สาวคาร์แคร์ถูกหลานปาดคอ พ้นโคม่าแต่ยังผวา ญาติฉะเนรคุณคนชุบเลี้ยง แฉซ้อมพ่อตีแม่ขาหัก (คลิป)

จากกรณีนางนิชานันท์ มีแสง อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของนายอัมพร มีแสง นายก อบต.หนองไขว่ ถูกคนร้ายปาดคอเป็นแผลลึกเย็บกว่า 20 เข็ม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 เม.ย.63 เวลา 14.00 น. ที่คาร์แคร์กำลังก่อสร้างแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ 

ส่วนคนร้ายเป็นหลานทราบชื่อ นายธนวัฒน์ จันดี อายุ 52 ปี ได้หลบหนีขี่รถจักยานยนต์ก่อนตำรวจไปถึง ต่อมานายธนวัฒน์ ได้ประสบอุบัติเหตุรถล้มอาการสาหัส ถูกหามส่ง รพ.หล่มสัก จึงอายัดตัวไว้ดำเนินคดีในสภาพเมาเหล้ากลิ่นสุราคละคลุ้งไม่ได้สติ

ล่าสุดวันที่ 3 เม.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ที่เกิดเหตุเป็นร้านคาร์แคร์ล้างรถที่กำลังสร้าง พบบริเวณคูน้ำริมกำแพงยังพบหยดเลือด และด้ามมีดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ อีกทั้งยังพบขวดเบียร์ 3 ขวด ซึ่งเป็นของคนร้ายตั้งอยู่บริเวณร้านคาร์แคร์

ทีมข่าวเดินทางมายัง รพ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โดยน.ส.บีม (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ลูกสาวของนางนิชานันท์ เปิดเผยว่า ขณะนี้แม่อยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว สามารถพูดคุยได้ แต่ยังมึอาการหวาดผวา และเจ็บแผลที่คอ เพราะถูกเย็บกว่า 20 เข็ม

ทั้งนี้นายธนวัฒน์ ไม่ได้เป็นญาติกับตนตามที่มีการนำเสนอข่าว เพราะเป็นแค่คนงานที่ชอบมาของานทำ แต่เพียงแม่อุปการะเลี้ยงดูให้ข้าวให้น้ำให้งานทำมาตลอด เนื่องจากเป็นลูกของคนเก่าคนแก่ที่เคยมาทำงานในโรงสีข้าวของครอบครัว ซึ่งหลังจากโรงสีปิดตัวไป นายธนวัฒน์ ก็ไม่มีงานจึงต้องมาพึ่งพาครอบครัวตนตลอด ซึ่งแม่ตนก็จ้างมาทำงานให้ค่าจ้างวันละ 100-200 บาท โดยค่าแรงไม่ตายตัว เพราะในแต่ละวันนายธนวัฒน์ จะทำงานไม่นานและกลับไป ซึ่งที่ผ่านมามักจะเมาและทะเลาะกับคนงานคนอื่นเป็นประจำ

น.ส.บีม เล่าย้อนกลับไป เมื่อวานนี้ช่วงเกิดเหตุ ตอนเช้านายธนวัฒน์ ได้เข้าไปที่ร้านคาร์แคร์ด้วยอาการมึนเมา และเข้าไปพูดจาหาเรื่องคนงานก่อสร้าง ทั้ง ๆ ที่ไม่มีเรื่องกันมาก่อน ซึ่งแม่ก็เห็นว่านายธนวัฒน์ตั้งใจเข้ามาก่อกวน จึงเข้าไปห้ามปรามและมีปากเสียงกัน จนนายธนวัฒน์ยอมกลับไป กระทั่งช่วงบ่ายขณะที่แม่ยืนเผลอ นายธนวัฒน์ก็เดินมาจากข้างหลังและใช้มีดปาดคอแม่ หลังจากนั้นก็ขี่รถจักรยานยนต์หนีไปซึ่งตนมองว่าพฤติกรรมมีเจตนาจะฆ่าแม่ ทั้ง ๆ ที่เป็นผู้มีพระคุณมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม ตนทราบว่าเมื่อก่อนนายธนวัฒน์ เคยทุบตีพ่อแม่ที่อยู่ที่บ้าน ซึ่งตนก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมาทำกับแม่ของตน ล่าสุดตนทราบว่านายธนวัฒน์ ยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกับแม่ แต่ตนก็ไม่ได้สนใจและไม่ได้ติดตามอาการ เพราะไม่อยากเข้าใกล้เนื่องจากยังขวัญเสีย และตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับนายธนวัฒน์ ให้ถึงที่สุด เพราะมองว่านายธนวัฒน์ มีเจตนาจะฆ่าแม่ถึงแก่ชีวิต

ขณะที่นายวินัย จันดี อายุ 50 ปี น้องชายผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนไม่ได้พบกับนายธนวัฒน์ มาหลายวันแล้ว เพราะโดยปกติพี่ชายไม่ได้อยู่ที่บ้าน จะอาศัยกินนอนเป็นลูกน้องของนางพิชานันท์ เท่านั้น ซึ่งทางครอบครัวนางพิชานันท์ เป็นคนดูแลนายธนวัฒน์ มาโดยตลอด ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเหตุใดพี่ชายจึงลงมือก่อเหตุ และไม่ทราบว่าบาดหมางเรื่องอะไรกัน

นายวินัย กล่าวต่อว่า นายธนวัฒน์ นิสัยเป็นคนก้าวร้าว กินเหล้าเมายาและชอบขู่ฆ่า ทุบตีทำร้ายพ่อแม่ เคยตีพ่อจนสลบ และทุบตีแม่ขาหักเดินไม่ได้ ซึ่งพฤติกรรมลักษณะนี้มีมาตั้งแต่ 20 ปีก่อนหน้านี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ญาติพี่น้องทางบ้านก็ไม่มีใครสนใจแล้ว เพราะมักจะเมาเหล้าและหาเรื่องทะเลาะกับญาติพี่น้องบ่อยครั้ง

อย่างไรก็ตาม ตนมองว่านายธนวัฒน์ เป็นบุคคลอันตราย และครอบครัวจะไม่ช่วยประกันตัว จะปล่อยให้เขาดำเนินคดี เพราะตนเชื่อว่าการที่นายธนวัฒน์ อยู่ในเรือนจำจะทำให้ญาติสบายใจกว่า เพราะครอบครัวก็กลัวนายธนวัฒน์ ทำร้ายเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ประภาส บุญสิงห์ รอง ผกก.สส.ทำหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.หล่มสัก ให้ข้อมูลว่า ได้ไปเยี่ยมนางนิชานันท์ ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่ รพ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พบว่าอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังไม่ได้สอบปากคำ เนื่องจากยังต้องนอนพักและไม่สามารถเข้าใกล้ได้นาน เนื่องจากโรงพยาบาลอยู่ระหว่างการเฝ้าระวังเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่วนนายธนวัฒน์ ก็ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเดียวกัน เบื้องต้นยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา เพราะยังไม่ได้สอบสวน