีเป็นปกติ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ช่วงเข้าอยู่ก็มีหลายอย่างที่พังเสียหาย เช่น กำแพงบ้านร้าวพัง 3 ครั้ง ฝ้าเพดานบ้านพัง 2 รอบ พื้นปูนโดนรอบบ้านทำคอนกรีต แสตมป์อีก 2-3 ครั้ง ก็ร้าว ร่องรางน้ำหลังบ้าน ท่อระบายน้ำ ก็ไม่แล้วเสร็จปรับปรุงอยู่หลายรอบ และรางน้ำฝนก็แก้ไข ตนเองคิดว่ามันมีอะไรติดขัด โดยไม่เคยคำนึงถึงโครงการก่อสร้างต่าง เช่นโครงการรถไฟฟ้า ที่อยู่หน้าบ้านเลย แต่กลับไปคิดว่า “มันมีอะไรแอบแฝง” ซึ่งจากการติดตามรายการทีวี มีอาจารย์ดูฮวงจุ้ยชื่อดัง น่าเชื่อถือ จึงบอกลูกสาวคนโต ให้โทรศัพท์ติดต่อมาช่วยดูบ้านให้หน่อย ก่อนเชิญมา
ซึ่งนางเดือนบอกว่า “คนเราถ้าคิดดีทำดีนับถือในศาสตร์ที่ร่ำเรียนมา ก็ไม่น่าเอาของ ๆเราแบบนี้แต่นี่โลภเกินความจำเป็น เช่น มีสิ่งของแก้เคล็ด “ธนูลม” แก้ไขเรื่องหม้อแปลงผิดหลัก ที่เจ้าตัวเอ่ยถึงในช่องทีวี เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอ ไม่น่ามีพิธี หรือมีอะไรที่มากมายขนาดนี้ เพราะเงินของเราก็หามาจากน้ำพักน้ำแรง และด้วยความรู้สึกตอนนั้น“มันก็เหมือนมีอะไรบังตา” ทำให้ตนเชื่อไปหมดด้วย
เมื่อถามว่าถูกทักท้วงอะไรบ้าง เช่น เสาไฟฟ้าที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าบ้าน หม้อแปลงคอนโดมิเนียมหลังบ้าน ช่องลมของคอนโดมิเนียม รวมไปถึงถูกทักว่าจะเสียชีวิตภายในปีนี้ นางเดือน บอกว่า “ไม่ได้ตกใจแต่หวนคิดว่ามันจะเป็นไปได้หรือไม่” แต่จากที่ติดตามในทีวีอาจารย์คนดังกล่าวพูดถึงเสาไฟฟ้าหม้อแปลง ซึ่งต้องมีธนูลมมาแก้ มิเช่นนั้นจะปวดท้อง พอฟังแล้วรู้สึกว่าน่าจะมีส่วน เมื่อมาพูดให้ฟังที่บ้าน
โดยในวันแรกที่เข้ามาที่บ้านคือวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ทำพิธีมอบส้ม 4 ลูก ตามพิธีเหมือนบ้านหลังอื่นๆที่ตนเองเคยติดตาม ก่อนจะถ่ายรูปตรงหัวมุมบ้าน (ทราบภายหลังว่ามีค่าทำพิธีอัญเชิญมาดูที่บ้าน จ่ายเงินไป 55,000 บาท)
ต่อจากนั้นมาอาจารย์มาที่บ้านบ่อยมาก โดยครั้งหนึ่งที่จำได้คือการพูดคุยกับตนและสามีเป็นการส่วนตัวไม่ให้ลูกสาวทั้ง 2 คนเข้าไปร่วมพูดคุยด้วย ในวันนั้น มีการโน้มน้าว “แม่จะต้องสร้างสุสานคนเป็นเพื่อรองรับตอนที่เราไม่มีชีวิตอยู่ลูกหลานจะได้มากราบไหว้“ พร้อมถามถึงครอบครัวและญาติพี่น้องว่ามีกี่คน ย้ำต้องซื้อพื้นที่ให้กว้าง บุคคลที่ล่วงลับไปแล้วต้องเอากระดูกของบรรพบุรุษที่เสียชีวิตแล้วไปไว้รวมกัน การทำพิธีต้องเดินทางตอนเย็นเพื่อนำกระดูกไปไว้ ซึ่งพื้นที่ที่พูดคุยกันคือจังหวัดชลบุรี ซึ่งการซื้อพื้นที่สุสานคนเป็นรวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท นางเดือนย้ำว่าจ่ายไปหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นพื้นที่ดังกล่าว
