ทนายเดชา เปิดเหตุผล ทำไมต้องชิ่งหนี "ทนายตั้ม" เพราะเห็นข้อมูลตำรวจแล้ว รอดคุกอยาก ลั่นนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลับลำ
วันที่ 7 พ.ย.67 ทนายเดชา กิตติวิทยานันต์ เปิดใจหลังทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ถูกจับพร้อมเมีย ระบุว่า เมื่อวานนี้มีตำรวจ 2 นาย และนักข่าว 2 คนที่ตนรู้จักดี โทรมาอธิบายว่าคดีทนายตั้ม มีพยานหลักฐานอะไรที่จะมัดตัวทนายตั้ม เขาก็เล่าเกี่ยวกับเรื่องการหลอกลวง การซื้อแคชเชียร์เช็ค แล้วก็มีคนมารับเช็ค แล้วก็มีคนเอาเช็คไปเบิกเงินต่างๆ ตำรวจเค้ามีพยานหลักฐานชัดเจนว่าสแกมมอร์ไม่มีอยู่จริง แล้วคนที่เป็นสแกมเมอร์ ก็คือกลุ่มผู้ต้องหาในคดีนี้ แล้วเขาก็บอกว่าในวันพรุ่งนี้น่าจะมีหมายจับ ตนฟังก็เลยดูแล้ว โอ้โห แบบนี้ไม่เหมือนที่ทนายตั้มเล่าให้เราฟัง เพราะฉะนั้นเราก็กลับลำดีกว่า
เมื่อกี้แหล่งข่าวเล่าให้ฟังว่าตำรวจเรียกเงินประกันในคดีนี้ 25% ของทุนทรัพย์ ยกตัวอย่างคดีแรก 71,000,000 ก็ไปหาเงินมา 25% ของ 71,000,000 ถ้าเขาสู้ไม่ไหวก็ต้องไปศาล และเร็วๆนี้อาจจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มหรือออกหมายจับเพิ่ม ในคดี 39 ล้านบาท อีก 3-4 คดี
ข้อหาแรก ที่ทนายตั้มโดนก็คือข้อหาฉ้อโกงเป็นปกติธุระ , อันที่ 2 ฟอกเงิน หมายถึงเงินที่ได้จากการกระทำความผิดเรื่องฉ้อโกงเป็นปกติธุระก็นำซื้อบ้านซื้อรถซื้ออะไรต่างๆ นอกนั้นก็คือเป็น 2 คนขึ้นไป ก็หมายถึงภรรยา เรียกว่าร่วมกันฟอกเงิน ส่วนสมคบกันฟอกเงินก็ หมายถึงว่าไปสมคบคิดปรึกษาหารือตกลงกันฟอกเงินอันฐานความผิดหนึ่ง เนื่องจากคดีนี้มีผู้ต้องหาหลายคน มันก็เลยมีหลายฐานความผิด
ซึ่งตอนนี้เขาปฏิเสธก่อน ตำรวจก็คงจะสอบปากคำไปเรื่อยๆก่อน ไม่ใช่ทนายเดชานะที่ว่าความให้เขา ฉะนั้นใครจะเอาทัวร์มาลงให้หยุดก่อน ตนก็เอาข้อมูลมาเล่าให้ฟังว่าความคืบหน้าของคดีทนายตั้มเป็นยังไง
ส่วนกรณีที่โซเชียลตีกลับมาว่าก่อนหน้านี้เคยเป็นพี่น้องที่สนิทกัน ทนายเดชาบอกว่า
"ทุกคนก็กระโดดหนีหมดนั่นแหละครับ 8 คนไม่มีใครอยู่ รณณรงค์ก็กระโดดหนี รัชพลก็กระโดดหนี เจมส์ก็หนี หนีกันหมด ใครจะอยู่ล่ะ สถานการณ์แบบนี้ทุกคนก็กระโดดหนีกันหมด"
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการให้กำลังใจทนายตั้ม ในแชตหรือในกลุ่มไลน์อะไรบ้างหรือไม่
ทนายเดชา บอกว่าหลังจากโดนจับในในกลุ่มเงียบสนิท เพราะทุกคนก็ไม่อยากมีปากมีเสียง เพราะพูดไปเดี๋ยวก็ทัวร์ลง ส่วนตอนถูกจับทนายตั้มได้โทรหาทนายเดชาหรือไม่ ทนายเดชาระบุว่าไม่ เขาโทรหาทนายเขา นั่นคือทนายสายหยุด
