กรณีเกิดเหตุนักศึกษาหญิง 3 คน กระโดดสะพานพระราม 8 กรุงเทพฯ พร้อมกัน โดยมีผู้รอดชีวิต 1 คน ทราบชื่อ น.ส.นิภาดา อายุ 20 ปี และเสียชีวิต 2 คน ได้แก่ น.ส.เภาวนา 20 ปี และ น.ส.สุวัฒนา อายุ 19 ปี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 5 เม.ย.63 ที่วัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บ้านดาานลานหอย จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ น.ส.เภาวนา และ น.ส.สุวัฒนา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า และมีนายบัวขาว และนางสังเวียน พ่อกับแม่ของผู้เสียชีวิต อยู่ในอาการโศกเศร้า
สังเกตได้ว่านายบัวขาว ต้องมีญาติคอยประคองขณะเดิน เพราะยังอยู่ในอาการช็อก รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งญาติเพิ่งไปรับออกมาจากโรงพยาบาล เพื่อมาร่วมฟังสวดอภิธรรมในคืนนี้ ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีพิธีฌาปนกิจศพ โดยปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 เพื่อลดการรวมตัวกันของประชาชนในชุมชน
โดยนายจินดา พุ่มกลัด อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 พาทีมข่าวไปยังด้านหลังวัด ซึ่งเป็นเชิงตะกอนชั่วคราว ที่จะใช้ในการฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ โดยชาวบ้านตั้งใจร่วมกันทำเพื่อให้ 2 พี่น้องเผาเคียงข้างกัน เพราะที่วัดมีเมรุไฟฟ้าเพียงแค่หนึ่งเตา จึงต้องสร้างเชิงตะกอนชั่วคราวขึ้นเป็นกรณีพิเศษ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสังเวียน แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ โดยลูกสาวและหลานสาว ไม่เคยบอกหรือเล่าอะไรให้ฟัง ไม่เคยตัดพ้อ หรือบ่นคิดอยากจะฆ่าตัวตาย ดังนั้นหลังทราบข่าวการฆ่าตัวตายพร้อมกับเพื่อนที่กรุงเทพฯ จึงทำให้นายบัวขาว ผู้เป็นพ่อเกิดอาการช็อกต้องพาเข้าโรงพยาบาล เพราะเครียดและเป็นห่วงลูกสาวมาก
ส่วนสาเหตุการฆ่าตัวตาย ตนเชื่อว่าเป็นเพราะเกิดการชักชวนกันระหว่างพี่น้อง เพราะลูกสาวที่รอดชีวิตนั้น ก่อนหน้านี้ต้องเข้ารับการรักษาโรคป่วยจิตเวช โดยมีลูกสาวและหลานสาวของตนเป็นผู้ที่พานั่งรถไปในตัวเมือง เพื่อรับการรักษาและรับยาทานมาโดยตลอด แต่ระยะหลังลูกสาวบอกกับตนว่าหายป่วยแล้วเป็นปกติ ตนจึงไม่ได้ถามอะไร เพราะพฤติกรรมของเด็ก 3 คนจะรักและหวงกันมาก แตะต้องใครไม่ได้ ดุด่าใครไม่ได้ เพราะทั้ง 3 คน จะคอยช่วยเหลือและดูแลซึ่งกันและกันมาโดยตลอด แทบจะเรียกได้ว่า "ตายแทนกันได้"
โดยหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนไม่ทราบว่าสาเหตุที่แท้จริงจะมาจากอะไร จะเกี่ยวข้องกับการตกงานหรือหางานไม่ได้หรือไม่ แต่ยืนยันว่าครอบครัวดูแลมาโดยตลอด โดยเฉพาะเรื่องของค่าใช้จ่าย ไม่เคยขาดมือ ครั้งล่าสุดก็เพิ่งโอนเงินไปให้จำนวน 21,000 บาท จึงเชื่อว่าเรื่องของการเงินจะไม่ใช่สาเหตุ แต่ก็มีความเชื่อว่า เป็นเพราะอาการป่วยกำเริบ ชักชวนให้ลูกสาวและหลานสาวของตน ตัดสินใจจบชีวิตไปพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อไปเปิดกระเป๋าของลูกสาวที่รอดชีวิต พบจดหมายในกระเป๋าซึ่งเป็นของ น.ส.เภาวนา เขียนลาตายเอาไว้ 2 หน้ากระดาษ โดยข้อความะบุว่า "...ทั้ง 3 คนค้นพบตัวเองแล้วว่าป่วยจิตเวช ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ขอโทษครอบครัว และทุกคนก็คิดที่จะฆ่าตัวตายมานานกว่า 3 ปี..."
หรือ "พ่อ หนูขอบคุณที่พ่อห่วงและดูแลหนูมาอย่างดี หนูรู้ว่าพ่อต้องเสียใจกับเรื่องนี้ แต่หนูอยากให้พ่อเข้าใจหนูเหมือนกัน หนูอาจไม่เคยบอกอะไรไป เพราะไม่อยากให้พ่อคิดมาก ดูแลรักษาตัวเองดี ๆ หนูสบายใจที่จะไปดีกว่าอยู่อย่างทุกข์ทรมานใจ หวาดระแวงอย่างที่ผ่านมา"
