ญาติปล่อยโฮฉะตำรวจยิงเซลส์ขายรถโหดเกินไป โชว์รูมชี้ป่วยจิตบุกขู่ 2 หน (คลิป)

จากกรณี นายจเด็ด สมสอง อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร ก่อเหตุถือปืนบุกโชว์รูมรถนิสสัน ริมถนนนิตโย อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เพื่อระบายแค้นสมัยเคยทำงานที่นี่แต่ถูกไล่ออกเพราะตรวจพบว่าฉี่เป็นสีม่วงเนื่องจากเสพยาบ้า ซึ่งตำรวจ สภ.สว่างแดนดิน ได้เข้าระงับแต่คนร้ายขัดขืน ขับรถเก๋งโอเปิ้ล คอร์ซ่า สีส้ม ทะเบียน ขก 6816 อุดรธานี มาบนถนนหลวงหมายเลข 22 สกลนคร-อุดรธานี มุ่งหน้าเข้าจังหวัดอุดรธานี แต่ถูกตำรวจไล่ล่า แต่คนร้ายยิงปืนสู้จึงถูกวิสามัญ ในพื้นที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี 

วันที่ 23 เม.ย.63 นาย เฉลิมชนม์ วุ่นบำรุง อายุ 48 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัท บอกว่า ผู้ก่อเหตุคือนายจเด็ด สมสอง อายุ 28 ปี เป็นพนักงานเก่าของบริษัท เป็นนักเรียนทุน และเข้าเป็นพนักงานของบริษัทตั้งแต่ปี 2557 หลังจากนั้นเมื่อนายจเด็ด ทำงานใช้ทุนจนหมด ก็ได้ลาออกเมื่อปี 2559 แต่ไม่ได้ถูกไล่ออกตามที่เป็นข่าว

แต่เมื่อตอนที่นายจเด็ดได้ออกไปจากบริษัทก็ไม่ทราบแล้วว่าระหว่างนั้นได้รับความกดดันหรือมีปัญหาอะไร เนื่องจากก่อหน้านี้ที่นายจเด็ด ลาออกก็เคยกลับเข้ามาข่มขู่พนักงานภายในบริษัทถึง 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรก นายจเด็ดเดินเข้ามาพร้อมกับประแจรถยนต์ตามหาพนักงานคนหนึ่งแต่ไม่พบ 

ซึ่งหลังจากวันนั้นด้วยความเป็นห่วงพนักงานทุกคน รวมถึงนายจเด็ดด้วย เนื่องจากตนเองเห็นว่าลักษณะของนายจเด็ด ตอนเดินเข้ามาในบริษัทมีลักษณะแปลกไป จึงประสานไปยังครอบครัวและแพทย์ จนพบว่ามีอาการทางประสาท เคยเข้ารักษาอาการที่รพ.นครพนม ซึ่งนายจเด็ดจะมีอาการเหมือนได้ยินเสียง ของพนักงานที่เคยร่วมงานด้วยกันพูดนินทาอยู่ในหัวตลอด จนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งเป็นครั้งที่ 3

ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 10.00 น. นายจเด็ดขับรถยนต์มาจอดบริเวณที่จอดรถลูกค้าหน้าบริษัท พร้อมถือปืน พก-มีดติดตัว เดินลงมาจากรถ โดยไม่ได้มีการพูดคุยกับใครเดินตรงเข้าไปที่ห้องเฉพาะช่าง เนื่องจากคิดว่าคู่กรณีเก่าอยู่ข้างในแต่ไม่พบ จากนั้นนายจเด็ด จึงเดินออกไปจากโชร์รูมเจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาระงับเหตุพอดี 

แต่นายจะเด็ดโชว์อาวุธปืนให้ตำรวจดู เจ้าหน้าที่จึงหลีกทางให้นายจเด็ดขึ้นรถขับออกไปก่อน ก่อนเจ้าหน้าที่จะประสานกำลังสกัดกั้น และขับรถติดตามไป บนถนนหลวงหมายเลข 22 สกลนคร-อุดรธานี มุ่งหน้าเข้าจังหวัดอุดรธานี และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการวิสามัญในเวลาต่อมา เนื่องจากได้ยินมาว่าระหว่างหลบหนีนายจเด็ดมีการยิงต่อสู้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่เกิดขึ้นยืนยันว่าไม่ได้เป็นเพราะนายจเด็ดถูกบริษัทกดดันและไล่ออกจากงาน หรือแม้แต่นายจเด็ด ทะเลาะกับแฟนสาวที่ทำงานอยู่ในบริษัทเลยมาตามง้อ ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด เหตุทั้งหมดเกิดขึ้นมาจากนายจเด็ดมีอาการทางประสาท