วันนี้ทนายตั้ม ก็คงต้องนอนที่กองปราบทั้งผัวทั้งเมีย และวันพรุ่งนี้ยังมีบางเรื่องที่หลายคนไม่รู้ พรุ่งนี้ทนายตั้มก็เป็นโจทก์ฟ้องออยศรีอีกคดีที่ศาลอาญา เขาจะไปศาลยังไงพรุ่งนี้ ถ้าไปไม่ได้ก็ยกฟ้อง เพราะฉะนั้นโจทก์เขาก็เยอะหลายเรื่องหลายราว
ทนายเดชา เชื่อว่าทนายตั้มมีโอกาสสูงที่โดนฝากขังที่เรือนจำ เพราะว่าตำรวจคัดค้านการประกันตัว ผู้เสียหายก็คัดค้าน พฤติการณ์ร้ายแรง เป็นคดีร้ายแรง เพราะตัวเขาเองเป็นทนายความโดนกล่าวหาว่าฉ้อโกงลูกความเป็นเรื่องที่ร้ายแรง ถ้าออกไปก็จะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน รวมถึงพยายามหลบหนีไปเขมรด้วย ความเห็นส่วนตัวตนดูแล้วว่าทนายตั้มและเมียน่าจะนอนคุกยาว โอกาสที่จะได้รับการประกันตัวยาก แต่ถึงอย่างไรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
"คดีนี้ผมเชื่อว่าตำรวจกองปราบเขาทำเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเป็นขั้นตอน การที่จะเอาทนายติดคุกไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งทนายตั้มด้วย เพราะว่าทนายตั้ม โดนหมายจับมา 2-3 รอบแล้วนะ สมัยหนุ่มๆก็โดนคดีพรากผู้เยาว์ แกก็รอดคดีไปไม่ถึงศาล ไม่มีคดีไหนสั่งฟ้องได้เลย ก็ไม่ธรรมดาเส้นสายไม่ธรรมดา"
ส่วนเรื่องการร้องสอบมรรยาททนายตั้มนั้น วันนี้ตนก็คุยกับเพื่อนที่สภาทนายความ เขาบอกว่าการจะดำเนินคดีมรรยาท ไม่ใช่ว่าพอเป็นกระแส ทนายตั้ม กำลังเป็นข่าวใหญ่ อยู่ดีๆก็ขึ้นทางด่วนรวบรัดตัดความ เอามาลบชื่อถอนใบอนุญาตนั้นมันทำไม่ได้ เพราะมันมีขั้นตอน ถ้าทำแบบนั้นก็ถือว่าสภาทนายความเลือกปฏิบัติ
ซึ่งล่าสุดทางสภาทนายความเขาก็แถลงข่าวมาแล้วว่ าถ้าเกิดว่าทนายตั้มมีคดีถูกกล่าวหาถูกแจ้งข้อกล่าวหา มันยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด เพราะฉะนั้นข่าวใหญ่แค่ไหนก็ไม่สามารถดำเนินการคดีมรรยาทได้ มันต้องมีการพิพากษาให้ถึงที่สุดก่อน
อีกอย่างสำหรับทนายตั้มสำหรับที่ตนรู้จัก เขาไม่ค่อยได้ไปศาล ดังนั้นจะมีใบอนุญาตทนายความหรือไม่ ถ้าถามตนไม่ค่อยมีผลอะไรกับทนายตั้มหรอก เพราะทนายตั้มฉายาในวงการเขาเป็นโปรโมเตอร์ ไม่ใช่นักมวยชกที่เอง หรือคนที่ต้องไปว่าความในศาลเอง
