"จี กามิน" กลับมากู้ศักดิ์ศรี ร่ำไห้เปิดใจเคลียร์ทุกดรามาทุกประเด็น

6 พ.ย. 67

"จี กามิน" กลับมากู้ศักดิ์ศรี ร่ำไห้เปิดใจเคลียร์ทุกดรามาทุกประเด็น ยันไม่เคยบอกคนไทยหลอกง่าย – ไม่เคยเผาบ้าน แน็ก ชาลี เดินหน้าฟ้องเกรียนคีย์บอร์ดไทย ขู่ตั้งค่าหัว

วันที่ 6 พ.ย. 67 ที่โรงแรม The Grand FourWings Convention กทม. น.ส. จี กามิน ติ๊กต็อกเกอร์ และอินฟลูเอนเซอร์สาวชาวเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นอดีตแฟนสาวของ แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ นักแสดงหนุ่มชื่อดัง พร้อมทีมทนายความและลาม จัดแถลงข่าว “กามินกลับมาเพื่อพิสูจน์ความจริง” 

โดย จี กามิน กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานแถลงข่าวในวันนี้ ตนไม่อยากให้มาถึงเหตุการณ์ในวันนี้เลย แต่ต้องออกมาชี้แจง เพื่อมาปกป้องตัวเอง ปกป้องครอบครัว และปกป้องทุกคนที่ตนรัก ตนต้องการออกมาพูดความจริงให้ทุกคนได้ทราบว่าอะไรที่ไม่ใช่ความจริงบ้าง และวันนี้ได้พูดความจริงในฝั่งตัวเอง 

จี กามิน กล่าวว่า ตอนที่ตนเข้ามาเมืองไทยครั้งแรกประมาณช่วงเดือน ม.ค. ตอนนั้นรู้สึกมีความสุขมากๆ และดีใจมากที่หลายคนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ได้เข้ามาทำงานอย่างมีความสุข และสนุกสนานมาก 

ที่ผ่านมาก็มีปัญหาเรื่องการติดต่อสื่อสารบ้าง ตนไม่เข้าใจภาษาไทย แต่ทุกคนก็ใจดี ช่วยพยายามทำความเข้าใจ สำหรับบรรยากาศที่เข้ามาทำงานในช่วงแรกๆ นั้นตอนนั้นรู้สึกมีความสุขสนุกสนานตลอด เพราะทุกคนใจดีมาก โดยเฉพาะครอบครัวฝั่งนั้นและทีมงาน อบอุ่นดูแลอย่างดี 

จี กามิน กล่าวว่า ส่วนเรื่องรายได้ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ไม่ได้มีปัญหาอะไร รายได้มีการได้รับจัดสรรแบบดีมาก 

สำหรับการอาศัยอยู่ในประเทศไทยนั้น ประมาณช่วงเดือน มี.ค. –เม.ย. ตนพักอยู่ที่โรงแรม แต่ส่วนมากจะอยู่ที่สตูดิโอ และบ้านของฝั่งนั้นที่เคยทำงานร่วมกัน ส่วนความสัมพันธ์กับฝั่งนั้น และครอบครัวของฝั่งนั้น ให้การดูแลและต้อนรับตนเป็นอย่างดีตลอดทุกคน และอบอุ่นเสมอมา แม้กระทั่งจะจนถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกขอบคุณมากๆ มาโดยตลอด  ส่วนเรื่องโรงแรมที่พักเป็นโรงแรมที่ตนไม่ได้จองเอง แต่เป็นทางฝั่งบริษัทของฝั่งนั้นเป็นคนจัดการเรื่องการจองโรงแรมให้ ในขณะที่มาทำงานในประเทศไทยซึ่งทางฝั่งนั้นสามารถเช็ก และตรวจสอบได้ตลอดว่ามีใครเข้ามาโรงแรมบ้าง เพราะโรงแรมมีกล้องวงจรปิด และฝั่งท่านั้นก็มีคีย์การ์ดของโรงแรมอยู่ด้วย และหากตนจะมีมีการพบกับคนอื่นก็จะไม่มีการมาพบที่โรงแรม และข่าวต่างๆ ที่ออกมาไม่เป็นความจริง 

