วันที่ 23 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางสำรวย เสนามนตรี อายุ 40 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 10 บ้านดงบาก ตำบลนิคมพัฒนา อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู หลังถูกยายตุ่น (นามสมมติ) อายุ 60 ปี พาลูกน้องเป็นชายฉกรรจ์ 6 คน เข้ามารื้อบ้านโดยได้ขนไม้ และสังกะสี ลงมากองด้านล่างเพื่อจะนำไปขาย โดยอ้างว่านางสำรวยติดหนี้อยู่ 10,000 บาท
นางสำรวย เสนามนตรี เจ้าของบ้าน เล่าว่า บ้านตนเองเป็นบ้านไม้สองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ย้อนหลังไปเมื่อประมาณปี 2557 ตนเองได้ไปกู้ยืมเงินกับอดีตกำนันคนนึงเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท และตกลงจะผ่อนชำระให้โดยจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 7 บาท
ตนเองก็ส่งดอกอยู่พักนึง จนไม่มีเงินส่งแต่ได้บอกกล่าวกับทางอดีตกำนันว่าขอเวลาเก็บเงินสักพักแล้วจะนำเงินมาชำระให้ จากนั้นตนเองได้หาเงินได้จึงนำเอาไปคืนให้กับอดีตกำนันเป็นเงิน 40,000 บาท ซึ่งยังคงเหลืออีก 10,000 บาท
จากนั้น ยอมรับว่าประสบปัญหาด้านการเงินทำให้ยังค้างชำระเงิน 10,000 บาท กระทั่งล่าสุดเมื่อวานนี้ นางตุ่น พร้อมพวก 6 คน บุกมาที่บ้านของตนเอง ซึ่งขณะนั้นตนกับสามีไม่อยู่บ้าน
แต่หลังจากกลับมาบ้านก็ถึงตกใจ เพราะบ้านเหลือแต่โครง จึงสอบถามสาเหตุกับนางตุ่นได้คำตอบว่า อดีตกำนันได้โอนหนี้ที่ตนเองติดค้างอยู่ให้กับยายตุ่นเป็นเจ้าหนี้แทน ซึ่งตนเองก็งงเหมือนกันว่าตอนโอนหนี้ทำไมไม่แจ้งให้ทราบ จึงสั่งให้คนงานทั้งหมดหยุดรื้อบ้าน และบอกว่าจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คนงานทั้งหมดและนางตุ่นจึงได้หนีกลับไป
หลังเข้าแจ้งความเบื้องต้นตำรวจได้ออกหมายเรียกนางตุ่นกับพวก และได้แจ้งข้อกล่าวหา ข้อหาบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ พร้อมส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนางตุ่น ผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ บอกว่า บ้านของนางสำรวย ตนเองได้ซื้อต่อมาจากกำนันแล้ว ราคา 150,000 บาท โดยนางสำรวยต้องผ่อนบ้านที่เหลือให้กับตนเอง เพราะมีการโอนหนี้กันเรียบร้อยแล้ว
และก่อนที่จะเดินทางไปรื้อบ้านได้แจ้งกับนางสำรวยไว้ก่อนแล้ว หลังรื้อเสร็จก็นำไม้กับสังกะสีมาไว้ที่บ้านตัวเอง อย่างไรก็ตาม ไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่ติดหนี้ถึงกล้าไปแจ้งความเอาผิดเจ้าหนี้