เปิดใจ 2 ตายาย เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวดังย่านแหลมฉบัง หอบเงินล้านบริจาคโรงพยาบาลซื้ออุปกรณ์การแพทย์ช่วยผู้ป่วยโควิด-19 เผยประทับใจหมอที่ช่วยรักษาในยามที่ลำบาก
จากกรณีที่มีโลกสังคมออนไลน์ขณะนี้ต่างพากันร่วมอนุโมทนาบุญพร้อมแชร์ส่งต่อเรื่องราวน่าชื่นชมของคุณตาคุณยายคู่หนึ่งที่ได้นำเงินกว่า 1,000,000 บาท มาบริจาคให้กับโรงพยาบาล เพื่อช่วยบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยในการต่อสู้กับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
คุณตาคุณยายใจบุญ 2 ท่านนี้ก็คือคุณตาประจวบ วงษ์ไพบูลย์ศรี อายุ 83 ปี และคุณยายเย็นใจ วงษ์ไพบูลย์ศรี อายุ 80 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดตาเข็ม ริมถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าแหลมฉบังช่วงปลายสะพานต่างระดับอ่าวอุดม ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ทั้งคู่ได้นำเงินสด 500,000 บาท มอบให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวีณศรีราชา และอีก 650,000 บาท มอบให้กับโรงพยาบาลแหลมฉบัง เพื่อนำไปสมทบทุนจัดซื้อเครื่องตรวจเชื้อโควิด-19 และเครื่องช่วยหายใจเพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้อื่นต่อไป
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บริเวณร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดตาเข็ม ยายเย็นใจ เปิดเผยว่า ปกติแล้วเราทั้งคู่สองตายายอยู่กินมาด้วยกันกว่า 60 ปีแล้ว โดยเริ่มขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดมานานกว่า 50 ปี เริ่มต้นจากการเปิดร้านเพราะในสมัยก่อนตนเองอยากจะกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดแต่ต้องเดินทางไปกินในตัวเมืองศรีราชา ซึ่งระยะทางค่อนข้างไกล ประกอบกับในบริเวณที่ตนอาศัยอยู่ไม่มีใครขายก๋วยเตี๋ยวเป็ด จึงได้ลองทำขายโดยไม่มีสูตรอะไรเลยจำๆ มา แล้วก็นำมาขายจนกระทั่งทำไปทำมาลูกค้าติดใจ จึงสามารถขายมาได้อย่างยาวนาน
สำหรับการไปมอบเงินสมทบทุนจัดซื้อเครื่องตรวจเชื้อโควิด-19 และเครื่องช่วยหายใจเพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้อื่นทั้ง 2 โรงพยาบาล เพราะตนเองทั้งสองคนอายุก็มากขึ้นทุกวันๆ ไม่มีว่าจะตายวันไหน เราทั้งคู่มีใจและมีความตั้งใจที่อยากจะทำบุญให้โรงพยาบาลมานานแล้ว ประกอบกับมีเงินเก็บอยู่ 1 ก้อนจึงได้เข้าไปคุยกับทางโรงพยาบาลว่า ที่โรงพยาบาลมีความต้องการอะไรบ้าง ตอนแรกจะบริจาคเก้าอี้ทำฟัน แต่เนื่องจากในขณะนี้ทางโรงพยาบาลมีความต้องการใช้เครื่องตรวจเชื้อโควิด-19 และเครื่องช่วยหายใจมากกว่า ตนเองจึงตัดสินใจเดินไปมอบเงินโดยทันที
ยายเย็นใจกล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุที่ตนเองต้องการบริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลนั้นก็เป็นเพราะในอดีตมีอยู่วันหนึ่งนายประจวบได้เกิดเหตุลื่นล้มจนขาหักและต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เมื่อไปถึงก็มีเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์เข้ามาดูแลเป็นอย่างดี อีกทั้งหมอผู้รักษานายประจวบ ก็ให้การช่วยเหลือทั้งการรักษา และในเรื่องของค่าใช้จ่ายการรักษา จนเกิดความประทับใจเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักหรือสนิทสนมกันมา ก่อนเราทั้งคู่จึงตั้งใจกันว่าหากวันหนึ่งมีเงินสักก้อนจะนำมาบริจาคให้กับทางโรงพยาบาลจนกระทั่งมามอบเงินอย่างที่มีความตั้งใจเอาไว้และถ้าหากหลังจากนี้ตนเองได้เงินมาอีกสักก้อนก็จะนำมาบริจาคอีก