"ส่วนคนที่วิจารณ์ว่าตนกลับลำไม่เป็นไร ตนไม่ได้กลับลำครั้งแรกนะ คดีหวย 30 ล้าน ตนก็กลับลำ กลับไปกลับมาไม่รู้กี่ครั้งเห็นไหม หลายคดีมันเป็นลีล ามันเป็นสไตล์ของตนอยู่แล้ว ยังไงตนก็เอาตัวรอดอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง ถ้าตนเดินไปต่อ ตนอาจจะไม่รอด แต่ตนกลับลำ อย่างมากก็โดนด่าวันสองวันก็จบละ เพราะว่าเราได้รับข้อมูลมาไม่ครบถ้วน ตอนแรกรับมาจากทนายตั้ม เราก็คิดว่าเขาพูดความจริงทั้งหมด แต่พอเราไปฟังแหล่งข่าวจากตำรวจอ้าวไม่ใช่แล้ว ก็นึกถึงคำพูดของครูปรีชา ไอ้ตั้มมันร้าย เพราะฉะนั้นสิ่งที่มันพูดมากับสิ่งที่ตำรวจดำเนินการกับพยานหลักฐานต่างๆมันไม่ตรงกัน มันก็เลยทำให้เราต้องกลับลำ"
สังเกตตนรู้ข้อมูลเร็ว ตนกลับลำเมื่อวานนี้ วันนี้โดนออกหมายจับเลย ซึ่งตนรู้อยู่แล้วว่าวันนี้เขาจะต้องออกหมายจับ แต่ตนไม่รู้ว่าเขาจะไปทำบุญจนถึงสระแก้ว แล้วก็จะไปกัมพูชาตนไม่รู้
นักข่าวถามว่าแบบนี้เรียกว่าถูกหลอกไหม ทนายเดชา ระบุว่าเขาอาจจะพูดไม่หมดหรือความจำอาจจะไม่ดี ความจำคลาดเคลื่อน ก็เป็นบทเรียนเวลามีเพื่อนมีฝูงเราก็เชื่อแค่ครึ่งเดียว อีกครึ่งนึงต้องเผื่อใจไว้ ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องมากลับลำเหมือนตน แต่ตนไม่กินเยี่ยวนะ
"บอกคุณสนธิผมไม่กินเยี่ยว อยากแฉก็แฉไป ทำ TEASER บอกทนายเดชาเป็นมิตรแท้ทนายโจร ก็นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับผม ถ้าผมเสียหาย ผมฟ้องคุณสนธินะ คนอื่นอาจจะไม่กล้า แต่ผมไม่ปล่อยไว้นะ ฝากบอกคุณสนธินะ ผมไม่มีแผลอะไรเลย อย่างมากผมมีแต่เมา แต่ถ้า TEASER ขึ้นมาผมเสียหาย ผมฟ้องสนธิเลย ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะแก่จะเถ้าจะกินเยี่ยวหรือจะอะไร แต่ผมกินไวน์ผมไม่กินเยี่ยว"
ตนไม่ท้าคุณสนธิหรอก เพราะว่าคุณสนธิไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคดี ต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ บางทีคอนเทนท์แกหมดหรือเปล่า ก็เลยมาเล่นเดชาต่อ เวลาแกเรียกทนายโซเชียล แกไม่ให้เกียรติเลยนะ แกเรียกทนายหิวแสง ถ้าตนไปเรียกแกหิวแสงบ้างแกโกรธไหมล่ะ คือแค่คำพูดมันก็เหยียดกันแล้ว แต่ตนไม่สนใจหรอก ตนจะรอดูวันศุกร์นี้ ถ้าเห็นปล่อยทีเซอร์มิตรแท้ทนายโจร พูดทำนองว่าฝนตกขี้มูกไหลคนอะไรมารวมกันอะไรทำนองนี้ ถ้าตนเสียหายตนฟ้อง ตนไม่สนหรอกว่าคุณเป็นใคร คนบอกได้เลย อาจจะเล่นทนายตั้มได้ก็เล่นไป แต่อย่ามาเล่นตน ตนไม่มีแผล "ถ้าเล่นผม ผมก็เล่นคุณ"
ส่วนกรณีที่คดีทนายตั้มมีกระแสข่าวออกมาว่ามีการเชิญตำรวจไปให้ข้อมูลนั้น ทนายเดชาบอกว่า ทราบเรื่องนี้ดี เป็นผู้กำกับสน. บางซื่อ เห็นแหล่งข่าวบอกว่ามีผู้กำกับคนหนึ่งแถวบางซื่อ เวลาเจอทนายตั้มผู้กำกับต้องทำความเคารพ เขามีภาพด้วย เห็นบอกว่าเร็วๆนี้จะปล่อยภาพ-ข้อมูลนี้ออกมา แต่ตนไม่ได้เป็นคนปล่อยนะ เพราะว่าทนายตั้มไปแจ้งความที่นี่ 3 คดี แหล่งข่าวตำรวจตนเล่ามา ว่ามีคดีเกี่ยวกับสโมสรฟุตบอล แล้วก็คดีออยศรี แล้วก็คดีคริปโต
