ผัวเมายิงเมียต่อหน้าลูก อ้างโกรธขอเงินให้ลูกติดโดนแบงก์ปาใส่หน้า รับฆ่าแล้วสะกดวิญญาณ (คลิป)

จากกรณีช่วงเที่ยงคืน วันที่ 22 เม.ย.63 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สรชัช จินต์กสิกรรม รอง สว.(สอบสวน) สภ.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 3 ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พบมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพัก ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว ภายในห้องนอนพบศพ นางยุพาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี สภาพสวมเสื้อสีแดง ใส่ผ้าถุงลายดอก มีผ้าห่มคลุม ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 และพบลูกชายอายุ 9 เดือน นั่งอยู่ข้างศพแม่น่าเวทนา

นอกจากนี้ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนขนาด 11 มม. ตกอยู่ 1 ปลอก และหัวกระสุนตกอยู่ 1 หัว และในมือผู้เสียชีวิคกำเงินประมาณ 700 บาท ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อต่อมาคือ นายวินัย อายุ 35 ปี ชาวต.ห้วยยางโทน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นสามีผู้เสียชีวิต ขับรถกระบะหลบหนีไป

ล่าสุดวันที่ 23 เม.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมายังบ้านของนายวินัย ผู้ก่อเหตุ ในพื้นที่ ต.ห้วยยางโทน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี สภาพเป็นบ้านสองชั้น โดยในช่วงเช้าของวันนี้ หลังจากที่นายวินัยเข้าไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านจุดเกิดเหตุ แล้วไปจำลองเหตุการณ์ตอนที่นั่งดื่มเหล้าบนเก้าอี้อยู่ที่หน้าบ้าน จากนั้นผู้ก่อเหตุก็เข้าไปในห้องนอนของภรรยา ที่นอนกับลูกวัย 9 เดือน

นายวินัย บอกว่า ตั้งใจว่าจะขอเงินภรรยาที่เป็นเงินเก็บจากการทำงานด้วยกัน จำนวน 5,000 บาท ไปให้ลูกชายคนโต ที่เป็นลูกของภรรยาเก่า แต่นางยุพาพร ไม่ให้ จึงทะเลาะกันและถูกนางยุพาพร นำเงินขว้างใส่หน้า พร้อมกับตบหน้าตน 1 ครั้ง ทำให้ตนบันดาลโทสะ และไปหยิบปืนที่ซ่อนไว้มาก่อเหตุยิงนางยุพาพร 2 นัด จากนั้นก็ขับรถกระบะหลบหนีไป

ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหาได้ไปชี้จุดทิ้งปืนหลังใช้ก่อเหตุ โดยซ่อนปืนไว้ที่ริมคลองชลประทาน หมู่ 14 บ้านหนามพุงดอ ต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งพบว่าเป็นอาวุธปืนสั้นแบบไทยประดิษฐ์ พร้อมกระสุนขนาด 9 มม. อีกจำนวน 10 นัด และในรังเพลิงอีก 1 นัด รวมเป็น 11 นัดถูกห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกแล้วใช้ก้อนหินทับไว้

โดยนายสาม (นามสมมติ) น้องชายของผู้ก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า เมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้นายวินัยได้ยืมโทรศัพท์ของชาวบ้านติดต่อมาหาตน เพื่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้ตนไปเจอที่บริเวณหมู่ที่ 4 ต.ห้วยยางโทน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เมื่อตนไปถึงก็เห็นพี่ชายอยู่ในสภาพที่อิดโรย สีหน้าเศร้า ไม่ค่อยพูดค่อยจา จากนั้นจึงพาพี่ขายเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทั้งนี้พี่ชายของตน คบหาอยู่กับนางยุพาพร ได้ประมาณ 2 ปี ตนก็เห็นทั้งคู่ต่างทำงานหนักด้วยกัน จากการที่ตนได้สอบถามพี่ชายถึงปมการก่อเหตุครั้งนี้ พี่ชายอ้างว่ามาจากขอเงินนางยุพาพร เพื่อนำมาให้ลูกของภรรยาเก่า แต่นางยุพาพร ไม่ให้ ก่อนจะทะเลาะกันลงมือก่อเหตุดังกล่าว

นายสาม เผยอีกว่า สำหรับข่าวที่ออกไป พี่ชายของตนมีอาการเมาแล้วเข้าไปขอเงินภรรยาเพื่อซื้อเหล้านั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง พี่ชายตนก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนครอบครัวตนก็เสียใจไม่แพ้กัน ตนก็สงสารหลานชายวัย 9 เดือน หลังจากนี้ครอบครัวตนก็จะเข้าไปขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นการส่วนตัวอีกครั้ง และประเด็นที่ว่าพี่ชายของตนทิ้งเงินจำนวน 1,000 บาท ไว้ข้างศพภรรยา เพื่อเป็นเคล็ดในการซื้อสถานที่ไม่ให้วิญญาณตามก่อกวนนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมายังวัดวันดาว ต.วันดาว อ. ปากท่อ จ. ราชบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของนางยุพาพร ผู้เสียชีวิต บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

น.ส.ปิยพรณ์ เขียวสะอาด น้องสาวผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า หลังจากตนได้ไปดูนายวินัย ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตนก็ไม่เชื่อคำให้การของนายวินัย ที่อ้างว่าเหตุที่ยิงพี่สาวตนนั้น เป็นเพราะขอเงินพี่สาวไปให้ลูกของภรรยาเก่า แต่พี่สาวของตนไม่ให้ และบอกว่าพี่สาวของตนขัดขืน ขว้างเงินใส่หน้า และทำการตบหน้าพี่สาว จึงทำให้ฝ่ายชายบันดาลโทสะ ไปนำปืนมายิงพี่สาวตนนั้น

ทั้งนี้ที่ผ่านมาพี่สาวของตนจะให้เงินนายวินัย ในการเลี้ยงลูกติดอยู่สัปดาห์ละ 1,000 บาท ถ้านายวินัยมาขอพี่สาวก็จะให้เขาตลอด และวันเกิดเหตุพี่สาวของตนและนายวินัย ก็กลับมาจากขายหมาล่า จำขนมจีน และองุ่น ที่ตลาดนัด ได้เงินไม่ต่ำกว่า 8,000 บาท และนำเงินใส่กระเป๋าไปวางไว้ในบ้าน ซึ่งหลังเกิดเหตุนายวินัย ก็ได้นำกระเป๋าใบดังกล่าวไปด้วย ตนก็ยังรู้สึกสงสัยว่า ในเมื่อพี่เขยรู้จุดที่เก็บกระเป๋าเงิน แล้วจะมาขอเงินพี่สาวตนทำไม และยืนยันว่าพี่สาวตนไม่ได้คิดจะเก็บเงินค้าขายไว้คนเดียว พี่สาวตนยังเคยนำลูกติดนายวินัยมาเลี้ยงที่บ้านอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวแล้วก็ยังไม่ให้อภัยกับสิ่งที่นายวินัยได้กระทำลงไป เพราะตนอยากรู้มูลเหตุจริง ๆ ว่านายวินัย ยิงพี่สาวของตนเพราะอะไร ที่นายวินัย ให้การตอนทำแผน มันดูขัดแย้งไปหมด เบื้องต้นครอบครัวของนายวินัย ก็ได้ประสานเข้ามาแล้วว่าจะเข้ามาขอขมาศพ