จากกรณี วันที่ 23 มี.ค.63 เวลา 12.00 น. นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ยืนเถียงกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯผ่านทางโทรศัพท์ เรื่องการเก็บศพสาวชาวจีน อายุ 29 ปี ที่กระโดดคอนโดเสียชีวิต หลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ไม่ยอมมาเคลื่อนย้ายศพเนื่องจากกลัวติดเชื้อ กระทั่งนายแพทย์รุ่งเรืองต้องไปเก็บศพร่วมกับนิติเวชด้วยตัวเอง นั้น
นพ.รุ่งเรือง บอกว่า สำหรับกรณีที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่กล้าเก็บศพ อยากทำความเข้าใจว่าหากเจ้าหน้าที่มีองค์ความรู้ที่มากพอ จะทราบดีว่าการติดเชื้อโควิด-19 นั้น จะติดต่อผ่านลมหายใจ และสารคัดหลั่ง คือของเหลวในร่างกาย เช่น น้ำเลือด,น้ำลาย,น้ำเหลือง,ฯลฯ แต่กรณีดังกล่าวผู้เสียชีวิตได้หมดลมหายใจไปแล้ว
ส่วนสารคัดหลั่งต่าง ๆ ถ้าหากเจ้าหน้าที่มีการสวมถุงมือ เเละใส่หน้ากากป้องกัน การเก็บศพก็จะปลอดภัย และหลังจากเก็บศพก็อาบน้ำความสะอาดร่างกายให้เรียบร้อย ถึงเเม้ศพจะติดเชื้อโควิด-19 ก็ไม่มีทางที่จะติดต่อผู้เก็บได้ สำหรับกรณีดังกล่าวไม่ใช่ครั้งเเรก เพราะที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์ชาวต่างชาติกระโดดตึก แล้วกู้ภัยก็ไม่กล้าเก็บเช่นกัน
ซึ่งตนเองเป็นหมอเคยผ่าศพโรคติดต่อไข้หวัดนกมาหลายศพ ดังนั้นขอให้มั่นใจว่าปลอดภัย และอยากให้ครั้งนี้เป็นกรณีตัวอย่างว่ากู้ภัยสามารถเก็บศพได้เลยทันที หากมีเครื่องป้องกันที่ครบถ้วน
หลังจากนี้จะยังไม่ทำการผ่าศพ เเต่จะส่งศพไปเเช่ไว้ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดีก่อน จากนั้นจะส่งตัวอย่างสารคัดหลั่งในโพรงจมูกศพ ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 หากผลตรวจระบุว่าศพไม่มีเชื้อ เเพทย์ก็ทำการผ่าชันสูตรได้ทันที
ล่าสุด มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 23 มีนาคม 2563 มูลนิธิฯได้รับแจ้งให้เข้าเก็บศพหญิงสาวกระโดดอาคารคอนโด ย่านอโศกดินแดง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุได้ทำการสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ จนทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวชาวจีน เดินทางมาจากมณฑลหูหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้ามาพักอาศัยอยู่กับเพื่อนที่คอนโดแห่งนี้ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาระหว่างพำนักได้มีการเข้าพบแพทย์เนื่องจากมีอาการป่วย (ไม่ทราบโรค)
หลังจากเจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลแล้วประเมินได้ว่าผู้เสียชีวิตอยู่ในข่ายสุ่มเสี่ยงต่อการเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มูลนิธิฯจำเป็นที่จะต้องยึดแนวทางการจัดการศพผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในกรณีนี้ทางมูลนิธิฯไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน (ชุด PPE Level C) สำหรับจัดการกับศพ จึงไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้