จี กามิน กล่าวว่า ส่วนที่บอกว่า ตนติดเหล้า ติดแอลกอฮอล์นั้น จริงๆ แล้วตนสามารถดื่มเหล้าได้ เพราะอยู่ที่เกาหลีก็ดื่มเหล้ากับครอบครัวและเพื่อนๆ เพื่อสังสรรค์กัน แต่มาเมืองไทยไม่ค่อยจะดื่มเหล้า แต่อาจจะมีบ้างเดือนละครั้ง หรือเดือนละสองครั้ง และบางเดือนก็ไม่ได้ดื่มเหล้าเลย ไม่ได้ดื่มบ่อยถึงขั้นนั้น อีกทั้งตนไม่เคยดื่มเหล้าในขณะที่ทำงาน 

เมื่อถามว่า งานอีเวนท์ต่างๆ ที่ได้รับเงินค่าจ้างมา เรารู้หรือไม่ว่าเป็นอย่างไร จี กามิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วแทบจะไม่ทราบเลย เพราะทางผู้ว่าจ้างจะว่าจ้างจากทางบริษัท ตนได้รับเงินจากทางบริษัท จึงทราบแค่ส่วนนั้น ซึ่งทุกครั้งที่ได้รับเงินก็รู้สึกพอใจ และขอบคุณมากๆ 

เมื่อถามถึง เรื่องการหักภาษี จี กามิน กล่าวว่า ค่าจ้างที่ได้รับจากทางบริษัทจะมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายเรียบร้อยแล้ว และค่าจ้างที่เข้าไปในบัญชีก็จะมีการหักภาษีของเกาหลี ซึ่งจะมีการจ่ายภาษีในปีหน้า 

เมื่อถามว่า มีการจ้างไลฟ์ 1 ล้านบาทเป็นอย่างไร จี กามิน กล่าวว่า ไม่ใช่ความจริงซึ่งการไลฟ์หนึ่งครั้งได้เงินหนึ่งล้านบาท ตนก็เพิ่งได้เคยได้ยินข่าว ซึ่งมันไม่ใช่ความจริง ขอบคุณทุกคนมากที่คิดว่าตนสามารถที่จะไลฟ์ครั้งหนึ่งได้เงินหนึ่งล้านบาท 

ส่วนเหตุการณ์ไฟไหม้บ้านนั้น จี กามิน กล่าวว่า จริงๆวันนั้น ตนเองออกไปช้อปปิ้งที่ห้างฯ กับล่าม หลังจากที่ช้อปปิ้งเสร็จแล้วก็กลับไปที่สตูดิโอ และกลับไปที่บ้านที่เกิดเหตุไฟไหม้ พร้อมกับผู้จัดการ พอมาถึงที่บ้านแล้วเข้าไปในบ้านก็ได้กลิ่นไหม้ขึ้นเรื่อยๆ ห้องที่ไฟไหม้อยู่ชั้น 3 แต่ตอนนั้นกลางคืนและไฟดับเรียบร้อยแล้ว 