ตำรวจเขาเรียกมาสอบเพื่อที่จะยืนยันว่า เห็นทนายตั้มหรือเปล่าวันที่มาแจ้งความ เพื่อที่จะมองให้เห็นว่าพวกเนี่ยเป็นขบวนการเดียวกัน แต่รู้สึกว่าท่านผู้กำกับจะบอกว่าเคยเห็นทนายตั้ม เพราะว่าวันที่มาแจ้งความทนายตั้มก็มาด้วย ก็แสดงว่าแบ่งหน้าที่กันทำ
ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกดำเนินคดีหรือไม่นั้น ทนายเดชา ระบุว่าเขาน่าจะกันไว้เป็นพยาน แหล่งข่าวบอกว่าให้การเป็นประโยชน์แต่อาจจะโดนเด้งได้ ก็รอดูอีก 1-2 วัน ว่าจะถูกเด้งจากการเป็นผู้กำกับ สน.บางซื่อหรือไม่
ส่วนมีแพลนที่จะไปเยี่ยมทนายตั้มหรือไม่ ทนายเดชาบอกว่ายัง
นักข่าวถามว่าเชื่อไหมว่าทนายตั้มจะไปทำบุญจริงๆ ทนายเดชาบอกว่า ที่ผ่านมาก็เคยเชื่อนะ แต่คราวนี้ก็ขอฟังไว้ก่อน ไม่แน่เขาอาจจะทำบุญจริงๆก็ได้
นักข่าว ถามว่าแสดงว่าเราเจ็บแล้วจำ ก่อนที่ทนายเดชาจะตอบว่า จำ
ส่วนเรื่องที่ทนายตั้มเข้าเรือนจำไปแล้วจะเจอโจทก์เก่าไหม ทนายเดชา เชื่อว่า ทนายตั้มน่าจะได้เจอบอสพอล ในเรือนจำ
"ก็ดีเข้าไปจะได้มีเพื่อนมีฝูง และอย่างบอสพอล ก็ไม่ต้องเสียเวลาให้ทนายอ๋องไปเยี่ยม ต่อไปก็ติดต่อกับทนายตั้มเลย คอนเน็คชั่นส์ตำรวจเยอะด้วยทนายตั้ม"
นักข่าวถามว่าคิดว่าทนายตั้มรู้ไหมว่าตัวเองจะโดนหมายจับ ทนายเดชา บอกว่า ก็น่าจะรู้เขามีสายเป็นตำรวจเยอะ โดยเฉพาะรุ่น 47 เพราะฉะนั้นทนายตั้มไม่ธรรมดามีคอนเน็คชั่นส์เยอะ
นักข่าวถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับทนายตั้มตอนนี้ คิดว่าในอนาคต จะกลับมาเฉิดฉายในโซเชียลอีกหรือไม่ ทนายเดชา บอกว่า ก็ไม่แน่นะ เพราะที่ผ่านมาทนายตั้มเขาก็ผ่านวิกฤตมาเยอะเหมือนกัน ทั้งเรื่องหวย 30 ล้าน, คดีผู้กำกับโจ้ , คดีแตงโม และคดีกับคุณชูวิทย์ เขาก็ยังกลับมาได้ ฉะนั้นอย่าประเมินเขาต่ำ บุคลิกของทนายตั้มเป็นคนหัวร้อน กล้าได้กล้าเสีย หลายสิ่งหลายอย่างเราก็คิดว่าเขาไม่กล้า แต่เขากล้า ไม่เหมือนตน ตนใจไม่ถึง สักพักตนกลับลำแล้ว เพราะตนยังมีหมาที่ต้องดูแลสี่ตัว
ส่วนถ้าทนายตั้มกลับมาเฉิดฉาย ทนายตั้มยังเป็นน้องพี่เดชาเหมือนเดิมไหม ทนายเดชา ระบุว่า สำหรับตนแล้ว เพื่อนก็คือเพื่อน ไม่ว่าจะเลว จะชั่ว เขาก็คือเพื่อน ตนคงไม่ไปซ้ำเติม คนอื่นอาจจะซ้ำ แต่ตนไม่ใช่คนอย่างนั้น ยังไงต้องดูว่าวันข้างหน้าศาลพิพากษายกฟ้องหรือไม่ ถ้าศาลพิพากษายกฟ้องก็แสดงว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ทนายเดชากล่าว.