วอนคนไทยร่วมมือหยุดพฤติกรรมเสี่ยง ก่อนจะต้องถึงขั้นล็อกดาวน์ประเทศ

26 มี.ค. 63

เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 26 มี.ค. 63 พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวมาตรการแก้ไขปัญหาโรคโควิด-19 จากศูนย์แถลงข่าวทำเนียบรัฐบาล ว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งจุดตรวจที่เรียกว่า "จุดควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19" จำนวน 359 แห่งทั่วประเทศ มี 7 แห่งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยจุดตรวจเหล่านี้จะมีเจ้าหน้าที่ร่วมกับฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร เป็นหลัก ยกเว้นในพื้นที่ กทม.บางแห่ง อาจจะมีสารวัตรทหารเข้าไปร่วมด้วย ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกคัดกรองผู้ที่สัญจรไปมา ที่อาจจะไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรืออาจมีความเสี่ยงในแง่ผู้ติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม ในระยะต่อไปหากมีมาตรการ หรือข้อกำหนด จุดตรวจนี้ก็อาจจะต้องมีหน้าที่เพิ่มขึ้น

พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญคือ เชื้อโรคไม่ได้ปิดกิจการ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ถ้าเคอร์ฟิว 21.00-05.001 น. แล้วกลางวันยังคงสัญจรไปมา ก็ค่าเท่ากันเพราะเชื้อโรคยังคงทำงานตอนกลางวันเหมือนกัน ก่อนที่จะถึงมาตรการขั้นสูงสุดคือ ล็อกดาวน์ หรือปิดประเทศ ยังมีหลายอย่างที่เราสามารถทำได้ สิ่งที่อยากทำความเข้าใจคือ เวลานี้เรายังไม่ปิดประเทศ ยังไม่ปิดเมือง ยังไม่ปิดบ้าน ทุกคนสามารถสัญจรไปมาเป็นปกติได้ แต่ถ้าเราไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต แล้วตัวเลขยังพุ่งสูงขึ้น มันจะนำไปสู่การปิดประเทศ ซึ่งจะเป็นความยุ่งยากของเราทุกคน และผลกระทบจะกว้างขวางมาก

สิ่งที่จะขอร้องจากนี้ไป ก่อนที่จะมีมาตรการขั้นถัดไป คือ เราหันกลับมาทบทวนสิ่งที่คุณหมอ สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขเคยแจ้งเตือนพวกเรามาตลอดเวลา ตั้งแต่ การเว้นระยะห่างทางสังคม การงดการชุมนุมในกิจกรรมซึ่งเป็นความเสี่ยงจะมีการแพร่เชื้อโรค ตามคำขวัญ หยุดบ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ซึ่งไม่มีใครเปลี่ยนพฤติกรรมตามนี้อย่างจริงจัง แทนที่จะรอให้ถึงการล็อกดาวน์ เราทำสิ่งนี้ด้วยความสมัครใจดีกว่าไหม

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังยอมรับกรณีตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยพุ่ง จากพื้นที่เสี่ยงสนามมวย เกิดจากความบกพร่อง และผิดพลาดของทหาร แต่ตัวเลขการแพร่กระจายไม่ใช่เพราะทหารอย่างเดียว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