เสี่ยร้อยเอ็ด เปิดใจโต้ฉกหวย 12 ล. ฉะพวกมโน ยันซื้อเองกับมือ แบ่งลูกเมียขึ้นเงิน (คลิป)

28 ก.ย. 60
ความคืบหน้าคดี นายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง หรือ "ปื๊ด" อายุ 31 ปี ชาวบ้านวังกะโดน ต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ถูกขโมยลอตเตอรี่ 12 ล้านบาท งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2560 หมายเลขที่ออกคือ 715431 จำนวน 2 ใบ โดยนายพันธุ์ศักดิ์ อ้างว่า ลอตเตอรี่โดนขโมยไป และไปเชื่อมโยงกับสามีภรรยานักธุรกิจชาวร้อยเอ็ด
นายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง หรือ "ปื๊ด" อายุ 31
ล่าสุด วันนี้ (27 ก.ย.) พนักงานสอบสวน สภ.นางรอง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐาน ที่บ้าน นายพันธุ์ศักดิ์ ผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความว่าถูกลอตเตอรี่ 12 ล้าน พร้อมสอบปากคำพยานแวดล้อมเพิ่มเติม ส่วนผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นคนใกล้ชิดผู้เสียหายระบุว่า ผู้ที่เข้าไปขโมยลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวนว่ามีความเชื่อมโยงกับสองสามีภรรยาชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ที่มีชื่อนำลอตเตอรี่ทั้ง 2 ใบไปขึ้นเงินที่กองสลากหรือไม่ ขณะที่ ทางเจ้าหน้าที่ทราบว่า เจ้าของปั้มผู้เป็นสามี ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานแล้วเมื่อวานนี้ (26 ก.ย.) โดยเบื้องต้นให้การเพียงว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดดังกล่าวเช่นกัน จึงต้องหาหลักฐานมายืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ว่าซื้อสลากชุดดังกล่าวมาจากที่ใด เนื่องจากข้อมูลจากกองสลาก และตัวแทนที่รับลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวมาจากกองสลากระบุว่า ผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นคนรับสลากดังกล่าวมาขาย สำหรับเรื่องดังกล่าวมีเรื่องที่น่าแปลกอยู่คือ สองสามีภรรยานักธุรกิจชาวร้อยเอ็ดไปขึ้นเงินที่กองสลากฯ โดยไปขึ้นเงินคนละวัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน และหาข้อมูลหลักฐานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทราบว่าวันนี้พนักงานสอบสวนจะเรียกผู้เป็นภรรยามาสอบปากคำ ขณะที่ นายพันธุ์ศักดิ์ พร้อมครอบครัว ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดที่ตนวางลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัล 12 ล้านไว้ใต้เครื่องเสียงภายในบ้าน พร้อมชี้ป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ 4 ตัวท้าย 5431 ที่ให้โชค สำหรับเลขดังกล่าวตนได้ตามซื้อมาหลายงวด จนกระทั่งงวดวันที่ 16 ส.ค. 2560 ได้ไปหาซื้อลอตเตอรี่หลังโรงพยาบาลนางรอง จนไปพบกับคนขายลอตเตอรี่ตรงกับเลขที่ต้องการ จึงซื้อมา 2 ใบ พอกลับมาที่บ้าน ได้นำลอตเตอรี่ไปวางไว้ที่เครื่องเสียงพร้อมกับเงิน กว่า 100 บาท กระทั่งรู้ว่าตนถูกลอตเตอรี่ในเย็นวันดังกล่าว พอกลับมาดูที่บ้านก็พบว่าลอตเตอรี่ถูกขโมยไปแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากตำรวจรับปากว่าจะได้ความคืบหน้าภายใน 1 สัปดาห์ ทำให้ตนมีความหวังมากขึ้น อีกทั้งตั้งใจไว้ว่าหากได้เงินรางวัลที่ถูกลอตเตอรี่ 12 ล้านกลับคืนมา ตนและครอบครัวจะทำบุญล้างซวย เพราะไม่คาดว่าลอตเตอรี่จะมาถูกคนใกล้ชิดขโมยไป ส่วนเงินที่เหลือจากทำบุญก็จะยกให้พ่อเป็นคนดูแลทั้งหมด
พ.ต.อ.ไพศาล สุวรรณทา ผู้กำกับการสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์
