จากกรณีมีพลเมืองดีโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี ว่าพบคนขับรถตู้รับส่งพนักงานยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคอมมิวเตอร์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฮพ 4366 กรุงเทพมหานคร ลากตัวเด็กหญิงวัย 14 ปี ลงมาจากรถตู้แล้วทิ้งไว้ข้างทางเปลี่ยว ริมถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้าพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งเด็กหญิงคนดังกล่าวอยู่ในอาการคล้ายถูกมอมยา พูดจาไม่รู้เรื่อง จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลชลบุรี
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (3 เม.ย.) นายกรัณย์ อายุ 57 ปี คนขับรถตู้ที่ถูกกล่าวหาได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.ฐิตวัฒน์ สุริยะฉาย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ที่ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี
พร้อมอ้างว่าตนเองไม่เคยรู้จักกับเด็กหญิงคนดังกล่าวมาก่อน และไม่รู้ว่ามีอายุเพียง 14 ปี เพียงแต่ในวันเกิดเหตุตนเองได้ขับรถตู้ไปหาเพื่อนที่หมู่บ้านปิยวัฒน์ในเขต ต.เสม็ด ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มากนัก แต่ในระหว่างที่กำลังนั่งดื่มสุราอยู่กับเพื่อนที่หมู่บ้านดังกล่าว ได้มีเด็กหญิงขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาหาและนั่งดื่มกินด้วยกัน กระทั่งเมาไม่ได้สติ ด้วยความหวังดีจึงจะพาไปล้างท้องที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด
แต่ระหว่างทางเด็กบ่นว่าปวดปัสสาวะ จึงรีบจอดรถข้างทางเพื่อให้ลงไปทำธุระส่วนตัว แต่เนื่องจากเด็กมีอาการเมาจนพยุงตัวเองไม่ได้ลื่นไถลล้มลง และเป็นจังหวะเดียวกับที่พลเมืองดีขับรถผ่านมาเห็น จึงทำให้ตนเองตกใจรีบขับรถหนีไปก่อน
ด้าน น.ส.สมหญิง เพชรชนะ อายุ 38 ปี แฟนของคนขับรถตู้ บอกว่า ด.ญ.ปลา รู้จักกับลูกสาววัย 13 ของตนผ่านเฟซบุ๊ก ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยด.ญ.ปลา มักจะขอมาดื่มสุราที่บ้านของตนอยู่บ่อยครั้ง โดยเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ด.ญ.ปลา ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่บ้านของตนตั้งแต่ 17.00 น. และนั่งจับกลุ่มสังสรรค์กับตนและแฟนของตน พร้อมด้วยลูกสาวของตน และเด็กแถวบ้านรวม 10 คน
ขณะสังสรรค์ด.ญ.ปลา ดื่มสุราไป 2 ขวด เบียร์ รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกหลายชนิด จนอาเจียนเละเทะเต็มบ้าน ถึงขั้นเมาไม่ได้สติ จากนั้นจึงให้แฟนขับรถไปส่งที่บ้าน แต่ระหว่างทางที่ไปส่ง ด.ญ.ปลา มีอาการมึนเมา บอกเส้นทางไม่ชัดเจน รวมถึงอาเจียนและปัสสาวะบนรถ
แฟนของตนจึงตัดสินใจจอดรถแล้วพาตัวด.ญ.ปลา ลงมาปัสสาวะที่ข้างทาง แต่ด้วยความที่เด็กตัวใหญ่จึงพลาดท่าตกลงไปนอนกับพื้น กระทั่งเจอพลเมืองดีมาพบซึ่งแฟนของตนที่มีอาการมึนเมาก็ตกใจจึงขับรถตู้หนีออกมาจากที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีการมอมยาด.ญ.ปลา และไม่มีการข่มขืนหรือมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวแน่นอน เนื่องจากแฟนเสื่อมสมรรถภาพทางเพศไปแล้ว
ขณะที่ ด.ญ.ปลา ซึ่งพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลชลบุรี บอกว่า ขณะนี้อาการดีขึ้น ไม่ปวดหัวแล้ว ยอมรับว่าทะเลาะกับแม่และพ่อเลี้ยง จึงได้ย้ายมาอยู่กับพ่อที่จังหวัดชลบุรี ปกติตนเป็นคนดื่มสุราหนักและติดเพื่อน ซึ่งครั้งนี้ถือว่าเล็กน้อย แต่จำไม่ได้ว่าตัวเองขึ้นรถตู้ออกไปกับนายกรัณย์ตอนไหน อยากรู้ว่า "เขาเอาหนูขึ้นรถตู้ทำไม" เพราะไม่ได้บอกให้ใครไปส่ง และที่จำได้คือตนถูกตบหน้าเบา ๆ 1 ครั้ง ก่อนขึ้นรถ แต่จำไม่ได้ว่าใครตบ
โดยตลอดระยะเวลาที่ตนอยู่ในรถตู้ ตนไม่ได้ถูกมอมยา ไม่ได้ถูกทำร้ายหรือถูกลวนลาม รู้สึกตัวอีกที่ตนก็ถูกทิ้งไว้กลางทางแล้ว ขณะนี้รู้สึกสำนึกผิดต่อนายโกเมศ ผู้เป็นพ่ออย่างมาก
ส่วน นายโกเมศ แก้วดี อายุ 40 ปี พ่อของด.ญ.ปลา บอกว่า ตนแยกทางกับแม่ของด.ญ.ปลา เกือบ 10 ปีก่อน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ด.ญ.ปลา อาศัยอยู่กับภรรยาเก่าของตนและพ่อเลี้ยงที่จังหวัดกาญจนบุรี และเพิ่งย้ายกลับมาอยู่กับตนที่จังหวัดชลบุรีได้ 2 ปี เนื่องจากทะเลาะกับแม่และพ่อเลี้ยง
ปกติแล้วลูกสาวเป็นคนติดเพื่อน ไม่ค่อยกลับบ้าน ซึ่งล่าสุดได้ขอไปนอนบ้านเพื่อนนาน 3 เดือน จนเมื่อวันที่ 27 มี.ค. ไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้ แต่ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าคงอยู่กับเพื่อน กระทั่งมาทราบข่าวก็ตกใจมาก เพราะลูกสาวไม่เคยดื่มสุราจนเมาหนักขนาดนี้มาก่อน
สาเหตุคาดว่าภรรยาเก่า อาจจะปลูกฝังและสั่งสอนลูกสาวมาไม่ดี หากเหตุการณ์นี้ลูกสาวถูกข่มขืน คงได้แต่โทษตัวเองที่ให้การดูแลลูกได้ไม่เต็มที่ สัญญาว่าจากนี้จะเปิดใจคุยกับลูกสาว และจะสั่งสอนให้ทำตัวให้ดีขึ้น
เบื้องต้น ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหานายกรัณย์แต่อย่างใด แต่จะกักตัวไว้ก่อน อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ทางพนักงานสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่พม.ลงติดตามอาการของเด็กและตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง และสอบสวนเด็กหญิงเพิ่มเติม หากผลออกมาพบว่าคนขับรถตู้กระทำผิดจริงจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป