แม่ร่ำไห้เชิญวิญญาณลูก 11 ขวบ ถูกตาเลี้ยงฆ่าสยองหมกป่า ยายสาปส่งผัวเก่าให้ตายคาคุก (คลิป)

จากกรณี ร.ต.อ.อัศวิน จันโท รองสว.สอบสวน สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่าพบศพผู้เสียชีวิต ด.ช.ธนวัต วัย 11 ขวบ ชาว ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ในสภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขาสามส่วนสีดำ และมีเศษหญ้าแห้งหญ้าสดกลบทับหน้า ภายในป่าหญ้า ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ในสภาพนอนหงายหน้า สวมเสื้อยืดสีแดงกางเกงขาสามส่วนสีดำ ถูกถลกเสื้อปิดบังใบหน้าที่เขียวช้ำ มีเศษหญ้าแห้งหญ้าสดกลบทับ ใบหน้าและท้ายทอยมีแผลฉกรรจ์ยาวถึงปากด้านขวา คล้ายถูกอาวุธมีคมฟัน ศีระพบแผลเปิดกว้างเห็นกะโหลก ตาขวาพบรอยเขียวช้ำ ตาซ้ายพบรอยเจาะขนาดใหญ่ ซึ่งบริเวณใกล้กันเจ้าหน้าที่ตรวจพบมีดหวดมีด้ามจับเป็นเหล็กตกอยู่

ทั้งนี้ น.ส.มัลติกา จันทร์ดวง อายุ 27 ปี แม่ของเด็ก ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันคนหายไว้ที่ สภ.หนองขาม คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายวัน อายุ 49 ปี สัญชาติพม่า สามีใหม่ของนางลำไย สมศรี อายุ 56 ปี แม่ของน.ส.มัลติกา เนื่องจากก่อนหน้านี้นายวัน เคยข่มขู่จะน.ส.มัลติกา และลูกชายมาแล้ว เพราะคิดว่าไปยุยงให้นางลำไย เลิกลากับนายวัน ด้วยเหตุผลที่นายวัน มีพฤติกรรมที่ชอบตบตีนางลำไย 

ล่าสุดวันที่ 7 เม.ย.63 พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 พร้อมด้วยพลตำรวจตรีประการ ประจง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ฐิติวัฒน สุริยะฉาย รองผบก.ภ.จว.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจังหวัดชลบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.หนองขาม ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายวัน อายุ 49 ปี สัญชาติพม่า พร้อมด้วยของกลางเป็นอาวุธมีดหวดมีด้ามจับเป็นเหล็ก และเสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุ

นายวัน ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้เกิดมีปากเสียงกับนางลำไย อย่างรุนแรง ประกอบกับลูกสาวและหลานชาย ต่างพากันขับไล่ตนออกจากบ้านหลังดังกล่าว จนตนต้องย้ายไปอาศัยอยู่ในเพิงใกล้เคียง และก่อนเกิดเหตุตนได้เดินออกมากรอกน้ำที่บริเวณหน้าปากซอย ในระหว่างที่ตนกำลังเดินกลับ ก็ได้พบเจอกับหลานที่ด่าทอตน อีกทั้งยังนำสากกะเบือมาตีศีรษะตน จึงเกิดความโมโห คว้ามีดหวดฟันเข้าที่บริเวณท้ายทอยและกลางศีรษะ หลังจากนั้นก็ได้ลากไปทุบตีใบหน้าจนเขียวช้ำ ก่อนที่จะนำหญ้าสดและหญ้าแห้ง กลบทับศพไว้แล้วรีบหนีออกมา จนกระทั่งถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว

ทีมข่าวเดินทางมาที่วัดเนินตอง ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ ด.ช.ธนวัต โดยวันนี้เป็นวันแรกที่จัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่ ญาติพี่น้อง และคนใกล้ชิดได้เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจ และรถน้ำศพ หลังครอบครัวไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณเด็กที่จุดเกิดเหตุ

