“พุทธ” แจง สื่อต้องตรวจสอบทุกด้าน หลังเจ๊สุนันท์ฟ้องหมิ่น ลุยหาความจริง ไม่หวั่นถูกกดดัน (คลิป)

ความคืบหน้าวันที่ 5 ตุลาคม 2560 นางสุนันท์ จารุไพโรจน์ พร้อมด้วย น.ส.พรพิมล จารุไพโรจน์ แม่และพี่สาวของน.ส.กมลวรรณ จารุไพโรจน์ หรือ "น้องน้ำหวาน" นักกีฬาเพาะกายหญิงทีมชาติไทย เข้าพบ พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผู้กำกับการ สถานีตำรวจบางเขน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ นายพุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี พิธีกรรายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ทีวี และนายกันตพัฒน์ ทองคำ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หลังมีการให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวว่า "นางสุนันท์ เบี้ยวค่าจ้างรับเหมาก่อสร้างอาคารกว่า 7,000,000 บาท โดยนำหลักฐานเป็นเอกสารสัญญาว่าจ้างการก่อสร้างอาคาร และคลิปวิดีโอรายการข่าว มามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน นางสุนันท์ เปิดเผยว่า ที่เข้าแจ้งความ เนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ต.ค. เวลาประมาณ 21.00 น. ได้นั่งดูรายการทุบโต๊ะข่าวผ่านทางโทรศัพท์มือถือ โดยเป็นการจัดรายการของ นายพุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี ที่มีการสัมภาษณ์ผู้รับเหมาก่อสร้างทางโทรศัพท์ ซึ่งมีเนื้อหาบางอย่างที่คลาดเคลื่อน และถูกใส่ร้าย เกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารอพาร์ทเม้นท์ โดยถูกกล่าวหาว่า ไม่จ่ายค่าจ้างให้ผู้รับเหมา ครบตามสัญญาจ้าง ทำให้ผู้รับชมเข้าใจคลาดเคลื่อน และทำให้นางสุนันท์ ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ นางสุนันท์ ยืนยันว่า มีเอกสารสัญญาจ้าง ยืนยันการรับเงิน และอ้างว่าไม่เคยสั่งให้ผู้รับเหมาต่อเติมห้องแต่อย่างใด โดยในวันนี้ได้นำเอกสารสัญญาจ้าง และคลิปย้อนหลังรายการข่าว ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน พร้อมบอกเจ้าหน้าที่ว่า ตนยังมีคลิปเสียงอีกหลายคลิป ที่ทำให้เชื่อว่าถูกรีดทรัพย์ แต่ยังไม่ขอเปิดเผย สำหรับที่มีการพูดถึงเงิน 20,000,000 บาท เป็นเพียงบางส่วนของคลิป แต่ไม่ใช่การตัดต่อคลิปอย่างแน่นอน

ด้าน พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผู้กำกับสถานีตำรวจบางเขน กล่าวว่า เบื้องต้นจะทำการสอบปากคำผู้ร้อง และทำการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และคลิปวิดีโอรายการข่าวที่นำมามอบให้พนักงานสอบสวนอย่างละเอียด หากพบว่าเข้าข่ายความผิดในข้อกฎหมายใดก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ด้าน นายพุทธอภิวรรณ ได้ชี้แจงผ่านทางรายการทุบโต๊ะข่าว ซึ่งยืนยันว่า การนำเสนอข่าวเป็นไปตามข้อเท็จจริง เพราะการทำหน้าที่สื่อ ต้องฟังความอย่างรอบด้าน พร้อมกันนี้ ได้ลำดับเหตุการณ์นำเสนอข่าวของ นางสุนันท์ ในแต่ละวัน ตั้งแต่ครั้งแรกที่มีการร้องเรียนถูกรีดไถ 20,000,000 บาท จากนั้นได้มีการนำผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง รวมถึง นายกันตพัฒน์ ที่ถูกฟ้องด้วย โดยแหล่งข่าวที่ให้สัมภาษณ์ มีหลักฐานเป็นภาพและเสียงทั้งหมด ไม่ได้มีการใส่ร้ายแต่งเติมแต่ประการใด และพร้อมพิสูจน์ข้อกล่าวหาในกระบวนการยุติธรรมเสมอ ทั้งจะไม่หยุดตรวจสอบแสวงหาความจริง แม้จะถูกกดดัน