วันเดียวกัน ช่วงบ่ายญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมายังจุดที่ผู้เสียชีวิตถูกวิสามัญ เพื่อทำการเชิญดวงวิญญาณกลับไปทำพิธีสวดอภิธรรมศพต่อที่บ้าน

ไทม์ไลน์ก่อนเกิดเหตุ 22 เม.ย. เวลา 08.00 น. นายจเด็ด ขับรถออกจากบ้าน และแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่ง เวลา 10.30 น. ขับรถไปโชว์รูม อาละวาดใช้ปืนขู่ เวลา 11.30 น. ตำรวจได้รับแจ้ง พร้อมจัดชุดไล่ล่า เวลา 12.00 น. นายจเด็ด ยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่จึงถูกวิสามัญ 

ด้าน นางสุภาพร สมสอง พี่สาวผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนเองมาทราบข่าวเมือวานนี้ เวลา 15.00 น. มีญาติโทรมาบอกว่า น้องชายถูกตำรวจทำการวิสามัญจนเสียชีวิต ตนเองก็รู้สึกตกใจ เนื่องจากปกติแล้วน้องชายจะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่สุงสิงกับใคร มีอะไรก็จะไม่ค่อยพูด และตั้งแต่เล็กจนโตก็ไม่เคยไปมีเรื่องอะไรกับใคร จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า น้องชายได้บุกถืออาวุธปืนเข้าไปข่มขู่ในบริษัทรถยนต์ และมีการยิงต่อสู่กับตำรวจ จนถูกวิสามัญ

เนื่องจากน้องชายเคยเล่าให้ฟังว่า เกิดความคาใจกับเพื่อนที่เคยร่วมงานด้วยกัน เพราะเพื่อนรวมงานทำงานไม่เป็นทีม น้องชายพูดอะไรไม่เคยฟังและชอบนินทาน้องชาย แต่ตนเองก็ไม่ทราบว่าที่น้องชายพูดจริงหรือไม่ เพราะน้องชายก็มีอาการทางประสาทไม่ปกติ หากเวลาสติหลุด จะควบคุมตัวเองไม่ได้ อยากทำอะไรก็จะทำโดยที่ไม่รู้ตัว

หลังจากเกิดเหตุตอนนี้คนในครอบครัวก็อยู่ในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ เนื่องจากน้องชายก็เป็นเสาหลักของครอบครัว น้องชายเป็นคนดีไม่เคยกินเหล้า ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แม้แต่ไปเที่ยวยังไม่ไปทำแต่งาน

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คิดว่าทางเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุเกินไป มองว่าหากน้องชายไม่หยุดหรือฟังเจ้าหน้าที่ก็น่าจะประสานญาติหรือคนในครอบครัวไปเกลี่ยกล่อมแทน ไม่ใช่กระหน่ำยิงแบบนี้ 

ขณะที่ น.ส.อ้อม  อายุ 22 ปี พนักงานเติมน้ำมัน บอกว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 08.30 น. นายจเด็ด ผู้ก่อเหตุ ได้ขับรถเข้ามาเติมน้ำมัน ซึ่งตนเป็นคนเติมให้ โดยระหว่างที่รอเติมน้ำมันก็ดูท่าทางปกติ เป็นคนพูดเพราะ ไม่ได้เร่งรีบหรือโมโหและไม่เห็นอาวุธปืน

แต่เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เห็นรถของนายจเด็ดขับย้อนกลับมาผ่านหน้าปั้มน้ำมันอีกครั้ง และมุ่งหน้าไปทาง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที เห็นรถมอเตอร์ไซค์และรถกระบะของตำรวจขับไล่ตามผ่านหน้าปั้มน้ำมันไปอีกหลายคันกระทั่งมาทราบข่าวภายหลังว่านายจเด็ดถูกตำรวจวิสามัญ