ส่วนทางด้าน พ.ต.อ.ไพศาล สุวรรณทา ผู้กำกับการสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เรียกนายพันธุ์ศักดิ์ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อประกอบสำนวนคดี ส่วนภรรยาเสี่ยเจ้าของกิจการหนึ่งที่ร้อยเอ็ด ผู้นำลอตเตอรี่ถูกรางวัล 12 ล้านไปขึ้นเงินที่กองสลาก ไม่ได้เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนตามนัด โดยอ้างว่ายังไม่พร้อม ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะนัดหมายมาให้ปากคำอีกครั้ง หากยังไม่มาตามนัด จะต้องออกหมายเรียก 3 ครั้ง และหากไม่มาตามหมายเรียก ต้องออกหมายจับตามขั้นตอน ส่วนนายสุวัช จันทร์พลาง พ่อค้าขายลอตเตอรี่ ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว แต่ปฏิเสธให้ข้อมูลกับสื่อและไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ โดยอ้างว่ากลัวกระทบกับรูปคดีของทางตำรวจ เสี่ยโต้ง (นามสมมติ) นักธุรกิจ ได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า หลังจากตกเป็นข่าวยอมรับว่า ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เนื่องจากครอบครัวมีกิจการหลายอย่างในจังหวัดร้อยเอ็ด เวลาจะเดินทางไปที่ไหน จะมีแต่คนถามเรื่องลอตเตอรี่ ขณะเดียวกัน เสี่ยโต้ง ยืนยันว่า ลอตเตอรี่ของตนเป็นของจริงอย่างแน่นอน เพราะจำได้อย่างแม่นยำว่า วันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปทำธุระที่ จ.บุรีรัมย์ ระหว่างนั้นไปจอดรถอยู่หน้าร้านส้มตำ เยื้องกับโรงพยาบาลนางรอง ขณะนั้นมีลุงขายลอตเตอรี่ อายุประมาณ 50 ปี มายืนรอหน้ารถของตน ตอนนั้นนึกในใจว่า ถ้าลุงไม่เดินหนีไป จะลงไปอุดหนุน พอผ่านไปได้ 2 นาที ลุงคนขายลอตเตอรี่ ยังยืนอยู่หน้ารถ จึงลงไปบอกว่า "ลุงถ้าอยากได้เงินผม ตามเข้ามาขายในร้าน" และถ้าหากตนจำไม่ผิด ตนได้ซื้อลอตเตอรี่ทั้งหมด 3 ชุด หนึ่งในนั้นคือลอตเตอรี่เลขท้าย 31 ส่วนลุงคนขายจะเป็นคนเดียวกับที่หนุ่มบุรีรัมย์อ้างว่าไปซื้อหรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจ "เสี่ยโต้ง" ยังเปิดเผยอีกว่า วินาทีที่รู้ว่าถูกรางวัลที่ 1 ตนตื่นเต้นมาก เพราะตรวจรางวัลซ้ำไป ซ้ำมา ไม่ต่ำกว่า 4 รอบ ส่วนตัวมีความเชื่อว่าเป็นเพราะตนศรัทธาหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน หลวงปู่กองและศรัทธาหลวงปู่หมุน จึงชอบทำบุญเข้าวัด สร้างพระ รายได้ทั้งหมดจะยกให้วัดไม่เอาเงินเข้ากระเป๋า สิ่งเหล่านี้ที่ตนเองทำมาตลอด จึงให้โลคลาภถูกรางวัลที่ 1 แต่ภายหลังจากมีข่าวว่า ตนไปขโมยลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 จากหนุ่มบุรีรัมย์ ยอมรับว่าเสียใจมาก เชื่อว่าหนุ่มคนดังกล่าวแจ้งความเท็จ ส่วนลอตเตอรี่นั้น ตนไปขึ้นเงินมาแล้ว จึงอยากให้สังคมคิดดูว่า หากตนไปขโมยลอตเตอรี่มาจริง คงจะไม่ไปขึ้นเงินด้วยตัวเองที่กองสลาก ขณะที่ "เสี่ยโต้ง" บอกอีกว่า ตนถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 3 ใบ โดยแบ่งให้ลูกเป็นทุนการศึกษา 2 ใบ ส่วนอีก 1 ใบ ตนได้มอบให้กับภรรยาไว้ใช้บริหารธุรกิจครอบครัวต่อไป "เสี่ยโต้ง" ได้ย้ำว่า แค่ข้อมูลก็ไม่ตรงกันแล้ว เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่หนุ่มบุรีรัมย์ มโนขึ้นมาเองทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ตนยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อคลี่คลายคดีนี้ให้จบลงโดยเร็ว แล้วตนเชื่อว่าความจริงก็คือความจริง ไม่มีประโยชน์ที่ต้องหลบหนี โดยในวันพรุ่งนี้ (28 ก.ย.) จะเดินทางไปให้ปากคำพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกที่ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ต่อไป "เสี่ยโต้ง" ทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้ให้ดูตอนจบ หากความจริงปรากฏว่าตัวเองไม่ผิด เบื้องต้นจะไม่แจ้งความกลับเพราะไม่อยากให้เป็นเวรกรรมต่อกัน แต่ถ้าหากคนที่กล่าวหา ไม่ยอมจบเรื่อง สร้างผลกระทบบานปลาย รุนแรงจนไม่มีที่อยู่ในสังคม ตนก็จะฟ้องกลับ

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