นายก อบต.คลองสาม จ.ปทุมธานี ยืนยันไม่ได้ปกปิดข้อมูล กรณีพนักงานการรถไฟ เสียชีวิตเพราะโควิด-19 เผยเจ้าตัวไม่เคยเข้าสนามมวย เเละไม่ทราบว่าตัวเองป่วย ขณะที่ภรรยาผู้ตายปล่อยโฮ ยืนยัน ไม่ได้ปกปิดกรณีสามีติดโควิด-19 เผย เพิ่งรู้ตอนสามีตาย วอนสังคมเห็นใจหยุดประนามครอบครัว
จากกรณีมีผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นสมาชิกหมู่บ้านเเห่งหนึ่ง ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี คือ นายวีระศักดิ์ บุศรัตน์ อายุ 51 ปี พนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำส่งโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ด้วยอาการตัวร้อนเเละมีไข้สูง ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยเเพทย์ระบุว่าติดเชื้อโควิด-19
ล่าสุดวันนี้ (3 เม.ย.63) คุณนภัส ปราณีตพลกรัง ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ลงพื้นที่ หมู่บ้านที่มีผู้เสียชีวิตพบว่า เจ้าหน้าที่ได้พ่นยาฆ่าเชื้อในหมู่บ้าน ทุกหลัง พร้อมตั้งด่านคัดกรอง ที่บริเวณทางเข้าหมู่บ้านด้วย
ทีมข่าวได้ พูดคุยกับ นายวิระศักดิ์ ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม บอกว่า หลังจากที่มีชาวบ้านเสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และก็ยืนยันว่า ทาง อบต.ไม่ได้ปกปิดข้อมูลว่ามีคนตายเชื้อไวรัสโควิด ทั้งนี้ครอบครัว เเละตัวผู้ตาย ไม่รู้มาก่อนว่าติดเชื้อ เเละเพิ่งทราบภายหลังจากที่ผู้ตายเสียชีวิตไปแล้ว
นอกจากนี้ คุณนภัส ปราณีตพลกรัง ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พบกับภรรยา ผู้เสียชีวิต จึงยืนคุยนอกรั้วบ้านโดยการเว้นระยะห่าง
เมื่อภรรยาของผู้เสียชีวิตนั้น เห็นทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ก็ถึงกับปล่อยโฮหลั่งน้ำตา โดยบอกว่ารู้สึกดีใจ เพราะเมื่อคืนภาวนาขอให้ได้เจอนักข่าวอมรินทร์ โดยบอกว่า เเต่เดิมตนเองและสามี อาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนี้ 2 คน เเต่ 3 วันก่อนที่สามีจะเสียชีวิต มีญาติ 2 คน มาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวด้วย เเต่ขณะนี้มีการตรวจเเละกักตัวเเล้ว ส่วนสามีเป็นพนักงานขับรถของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยเส้นทางที่ขับคือกรุงเทพฯ-หัวหิน เเละ กรุงเทพฯ-เเก่งคอย กิจวัตรประจําวันตอนเช้าก็จะเดินทางไปทำงาน เลิกงานก็จะกลับบ้าน ไม่เคยไปสนามมวย และไม่เคยไปสถานที่ที่เสี่ยงแต่อย่างใด ซึ่งในส่วนตัวของสามี ก็ไม่ทราบมาก่อนว่าติดเชื้อโควิด-19 ส่วนครอบครัวก็เพิ่งทราบตอนสามีเสียชีวิต เเละหลังจากที่มีกระเเสข่าวว่าครอบครัวปกปิดข้อมูล ตนเองก็เครียดมาก เพราะไม่เป็นความจริง ยืนยันไม่ได้ปกปิด เเต่ไม่ทราบจริงๆ
ดังนั้นจึงขอความเห็นใจ เพราะตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความเครียดตลอดเวลา เนื่องจากชาวบ้านรังเกียจ เเละขอความเมตตาว่าหยุดโจมตีครอบครัว ตอนนี้รู้สึกไม่อยากอยู่บ้าน อยากจะให้เจ้าหน้าที่มารับ ไปอยู่ที่โรงพยาบาล บางครั้งก็เครียดหนักถึงขั้นอยากขายบ้านทิ้ง เเล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น
ภรรยายังบอกอีกว่า สามีเพิ่งมาซื้อบ้านหลังนี้ได้ไม่นาน โดยตั้งใจว่าจะซื้อไว้อยู่กับครอบครัวหลังจากที่เกษียณอายุราชการเเล้ว เเต่ก็มาเสียชีวิตเสียก่อน ตอนนี้สิ่งที่กังวลมากที่สุด คือกลัวว่าจะไม่ได้รับการเยียวยา ดังนั้นจึงขอความเห็นใจไปถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้เยียวยาความบอบช้ำของครอบครัวด้วย เพราะคาดว่าสามีน่าจะรับเชื้อมาจากการทำงาน คือรถไฟ