ทั้งนี้สืบเนื่องจากลูกสาวคนโตของตนทำงานเกี่ยวกับสรรพากรมาก่อน ได้เก็บรวบรวมรายละเอียดทั้งหมดเอาไว้ พยามขอหลักฐานบางอย่างในการจัดซื้อสิ่งของ ก่อนจะไม่มีหลักฐานให้ลูกสาวจึงขอเงินคืน พร้อมย้ำว่าไม่มีของก็ขอเงินคืน ปรากฏว่า อาจารย์คนดังกล่าว กระแทกน้ำเสียง “ มีสิต้องมีสิ จะไม่มีได้อย่างไร ไม่แล้วจะทำพิธีได้อย่างไร” ก่อนถึงจุดแตกหัก ย้ำกับลูกสาวคนโตว่าจะหาฤกษ์ให้ โดยคาดว่าจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน 67 ซึ่งไม่ได้มีการบอกว่าจะมีการตั้งสิ่งและกิเลสที่ซื้อไว้ครบหรือไม่รวมไปถึงอื่น ๆ เพียงแต่บอกว่าจะหาฤกษ์งามยามดีให้
พร้อมกันนี้มีการย้ำถึงใบสั่งจองสินค้าต่าง ๆ โดยเฉพาะสิ่งและกิเลส รวมถึงแผ่นดินที่จะใช้ในการสร้างสุสานคนเป็น ได้สั่งตรงจากจีน มีใบคำสั่งซื้อพร้อมที่ขนส่งให้ทัน มีการส่งไลน์มาให้ดูแต่มันไม่มี
นางเดือน เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนอายุเท่านี้ยังหวนคิดกับตัวเองว่าทำไมถึงให้เด็กรุ่นลูกมาหลอกลวงได้ แต่ได้พยายามตั้งสติ พร้อมคิดว่าเรายังมีเงินเหลืออยู่ เราต้องตั้งหลักและตั้งสติให้ได้ และหยุด นึกถึงเงินที่มีอยู่ต้องเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็น เพราะไม่ใช่แค่ตนเองเพียงคนเดียว ตอนนี้มีพี่สาวที่ป่วยติดเตียง ที่ต้องดูแล ซึ่งจากเดิมพี่สาวอยู่โรงพยาบาลอยู่ดี ๆ แต่เมื่อการเงินสะดุดต้องรับพี่สาวกลับมาอยู่บ้าน และจ้างพยาบาลมาดูแลเป็นครั้งคราวเท่านั้น
นางเดือน กล่าวย้ำในช่วงท้ายว่า นอกจากจะมีอะไรบังตาที่ทำให้เชื่อ อาจารย์คนดังกล่าวพูดจาดีมาก โดยเฉพาะประโยคเด็ดที่ตนเองฟังแล้วชื่นใจ “แม่มีอะไรปรึกษา โทรหาได้ตลอดทุกเวลา“ พร้อมย้ำว่าจะดูแลบ้านหลังนี้ให้ตลอดไป รวมถึงที่ดินคนเป็นก็จะดูแลให้ แม้ย้ายไปอยู่จีน ก็สั่งเสียไว้ว่าจะส่งคนมาดูแล
“วันนี้อยากย้ำไปถึงอาจารย์คนดังกล่าวว่าอย่าไปหลอกลวงคนอื่นเลยมันบาป ให้หยุดแค่นี้ ขอเงินคืน ฉันไปทำอะไรมาหลอกลวงฉัน ฉันแค่มาให้ดูบ้านเฉยๆ แต่มาหลอกลวงเอาเงินการทำตัวแบบนี้มันเหมือนโจร”
“ตนเองยังคงเชื่อในศาสตร์ต่างๆที่เกี่ยวกับดวง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นวิชาความรู้ควรใช้ในทางที่ดี แต่เป็นเพราะบุคคลที่ประพฤติไม่ดี วอนอย่าไปทำต่อไปมันไม่ดี มันจะเป็นบาปกรรม“
ขอบคุณภาพเพจบิ๊กเกรียน