จากกรณี เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 28 เม.ย. 63 ร.ต.อ.ขัตติยะ เพชรกล้า รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุมีคนจมน้ำเสียชีวิตบริเวณบ้านรวมโชค ม.11 ต.บัวทอง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
ที่เกิดเหตุเป็นหนองน้ำ กว้างประมาณ 200 เมตร ความลึกประมาณ 2-3 เมตร หน่วยกู้ชีพ ต.บัวทอง อ.เมือง งมหาร่างของนายชาญ พรมเทพ อายุ 42 ปี แต่การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก จึงประสานชุดประดาน้ำจากมูลนิธิสว่างจรรยาบุรีรัมย์ช่วยในการค้นหา ใช้เวลานานกว่า 1 ชม. พบร่างผู้เสียชีวิตในสภาพตัวซีด สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง กางเกงขาสั้นสีเขียว แพทย์เวร รพ.บุรีรัมย์ ตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย
วันที่ 29 เม.ย. 63 ทีมข่าวสำรวจบริเวณรอบหนองน้ำ พบว่ามีธูปปักอยู่ที่พื้นดินริมหนองน้ำ คาดว่าน่าจะเป็นธูปของครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่มาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับไปทำพิธีกรรมทางศาสนา
นางสวงศ์ จะรอดรัมย์ อายุ 48 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเองและน้องชายเพิ่งกลับจากทำงานใน จ.ชลบุรี มาอยู่ที่บ้านได้ประมาณ 1 เดือน เนื่องจากต้องหยุดงานเพราะโควิด-19 ตนและน้องชายไม่ได้เงินจากการลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา เพราะระบบแจ้งกลับมาว่าพวกตนเป็นเกษตรกร จึงไม่มีรายได้ ไม่มีเงินที่จะซื้อข้าว ตนเองและน้องชายจึงพากันไปหาหอยหาปูมาเป็นกับข้าวประทังชีวิต
วันที่ 28 เม.ย.63 ตนเอง น้องชาย และญาติ รวม 6 คนได้ ขับรถพากันไปที่หนองน้ำเพื่อหาหอย น้องชายตนเองอยากจะไปหาหอยที่หนองน้ำฝั่งตรงข้าม ซึ่งตนเองก็บอกแล้วว่าอย่าไป เนื่องจากไม่ใช่คนในพื้นที่ จึงไม่รู้ว่าหนองน้ำมีความกว้างลึกขนาดไหน เกรงว่าจะได้รับอันตราย แต่น้องชายก็ไม่ยอมฟัง ว่ายข้ามไปฝั่งตรงข้าม ไปได้แค่กลางน้ำ น้องชายก็เป็นตะคิว ประกอบกับมีโรคประจำตัว คือโรคชัก จึงทำให้น้องจมน้ำเสียชีวิต
ซึ่งตนเองและญาติก็พยายามช่วย แต่ก็ช่วยไม่ทัน จึงโทรเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยนำร่างของน้องชายขึ้นจากน้ำ หลังเกิดเหตุตนเองรู้สึกเสียใจมาก เพราะไม่คิดว่าน้องชายจะต้องมาจบชีวิตแบบนี้
โดยหลังจากที่น้องชายเสียชีวิต มีชาวบ้านในพื้นที่เล่าให้ฟังว่า หนองน้ำแห่งนี้มีผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายราย คนในพื้นที่ไม่ค่อยมีใครลงมางมหอยกัน ตนคิดว่าอาจจะเกี่ยวกับเรื่องตัวตายตัวแทนที่ทำให้น้องชายเสียชีวิต เพราะก่อนหน้านี้มีเด็ก 2 คนจมน้ำเสียชีวิต น้องชายอาจจะเห็นเด็กแล้วไปช่วย ทำให้จมน้ำเสียชีวิตในที่สุด