เมื่อถามว่า บ้านหลังนั้นเป็นที่บ้าน จี กามิน พักอาศัยอยู่กับใคร จี กามิน กล่าวว่า บ้านหลังนั้นเป็นบ้านที่ตนใช้ชีวิตอยู่กับอีกฝั่งหนึ่ง ส่วนทรัพย์สินภายในบ้านตนก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่เท่าที่เห็นก็ไม่ทราบว่ามีของมีค่าหรือไม่ เพราะไม่ใช่บ้านของตน ไม่ทราบรายละเอียดตรงนี้ สำหรับสาเหตุของการเกิดไฟไหม้นั้น ตนไม่ทราบจริงๆ ว่าเหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่คิดว่าน่าจะเป็นการเกิดเองโดยธรรมชาติ หรืออุบัติเหตุอะไรสักอย่าง ตนก็ไม่ทราบเหมือนกัน 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่า จี กามิน บอกว่าคนไทยหลอกง่าย เผยแพร่ไปทางช่องทางต่างๆ นั้น จี กามิน กล่าวว่า ตนไม่เคยพูด และไม่เคยคิดเช่นนั้นเลย เพราะจริงๆ แล้วตนได้รับความรักมากมายจากคนไทย เพราะฉะนั้นตนจะกล้าพูดประโยชน์แบบนี้ต่อคนไทยได้อย่างไร ไม่รู้ว่าข่าวนี้มาจากที่ไหน และอยากทราบเหมือนกันว่ามันมาจากที่ไหน ถ้ามีคนพูดประโยคนั้นจริงๆ ขอให้ไปถามคนที่ที่พูดดีกว่า สำหรับตนไม่เคยพูด และไม่เคยคิดแบบนั้น ไม่มีเหตุผลที่ต้องพูดประโยคนั้นในสถานการณ์นั้นกับใครเลย 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คำพูด อาทิ สก๊อยส์เกาหลี สุวรรณมาลี และคำพูดต่างๆ มากมายในโซเชียล รับฟังครั้งแรกเข้าใจหรือไม่ จี กามิน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่ทราบความหมายคำพวกนั้น แต่มาทราบความหมายของคำพูดเหล่านั้นก็ช่วงใกล้ๆ ที่ผ่านมา และไม่เคยบอกพ่อแม่ว่าคำพูดเหล่านั้นหมายความว่าอย่างไร แม้ว่าท่านจะเคยถาม เพราะถ้าท่านรู้ ก็คงรู้สึกเสียใจเ หมือนกับที่ตนรู้สึกเสียใจ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไรถึงมีการใช้คำพูดที่รุนแรงขนาดนั้นกับตน ตนไม่ทราบว่าตนทำความผิดอะไรที่ยิ่งใหญ่ หรือทำผิดบาปอะไรที่ใหญ่มหันต์ขนาดนั้น ถึงต้องมีการใช้คำพูดเหล่านั้นกับตน 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเข้ามาฟอกเงิน และตั้งแก๊งอาชญากรรม จี กามิน กล่าวว่า ครอบครัวของตนและตนไม่เคยทำอะไรแบบนั้น และพวกเราก็ไม่ใช่แก๊งต้มตุ๋น และไม่ใช่อาชญากร เมื่อถามว่าครอบครัวและ จี กามิน เคยมีประวัติการกระทำความผิดที่ประเทศเกาหลี หรือไม่ จี กามิน กล่าวว่า ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมที่ประเทศเกาหลี 

ที่ผ่านมาตนเรียนเกี่ยวกับด้านการเต้นมาโดยตรง ตั้งแต่ระดับมัธยม และไปเรียนต่อระดับชั้นอุดมศึกษาในด้านการเต้นโดยเฉพาะ เพราะมีความฝันว่าในอนาคตอยากเป็นครูสอนเต้น และตนเคยเดินทางไปที่กรุงโซล เพื่อที่จะไปเรียนระดับปริญญาโท และเคยทำงานเกี่ยวกับ เดอะมิวสิคัล ประมาณ 5-6 ปีแล้วเคยทำ และเคยทำกิจกรรมแสดงต่างๆ เกี่ยวกับการเต้นกับบริษัทชื่อดังประมาณ 1 ปี 

สำหรับความฝันก็คือ เคยคิดว่าอยากจะมีการสร้างครอบครัว อยากเป็นแม่คน อยากมีชีวิตที่มั่นคง ถ้าเราจะแต่งงานเป็นแม่คน และมีชีวิตที่มั่นคง อยากจะไปสอนตามโรงเรียนเป็นครูสอนเต้น ตอนแรกก็คิดว่าจะไปสอนเรียนพิเศษต่างๆ ซึ่งก็อยากเป็นครูสอนเต้นตามหลักสูตร และทำงานมั่นคง มีครอบครัว 

