อังกฤษยื่นคำขาด ใครออกจากบ้านเจอปรับ

นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ มีคำสั่งเมื่อวานนี้ ให้พลเมืองทุกคนอยู่ภายในบริเวณบ้าน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และปิดร้านรวงที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต โดยย้ำให้ประชาชนอย่าออกไปพบปะเพื่อนฝูง หรือครอบครัว และยื่นคำขาดว่าผู้ใดก็ตามที่ไม่ปฏิบัติตามกฎ จะมีโทษปรับทันที

ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโวิด-19 ในอังกฤษ เพิ่มเป็น 335 รายเมื่อวานนี้ ในขณะที่รัฐบาลบอกว่า กองทัพจะช่วยส่งอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล ที่รวมทั้งหน้ากากอนามัย ไปให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ร้องเรียนเรื่องอุปกรณ์ขาดแคลน

นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวระหว่างแถลงข่าวประจำวันว่า ตั้งแต่เย็นวานนี้เป็นต้องไป สิ่งที่ชาวอังกฤษต้องทำคืออยู่ภายในบริเวณบ้าน และจะออกจากบ้านได้ก็ต่อเมื่อต้องไปซื้อของใช้จำเป็น ออกกำลังกาย มีความจำเป็นด้านสุขภาพ ไปดูแลผู้อื่น หรือเดินทางไปทางปฏิบัติหน้าที่ที่จำเป็นเท่านั้น และไม่ควรออกไปพบปะเพื่อนฝูง หรือครอบครัวที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน

ผู้นำอังกฤษย้ำว่า หากประชาชนไม่ปฏิบัติตากฎระเบียบนี้ ตำรวจมีอำนาจในการบังคับใช้บทลงโทษ ที่รวมทั้งการสั่งปรับ และสลายการรวมกลุ่ม

รายงานข่าวระบุว่า มาตรการใหม่ๆ นี้ จะบังคับใช้เบื้องต้นเป็นเวลา 3 สัปดาห์ และจะค่อยผ่อนคลายลงหากไม่มีความจำเป็น

ผู้นำอังกฤษ บอกด้วยว่า รัฐบาลยังสั่งปิดร้านรวงต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ที่รวมทั้งร้านเสื้อผ้า และสถานที่ต่างๆ เช่น ห้องสมุด สนามเด็กเล่น และยิมกลางแจ้ง รวมทั้งสถานที่ทางศาสนา

ทั้งนี้ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวอังกฤษหลายล้านคนเพิกเฉยต่อคำแนะนำของรัฐบาล โดยยังคงพากันไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะ และยืนใกล้กันต่ำกว่าระยะ 2 เมตร

ภายใต้มาตรการใหม่ๆ นี้ รัฐบาลสั่งห้ามการรวมกลุ่มกันเกิน 2 คนในที่สาธารณะ และหยุดกิจกรรมทางสังคมทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นงานมงคลสมรส และพิธีศีลจุ่ม แต่งานศพไม่รวมอยู่ในมาตรการนี้

ขณะเดียวกัน นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดาระบุว่าเกินจะทนกับพฤติกรรมไม่รู้ร้อนรู้หนาวของประชาชนบางส่วน ที่ยังคงออกมานอกบ้าน รวมกลุ่มกัน จึงเตรียมพิจารณาใช้กฎหมายฉุกเฉิน ให้เจ้าหน้าที่จับ-ปรับ ได้ทันทีหากพบคนฝ่าฝืนออกนอกบ้าน