แม่ร่ำไห้ลูกฝ่าเคอร์ฟิวซิ่งแหกด่านโดดบ่อดับ คาใจตำรวจไม่ช่วย กลับโต้เป็นตะคริวจมเอง (คลิป)

วันที่ 15 เม.ย. 63 เมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. นายภัทรวิน เซ่งหิ้น หรือ ใหญ่ อายุ 35 ปี ขี่มอเตอร์ไซค์หนีด่านตรวจเคอร์ฟิว ของตำรวจ สภ.หาดใหญ่ บนถนนสายพลพิชัย เส้นทางเลี่ยงเมืองหาดใหญ่-บ้านพรุ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ทิ้งรถกระโดดน้ำหนีลงไปในบ่อทิ้งตะกอนของการประปาส่วนภูมิภาคหาดใหญ่ จมน้ำเสียชีวิต จึงคาดว่ามีสิ่งเสพติดอยู่ในตัวจึงตกใจกลัวหนีเจ้าหน้าที่หรือไม่

ที่เกิดเหตุพบจักรยานยนต์ ฮอนด้าน สกู๊ปปี้สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กข 7689 สงขลา ล้มอยู่บนถนนริมบ่อทิ้งตะกอน ผู้เสียชีวิตอยู่สภาพที่ยังสวมหมวกกันน็อก และพยายามว่ายหนีตำรวจ แต่คล้ายเป็นตะคริว ตำรวจพยายามยื่นไม้ลงไปให้จับ แต่ก็คว้าไม่ได้ สุดท้ายตำรวจจึงกระโดดน้ำลงไปในบ่อ และว่ายไปช่วย แต่ก็ไม่ทัน จมหายไปในบ่อลึกกว่า 3 เมตร

 นางละม้าย ผ่องศรี อายุ 56 แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนงข้องใจการช่วยเหลือของตำรวจ อยากรู้ว่าตำรวจลงไปช่วยชีวิตลูกชายจริงหรือไม่ เพราะหากตั้งใจช่วยก็น่าจะช่วยทัน ไม่น่าจะจมน้ำตายแบบนี้

ทั้งนี้ หลังจากที่ลูกชายพ้นโทษก็ออกมาอยู่บ้านรอที่จะไปทำงานที่เต็นท์รถยนต์ที่ จ.กระบี่ หลังจากผ่านสถานการณ์โควิด-19 ตนได้คุยกับลูกชายครั้งสุดท้ายตอนกลางวัน เรียกให้มากินข้าว ลูกชายตอบว่าค่อยกิน และขับรถออกจากบ้านไป กระทั่งมาทราบข่าวว่าเสียชีวิต

นางนิภา เขียวเด็ด อายุ 50 ปี น้าของผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า เป็นลูกหลานใครใครก็รัก ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือเป็นคนเลว ตนมีข้อสงสัยการเสียชีวิต จึงต้องการหลักฐานจากตำรวจว่าหลานตายเพราะอะไร ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดกันไปคนละทิศคนละทาง อ้างว่าขณะเกิดเหตุตำรวจพยายามจะถอดเสื้อผ้าลงไปช่วย แต่กู้ภัยบอกว่าเป็นคนลงไปนำศพขึ้นมา ตำรวจไม่ได้ลงไปในบ่อ รวมทั้งข่าวที่ออกไปก่อนหน้านี้ บอกว่า ตำรวจพยายามยื่นไม้ลงไปช่วย แต่ครอบครัวก็ยังสงสัยว่าทำไมถึงพูดไม่ตรงกัน

ครอบครัวเป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่มีสิทธิ์จะไปเอาเรื่องหรือฟ้องร้อง เพราะต้องใช้เงิน ครอบครัวก็ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ไม่เข้าใจทำไมตำรวจปล่อยให้มีคนตายไปต่อหน้าต่อตา ตนอยากได้ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าการประปา และบนกล้องที่ติดบนหมวกของตำรวจ เพื่อดูว่ามีการช่วยเหลือจริงหรือไม่ แต่ตำรวจไม่ได้นำภาพมาให้ญาติดู มีเพียงภาพศพที่นำขึ้นมาจากบ่อน้ำ รวมทั้งตำรวจตรวจโทรศัพท์ของหลาน ถอดซิมมือถือคนตายไปใส่ในโทรศัพท์ของตำรวจเพื่อตรวจสอบอีกด้วย

ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ เป็นรถของเพื่อนที่มาฝากผู้ตายเอาไว้ ตนอยากเห็นหน้าของตำรวจ 2 นาย ที่อยู่ในเหตุการณ์ อยากจะถามว่า "คุณยืนดูคนตายไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร ช่วยจนสุดความสามารถแล้วเหรอ"

พล.ต.ต.ธิวธวัช นครศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่า ได้รับรายงานแล้ว ทราบว่าขณะเกิดเหตุ ผู้เสียชขีวิตได้ขับรถหลบหนีและไปจอดรถทิ้งไว้ ก่อนที่จะกระโดดลงไปในบ่อทิ้งตะกอน ภายในการประปาส่วนภูมิภาคหาดใหญ่ ตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกจับกุมคดียาเสพติดในปี 2555 รวม2 ครั้ง และในปี 2559 อีก 1 ครั้ง

จากการตรวจสอบปัสสาวะของผู้ตายพบว่ามีสีม่วง และมีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย ส่วนในรายละเอียดว่าทำไมถึงต้องขับรถหลบหนีด่านตรวจของตำรวจนั้น เจ้าหน้าที่จะสอบสวนอีกครั้ง ส่วนตำรวจพยายามช่วยอย่างเต็มที่แล้ว แต่ช่วยแต่ไม่ทัน ไม่ได้ตั้งใจปล่อยให้จมน้ำตายต่อหน้า