เมื่อถามว่า ตั้งแต่กลับไปประเทศเกาหลี จนมาถึงปัจจุบันเคยให้สัมภาษณ์สื่อใดๆ กล่าวร้ายใครหรือไม่ จี กามิน กล่าวว่า ตนไม่เคยพูดว่าร้ายใคร ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนั้น เพราะตนคิดว่าตนไม่ใช่คนแบบนั้น ตนจะไม่ว่าร้ายใคร แม้กระทั่งการออกมาที่นี่ก็ไม่ได้คิดว่าจะมาพูดว่าอะไรใคร และไม่เคยพูดคำหยาบอะไรแบบนี้เลย 

เมื่อถามว่า ข่าวต่างๆ ที่ออกมาส่งผลกระทบอย่างไรต่อหรือไม่ จี กามิน กล่าวว่า ตอนที่พูดถึงข่าวที่คอมเม้นต์ไม่ดี ตนคิดว่าตนน่าจะเป็นคนจิตใจเข้มแข็ง แต่แล้วตนก็เป็นคนธรรมดาก็รู้สึกเสียใจ ซึ่งพี่ชายของตนเป็นข้าราชการอยู่ที่เกาหลี ลาพักร้อน 1 เดือนมาดูแลตนโดยเฉพาะ เพื่อดูแลสภาพจิตใจ 

สำหรับตน การที่มาเมืองไทยก็มีหลายอย่างที่ได้เรียนรู้ ไม่มีอะไรเลยนอกจากคำว่าขอบคุณมากๆ ทุกคนที่รักและดูแลรู้สึกว่า ทุกคนให้ความรัก และตนรู้สึกรักคนไทยจริงๆ ขอบคุณมากๆ ที่คอยให้ความรัก และความอบอุ่นกับตนตลอด 

ด้าน ทนายพรชัย พฤกษ์ชัยเลิศ ทนายความของ จี กามิน กล่าวว่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงๆ แล้วไม่ควรเดินมาถึงวันนี้ ถ้าวันที่ จี กามิน เดินทางออกจากประเทศไทยไปที่ประเทศเกาหลีแล้วทุกอย่างควรจะต้องจบลง ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ด้านใด ไม่มีใครถูกไม่มีใครผิด เพราะเป็นเรื่องระหว่างคนสองคนเท่านั้นเอง แต่มีบุคคลอื่นที่ไม่ทราบข้อเท็จจริง หรือเรื่องราวต่างๆ กล่าวหาใส่ร้าย ใช้คำพูดหยาบคายดูหมิ่นเกียรติยศและศักดิ์ศรีของผู้หญิงที่ไม่ได้ทำความผิดอะไร มีบางกลุ่มที่ใช้สถานะทางสังคมที่เหนือกว่าบุคคลอื่นสร้างความเกลียดชังทางสังคมให้คนส่วนใหญ่ ทั้งที่มันเป็นเรื่องของคนสองคนเท่านั้นเอง ทำให้ชื่อเสียง การทำงานทุกสิ่งทุกอย่างล่มสลายหมด เพราะคำพูดของกลุ่มคนบางคนเท่านั้นเอ งตนในฐานะทนายความของ จี กามิน อยากบอกให้ทราบว่า ทุกคนที่สร้างวาทะกรรมแปลกๆ ออกมา ทุกคนจะได้รับสิทธิ์เท่าเทียมกันทางกฎหมายทุกคน 

ขณะที่ทนายความอีกคน กล่าวว่า ที่มีข่าวว่า จี กามิน เข้ามาฟ้องคนไทยด้วยกันนั้น ทุกคนแม้เป็นคนไทย หรือคนต่างชาติที่เข้ามาในเมืองไทยจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน จะได้รับความคุ้มครองตามกฏหมายไทยทุกคน ไม่มีใครที่จะสามารถมาทำให้เกิดความเสียหาย ชื่อเสียง เกียรติยศกับคนที่เข้ามาอยู่เมืองไทยภายใต้กฎหมายไทยได้ ฉะนั้นจึงทำให้เห็นว่านี่ไม่ใช่ลักษณะการเข้าฟ้องคนไทย แต่เป็นการเข้ามารักษาสิทธิ์ของเขาที่ถูกผู้กระทำความผิด ทำให้เขาได้รับความเสียหาย และข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อพิสูจน์ความจริงให้ทุกคนได้รับฟัง ไม่ใช่ฟังความข้างเดียว ซึ่ง จี กามิน ได้แถลงความจริงแล้วในวันนี้ เข้ามาพิสูจน์ความจริงของเขาถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง 