จากการสอบถาม น.ส.มัลติกา แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ส่วนตัวรู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว หลังจากนี้ทางครอบครัวขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเต็มที่ และขอร้องว่าห้ามปล่อยคนร้ายออกมาเด็ดขาด หากอภัยโทษให้ คนเกรงว่าคนร้ายจะกลับมาฆ่าคนอื่นซ้ำอีก ซึ่งตนไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

ขณะนี้ตนยังไม่เจอตัวคนร้าย หากเจอตัวตนอยากจะถามว่า ทำไปเพื่ออะไร และอยากให้คนร้ายมาทำพิธีขอขมาจุดที่ลูกชายของตนเสียชีวิต แต่ไม่อนุญาตให้เข้ามาที่งานศพ แต่จากคำให้การณ์ของคนร้ายที่กล่าวอ้างว่า โกรธที่เด็กไปด่าทอด้วยคำหยาบคาย ตนยืนยันว่า ถ้าลูกชายของตนไม่ถูกด่า ลูกชายจะไม่ตอบโต้ เพราะลูกชายไม่ใช่คนที่ชอบด่าใครไปทั่ว

อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า ถ้านายวันไม่ตั้งใจคงจะไม่ทำขนาดนี้ จึงมั่นใจว่านายวัน ตั้งใจทำอย่างแน่นอน และเชื่อว่านายวัน คงก่อเหตุเพราะรู้สึกเกลียด และรู้สึกคับแค้นใจตนที่สั่งห้ามไม่ให้คบกับนางลำไย 

ในวันนี้ ทุกคนรวมถึงคุณครูที่เข้ามาร่วมงานต่างร้องไห้เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะลูกชายเป็นเด็กดี เรียนดีมากได้เกรด 3-4 เสมอ และเป็นเด็กขยัน ชอบช่วยเหลืองานบ้าน อีกทั้งเวลานายวันป่วย ก็ยังมาคอยดูแล

ทั้งนี้ตนไม่เคยคาดหวังอะไรกับลูก หากลูกยังอยู่ ตนแค่อยากเห็นลูกเติบโตต่อไปเรื่อย ๆ สุดท้ายนี้ตนขอให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกชายเป็นเหตุสุดท้ายที่เกิดในสังคม 

นางลำไย ยายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากที่จับได้ ตนไม่ยอมแน่นอน ขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และอยากให้ประหารชีวิตไปเลย เพราะพฤติกรรมของนายวัน เกินกว่าจะบรรยาย และนางลำไยยังกล่าวอีกว่า “อย่าให้ออกมา คนแบบนั้นไปอยู่ที่ไหนก็รกโลก”

วันนี้ตนยังกินอะไรไม่ลง เพราะเวลากินของที่หลายชายชอบก็จะนึกถึงหลานชายตลอด หากเป็นไปได้ตนอยากให้หลานชายมาเข้าฝัน เพราะตนนอนกอดหลานชายทุกวัน และไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ตนก็ยังรักเหมือนลูก

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาม ได้ให้ข้อมูลว่า นายวัน อายุ 49 ปี ผู้ต้องหา เบื้องต้นถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ข้อหาพกพาอาวุธมีดโดยผิดกฎหมายในที่สาธารณะ เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย ทั้งนี้กำลังพิจารณาในการตั้งข้อหา อำพรางศพเพิ่มเติม 

เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนผู้ต้องหา โดยนายวัยชัย รับสารภาพอ้างว่ากระทำจริง แต่ไม่กล้าไปขอขมาศพ เพราะกลัวถูกรุมประชาทัณฑ์ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามผู้ต้องหาว่า ต้องการติดต่อญาติพี่น้องหรือไม่ แต่ผู้ต้องหากล่าวปฏิเสธ และอ้างว่าพ่อแม่ตายหลายสิบปีแล้ว และมาอยู่เมืองไทยจนไม่มีญาติพี่น้องเหลือ