จากกรณีเรื่องเล่าลือถึงการขุดค้นพบขุมสมบัติจำนวนมหาศาลของทหารญี่ปุ่น สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นำมาฝังซุกซ่อนอยู่ตามภูเขาต่าง ๆ ในพื้นที่ถ้ำลิเจีย บริเวณพื้นที่อุทยาแห้งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี หลังจากแพ้สงคราม นั้น
วันที่ 18 เม.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปกลับไปที่หมู่บ้านลิเจีย อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เมื่อไปถึงทีมข่าวได้ขอให้ชาวบ้านพาเข้าไปสำรวจบริเวณภายในถ้ำ โดยก่อนเข้ามีการจุดธูปขอขมาเจ้าที่เจ้าทางให้สำรวจถ้ำอย่างปลอดภัย
หลังจากนั้นทีมข่าวเดินทางเข้าไปภายในพบว่าภายในถ้ำจะมีลักษณะ เป็นร่องทางเดินน้ำเก่า บริเวณผนังถ้ำมีหินงอกหินย้อยทั่วบริเวณถ้ำ ด้านในจะมีอากาศเย็น มีความอับชื่น อากาศหายใจค่อนข้างน้อย เมื่อเดินจากปากทางเข้าถ้ำ เข้ามาประมาณ 150 เมตร จะพบช่องถ้ำที่ 1 ที่สามารถเดินทะลุไปยังบริเวณข้างเขาลิเจียได้ แต่ช่วงที่ทีมข่าวไปถึงพบว่ามีน้ำจากด้านบนถ้ำไหลหยดลงมาทำให้เกิดน้ำขัง ดินทรุดตัวลงมาปิดช่องทางเดิน ทีมข่าวจึงไม่สามารถเดินผ่านไปสำรวจในช่องทางนี้ได้
หลังจากเดินถัดจากช่องถ้ำที่ 1 มาประมาณ 50 เมตร จะพบช่องถ้ำที่ 2 ซึ่งช่องทางนี้ลักษณะคล้ายเป็นช่องทางลับ เนื่องจากต้องเดินมุดลงไปตามช่องเขา เป็นทางย้อนกลับที่อยู่ใต้ทางที่เดินเข้ามาจากปากถ้ำ แต่ป็นทางตันเนื่องจากดินทรุดตัวลงมาปิดทางเดิน จึงไม่สามารถเดินผ่านไปสำรวจในช่องทางนี้ได้
หลังจากเดินถัดจากช่องถ้ำที่ 2 มาประมาณ 300 เมตรก็จะพบ ช่องถ้ำที่ 3 ซึ่งช่องทางนี้ จะเป็นช่องทางที่สามารถเดินทะลุไปยังห้องโถงใหญ่ภายในตัวทำลิเจีย ซึ่งภายในจะมีน้ำอยู่เต็มห้องโถง ซึ่งจะเป็นจุดสุดถ้ำ ที่นักล่าสมบัติต่างพากันมาขุดค้นหาสมบัติกันบริเวณนี้ และยังเป็นจุดเดียวกันกับทีมนักล่าสมบัติทั้ง 6 คน ที่เข้ามาหาสมบัติ และขาดอากาศหายใจเสียชีวิตในขณะที่เครืองสูบน้ำรั่ว
แต่ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจ พบว่าสภาพพื้นถ้ำในช่องถ้ำที่ 3 ค่อนข้างเปียกชื้นและมีความลึกชันประมาณ 10เมตร หากจะไปต่อยังห้องโถงสมบัติ ต้องใช่การโรยตัวลงไป ทีมข่าวจึงสามารถเข้ามาสำรวจได้สุดทางเพียงเท่านี้ไม่สามาถไปต่อได้
นายไพศาล คลังเกษตร อายุ 37 ปี ชาวบ้านลิเจีย บอกว่า รู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถพาเข้าไปถึงบริเวณห้องโถงใหญ่ จุดที่ทีมนักล่าสมบัติทั้ง 6 คน เข้าไปขุดค้นหาสมบัติและเสียชีวิต โดยความเป็นจริงแล้ว เมื่อ10-20 ปีก่อน ห้องโถงนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการตามล่าขุดค้นสมบัติภายในถ้ำลิเจีย เนื่องจากทีมนักล่าสมบัติ 1 ใน 6 คนที่เคยเข้าไปนั้น
ตนเองก็ไม่ทราบว่าไปพบเจอลายแทงมาจากไหน ถึงได้ชวนเพื่อนมารวมขุดค้นหากัน ลักษณะของลายแทงที่ตนเองพูดถึงก็คือ ดาบซามูไรของทหารญี่ปุ่น ที่มีการแกะสลักลายแทงขุมทองของถ้ำลิเจียไว้บนผิวดาบ แต่พอมาขุดค้นหาก็ต้องมาเสียชีวิตไปเพราะเกิดอาถรรย์
ซึ่งหลังจากทีมล่าสมบัติทั้ง 6 คน เสียชีวิตอยู่ภายในถ้ำ ลุงสุมิตรชาวบ้านในพื้นที่ได้นำดาบซามูไรกลับไปบ้านด้วย พอตกดึกมีวิญญาณทหารญี่ปุ่นวิ่งตามไปกระชากคอลุงสุมิตรไว้ จึงคิดว่าวิญญาณที่ตามไปหาลุงสมิตรคงจะเป็นวิญญาณของทหารญี่ปุ่นที่มาตามทวงของคืน แต่หลังจากนั้นประมาณ 2-3 ปี ลุงสุมิตรก็เสียชีวิต เพราะประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ส่วนดาบดังกล่าวก็หายสาบสูบไป
ด้าน นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม บอกว่า เรื่องสมบัติขุมทรัพย์ทองคำที่เป็นตำนานชาวบ้านเล่าสืบต่อกันมา ตนเองเชื่อว่าเป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น เนื่องจากส่วนตัวคิดว่าหากสมบัติของทหารญี่ปุ่นมีจริง ทหารญี่ปุ่นที่นำสมบัติมาซุกซ้อนคงกลับมาเอาไปหมดแลัว เพราะเรื่องก็ผ่านมานานหลายปี
ซึ่งที่ผ่านมามีบุคคลนอกพื้นที่ ต่างพากันมาขุดค้นหาสมบัติกันแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครค้นพบเจอสมบัติหรือทองคำแต่อย่างใด จะเจอก็มีแค่เพียงหมวก หรือดาบซามูไรเท่านั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่หลังทราบเรื่องเล่าดังกล่าวก็เคยมีการใช้ดาวเทียมที่สามารถส่องหาแร่ธาติที่อยู่ใต้พื้นดินแต่ก็ไม่พบอะไร ดังนั้นจึงคิดว่าน่าจะไม่มีสมบัติแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าว ก็คงเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่ในฐานนะเจ้าหน้าที่อุทยานอยากฝากถึงบุคคลที่จะเข้าไปแอบลักลอบขุดค้นหาสมบัติภายในถ้ำหรือบริเวณพื้นที่อุทยานว่าหากเจ้าหน้าที่จับได้ ก็จะถือมีความผิดตามกฎหมาย ฐานบุกรุกทำให้พื้นที่ธรรมชาติเสียหาย