“ที่ผ่านมามีข้อความส่งมาข่มขู่ กามิน และครอบครัวเยอะเหมือนกัน ถึงขนาดมีการค่าหัว ซึ่งขณะนี้นี้ทนายความกำลังดำเนินการอยู่” 

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีคนถูกดำเนินคดีแล้วหรือยัง ทนายความ กล่าวว่า มีแล้วแต่ไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ ยืนยันว่ามีการดำเนินการทางกฎหมายแล้วเบื้องต้นตอนนี้มี 5 คน ซึ่งมีทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล และจะมีตามมาอีกหลายคน ส่วนจะมีคู่กรณีด้วยหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่มี แต่ยังอยู่ในการพิจารณา ถ้ามีการก้าวล่วงอาจจะอยู่ในส่วนของการพิจารณา 

ขณะที่ จี กามิน กล่าวอีกว่า จริงๆ วันนี้ออกมาแค่อยากปกป้องตัวเองและปกป้องครอบครัว คนที่ตัวเองรัก และออกมาพูดความจริง ส่วนสาเหตุการแยกทางกันกับอดีตคนรักนั้น อาจมีความเข้าใจแตกต่างกันบ้าง ทั้งเรื่องภาษานิสัยเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจจะไม่เข้าใจ ความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้ต้องเลิกกัน แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรใหญ่ไม่ได้มีเรื่องบุคคลอื่นบุคคลใดที่ทำให้เป็นเหตุเลิกกัน เป็นเรื่องความไม่เข้าใจเล็กน้อยกันมากกว่าที่ทำให้เลิกกัน 

สำหรับเรื่องเงินเดือน ตนจะได้รับทุกวันที่1 ของทุกเดือน และฝั่งนั้นดูแลอย่างดีตลอด 

จี กามิน กล่าวว่า ส่วนสาเหตุที่ต้องกลับเกาหลี เพราะได้รับข้อความให้เลิกกันจากคู่กรณี ตอนนั้นรู้สึกไม่มีทางเลือก จึงเดินทางกลับเกาหลี แต่จนถึงตอนนี้ ก็ไม่มีความรู้สึกอะไรมากเป็นพิเศษให้คู่กรณีแล้ว แต่ก็ไม่มีความรู้สึกในแง่ลบ พยายามคิดถึงแต่เรื่องดีๆ ซึ่งไม่น่าจะเกิดจากความหึงหวงแต่เป็นความเข้าใจไม่ตรงกันหลายอย่าง หลังจากเลิกกันฝั่งนั้นติดต่อมาบ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าติดต่อมาเพื่ออะไร เพราะตนก็ไม่ได้ตอบข้อความกลับ เราเลิกกัน เคลียร์ใสสะอาดแล้วไม่มีอะไรติดค้างกัน อยากจะบอกฝั่งนั้นว่า ขอบคุณมากสำหรับทุกอย่าง ขอให้ทานข้าวเยอะๆ ะดูแลสุขภาพด้วยขอให้มีความสุขมากๆ 

นอกจากนี้ จี กามิน ยังกล่าวว่าในส่วนของคดีของแม่ตั๊ก นั้นการบินมาครั้งนี้ ไม่ได้มาชี้แจง เพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง 

ส่วนจะกลับมาทำงานที่ประเทศไทยหรือไม่นั้น จี กามิน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่คิดว่าจะสามารถกลับมาได้ไหม เพราะตนก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาทำงานที่ประเทศไทยได้อีกหรือไม่ แต่หลังจากที่มาวันนี้ก็ยังเห็นว่ามีหลายคนสนับสนุนอยู่ และมีผู้ใหญ่ใจดีที่อยากให้การสนับสนุนอยู่ หากสภาพจิตใจดีขึ้นมากกว่านี้ ตอนนั้นก็อาจจะลองคิดดูว่าถ้ามีโอกาสก็อาจจะกลับมาทำงานที่ประเทศไทยอีก

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส