ข่าวดีสำหรับพี่น้องเกษตรกรที่เป็นลูกค้าของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติและการระบาดของโรคโควิด-19 ได้คลายความกังวลจากภาระหนี้สิน ล่าสุด ธ.ก.ส. ได้เพิ่มมาตรการช่วยเหลือให้แก่ลูกค้า โดยการพักชำระหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ยเงินกู้ ที่ถึงกำหนดชำระตั้งแต่งวดเดือนเม.ย. 63 – งวดเดือน มี.ค. 64 เป็นเวลา 1 ปี โดยอัตโนมัติ และยังคงชั้นหนี้เดิมของลูกค้าก่อนเข้าโครงการ
ซึ่งมาตรการดังกล่าวครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งที่เป็นเกษตรกรรายคน บุคคล ผู้ประกอบการ (นิติบุคคล) กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง รวมผู้ที่ได้รับประโยชน์จำนวน 3,348,378 ราย คิดเป็นต้นเงินกู้จำนวน 1,265,492 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้ ธ.ก.ส. มีมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย
1. การขยายระยะเวลาชำระหนี้ ลดอัตราดอกเบี้ย ปลอดชำระต้นเงินใน 3 ปีแรก ให้กับลูกหนี้ปกติ และลูกหนี้ NPL ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 63 - 31 ธ.ค. 64 และยังมีสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน ในการประกอบอาชีพแก่ลูกหนี้เพิ่มเติมเพื่อเสริมสภาพคล่อง
2. มาตรการพักชำระหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ย 3 เดือน โดยอัตโนมัติ (เม.ย. – มิ.ย. 63) ให้ลูกค้าทุกกลุ่มทั้งประเภทสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท) และโครงการสินเชื่อ SME เกษตร (วงเงินกู้ไม่เกิน 20 ล้านบาท)
3. มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้า SMEs ได้แก่ มาตรการพักชำระหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ย 6 เดือน โดยอัตโนมัติ (เม.ย. – ก.ย. 63) โดยลูกค้าที่ประสงค์ชำระหนี้ ธ.ก.ส. จะคืนดอกเบี้ยร้อยละ 10 ของเงินที่ส่งชำระ นอกจากนี้ยังมีมาตรการสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจ SMEs เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการที่มีวงเงินกู้รวมไม่เกิน 500 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี รัฐบาลรับภาระจ่ายดอกเบี้ยแทน 6 เดือนแรก วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน ร้อยละ 20 ของยอดหนี้คงค้าง ณ วันที่ 31 ธ.ค. 62
4. มาตรการสินเชื่อฉุกเฉิน วงเงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายจำเป็นและฉุกเฉินในครัวเรือน ในอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.1 ต่อเดือน วงเงินกู้รายละไม่เกิน 10,000 บาท กำหนดชำระคืนไม่เกิน 2 ปี 6 เดือนนับจากวันกู้ ไม่ต้องใช้หลักประกัน โดยปลอดชำระคืนต้นเงินและดอกเบี้ยใน 6 เดือนแรกนับจากวันกู้
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรที่เป็นลูกค้าธนาคารและต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ เพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ Call Center 0 2555 0555
Advertisement