ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 10 กันยายน 2560 นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน และนางแหลม อุ่นอ่อน พ่อแม่ของนางสาวจุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือผอ.อ้อย พร้อมด้วยญาติและชาวบ้านกว่า 10 คน เดินทางมายังไร่มันสำปะหลัง บริเวณป่าห้วยผึ้งในอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย เพื่อเตรียมค้นหาร่างของผอ.อ้อย ขณะที่นางแหลม เปิดเผยว่า ผอ.อ้อย ได้เข้าฝันตนขอให้นำร่างกลับบ้าน ซึ่งบอกว่าถูกฝังไว้ที่ป่าแห่งนี้บริเวณต้นไม้ใหญ่ 2 ต้น ตนจึงชวนญาติกับชาวบ้าน มาระดมในการค้นหา โดยบริเวณดังกล่าวตนได้เข้ามาค้นหาเป็นครั้งแรก แล้วตนเชื่อว่าผอ.อ้อยอาจรอให้ตนมาหาด้วยตนเอง ทั้งที่ก่อนทำการค้นหาตนได้เตรียมดอกไม้ธูปเทียน มาทำพิธีเปิดป่า เพื่อให้การค้นหาครั้งนี้ราบรื่นอีกด้วย
โดยนายบุญเลิศ และนางแหลม ได้ลงพื้นที่บริเวณป่าห้วยรากไม้ในอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ซึ่งเป็นจุดต้องสงสัยที่ญาติลงพื้นที่ตรวจค้นหาร่างผอ.อ้อย ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ก่อนเดินเข้าป่า ได้ทำพิธีเปิดป่าเรียกวิญญาณ ผอ.อ้อย โดยการจุดเทียนและไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนเดินเรียงแถวเข้าไปภายในป่า ซึ่งนายบุญเลิศ ได้ถือเทียนพร้อมภาพถ่ายผอ.อ้อย เดินนำ ตามด้วยนางแหลมที่ถือเทียนพร้อมขันใส่น้ำมนต์ ตามด้วยญาติๆ เกือบ 10 คน ระหว่างทางก็สาดน้ำมนต์ใส่ต้นไม้ พร้อมเรียกชื่อ ผอ.อ้อยขอให้กลับบ้าน ทั้งหมดได้เดินเท้าเพื่อหาจุดในการทำพิธีเรียกวิญญาณผอ.อ้อย ซึ่งลึกเข้าไปด้านในป่ากว่า 500 เมตร ก่อนพบต้นไม้ใหญ่ 2 ต้น
ซึ่งนายบุญเลิศ ได้ปักเทียน บนตอไม้และอธิษฐาน ขณะที่ญาติที่เหลือได้จุดธูปจำนวน 14 ดอก ปักไว้ที่โคนต้นไม้ใหญ่ โดย นายบุญเลิศ เปิดเผยว่า ในวันนี้มาลงพื้นที่ทำพิธีเปิดป่าตามความฝันของนางแหลม ที่ฝันว่าผอ.อ้อย จะได้กลับบ้านต้องทำพิธีเปิดป่า ซึ่งก็มีร่างทรงแนะนำมาว่าให้ทำพิธี จุดเทียนสาดน้ำมนต์เรียกวิญญาณ ก่อนเดินหาต้นไม้ใหญ่ 2 ต้น ที่มีตอไม้ขวางอยู่ตรงกลาง โดยให้จุดธูป 14 ดอก เพื่อเปิดป่า ก่อนทำการค้นหาเชื่อว่าจะสามารถพบร่าง ผอ.ได้ในที่สุด
หลังจากนั้น นายวิทยา เกษแก้ว สามีผอ.อ้อย พร้อมญาติและชาวบ้านกว่า 20 คน เดินทางไปยัง ป่าบุจาลอ ในอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแนวชายแดนติดกับประเทศกัมพูชา เพื่อทำการค้นหาร่างของ ผอ.อ้อยตามเบาะแส โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดทหารช่าง ตรวจค้นวัตถุระเบิด จากกองกำลังสุรนารี เดินนำแถว ใช้เครื่องตรวจโลหะสแกนพื้นที่ ซึ่งญาติได้เดินเท้าเข้าไปในป่าระยะทางประมาณ 300 เมตร แต่ไม่พบจุดต้องสงสัยจึงยุติการค้นหา เนื่องจากเวลาใกล้ค่ำจึงค่อนข้างอันตรายในการเดินป่า
โดยนายวิทยา เปิดเผยว่า จุดดังกล่าวมีเบาะแสจากชาวบ้าน เรื่องพบจุดเผาบางอย่างแต่จากการเดินสำรวจยังไม่พบ นอกจากนี้ในพื้นที่ยังเป็นฐานเก่าของทหารซึ่งเป็นจุดที่สงสัย แต่ด้วยพื้นที่เป็นเขตสู้รบเก่า อาจมีทุ่นระเบิดหลงเหลือจึงเป็นอุปสรรคในการค้นหาเพราะไม่สามารถปูพรมแบบหน้ากระดานได้
ส่วนช่วงเช้าตนได้เข้าตรวจสอบบริเวณกองดินใกล้กับวัดร้างในอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ที่มีเบาะแสว่า พบกลุ่มคนเข้าไปตั้งแคมป์ช่วงที่ ผอ.อ้อยหายตัวไป และเป็นจุดที่ใกล้กับหนองแดง ที่ชาวบ้านได้กลิ่นเหม็น แต่จากการสำรวจก็ไม่พบเบาะแสใดๆ โดยวันพรุ่งนี้ (11 ก.ย.) คาดว่ากลุ่มญาติ จะลงพื้นที่ดำน้ำ หาร่างผอ.อ้อยในจุดต้องสงสัย เขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยอีกครั้ง