เผยคลิปเสียง “พลทหาร” ตายคาค่ายกินข้าวนายก่อนน้ำลายฟูมปาก ทัพเรือแจงไม่ร่วมงานศพติดโควิด (คลิป)

3 พ.ค. 63

กรณีสื่อมวลชนหลายสำนักได้นำเสนอข่าวการเสียชีวิตของพลทหาร เจษฎากร เนตรแสงสี อายุ 21 ปี สังกัดกองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 กรมสารวัตรทหารเรือ โดยมีประเด็นการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการเสียชีวิตว่า พบสารพิษในกระเพาะอาหารผู้ตาย 

615991

เนื่องจากสภาพศพมีรอยแผลพุพองที่ปาก บริเวณเพดานด้านบน มีรอยเป็นจ้ำสีม่วง ใบหน้าดำคล้ำ ตามเนื้อตัว แต่ไม่พบร่องรอยทำร้ายร่างกาย และประเด็นที่ไม่มีกำลังพลไปร่วมในงานฟังสวดศพที่ จ.พิษณุโลก

774538

ล่าสุดวันที่ 3 พ.ค.63 พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ และโฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่า ในนามกองทัพเรือรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นลูกหลานของประชาชนที่เข้ามาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบ พร้อมกันนี้ในส่วนของผู้บังคับบัญชาระดับสูงก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้สั่งการด่วนตั้งแต่ทราบเหตุการณ์ โดยให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นการตายผิดธรรมชาติ ที่ยังรอผลยืนยันการตรวจตามมาตรฐานแพทย์นิติเวช จึงอยากให้ทุกฝ่ายที่นำเสนอข่าว อย่าเพิ่งละเมิดสิทธิ์ของผู้ป่วย ส่วนข้อจำกัดของหน่วยที่ไม่ได้ไปร่วมฟังสวดที่ จ.พิษณุโลก ในวันที่ 29 เม.ย. - 1 พ.ค.63 แต่ก็ได้ช่วยเหลือเบื้องต้นด้วยการเป็นฝ่ายดำเนินการจัดจ้างรถมูลนิธิเคลื่อนศพไปส่งยัง จ.พิษณุโลก พร้อมแสดงความตั้งใจจะร่วมเดินทางไปในวันฌาปนากิจเดิมในวันที่ 2 พ.ค.63 นั้น ก็สืบเนื่องจากมีข้อจำกัดการเดินทางไปต่างพื้นที่ในห้วงสถานการณ์ ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งอาจทำให้ส่งผลกระทบกับความรู้สึกของครอบครัว และญาติของผู้เสียชีวิต ตามที่ปรากฎในข่าว

951185

สำหรับรายละเอียดเหตุการณ์ ขอชี้แจงให้ทราบถึงประเด็นต่าง ๆ ในเบื้องต้นดังนี้ ในวันเกิดเหตุ ตรงกับวันที่ 27 เม.ย.63 เวลา 22.30 น. พลทหารเจษฎากร ได้กลับเข้ากรมกอง ภายหลังเสร็จภารกิจการ เข้าเวรจุดตรวจ และได้เข้านอนในเวลา 00.30 น. หลังจากรับประทานอาหารในช่วงดึก

857957

ต่อมาในเวลา 01.50 น. เพื่อนนอนเตียงติดกันได้ลุกไปเข้าห้องน้ำและพบว่า พลทหารเจษฎา น้ำลายฟูมปาก จึงได้แจ้ง นายเวร รีบนำตัวส่ง รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ โดยทีมแพทย์ได้พยายามช่วย อย่างเต็มความสามารถ แต่พลทหารเจษฎา เสียชีวิตในเวลา 02.24 น. จึงได้รีบแจ้งให้ทางบ้านของพลทหารเจษฎา ได้รับทราบ

767535

อย่างไรก็ดี ทางกองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 ได้สรุปเหตุการณ์เบื้องต้นรายงานด่วนถึงกองทัพเรือแล้ว พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในทันที

4

สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้นนั้น กองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 ได้รวบรวมเงินช่วยเหลือและจ้างรถมูลนิธิเคลื่อนศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนายังภูมิลำเนาที่ จ.พิษณุโลก พร้อมจัดพวงหรีดในนามหน่วย

พล.ร.ท.ประชาชาติ กล่าวอีกว่า กรณีไม่มีผู้บังคับบัญชา หรือตัวแทนหน่วยไปร่วมงานฟังสวดศพนั้น ชี้เรียนแจงให้ทราบว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้มีการประกาศ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ในเรื่องการเดินทางข้ามพื้นที่ อีกทั้งเป็นช่วงสถานการณ์ไม่ปกติ ทำให้หน่วยงานต้นสังกัดของพลทหารเจษฎา คือกองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 พิจารณาว่าจะจัดกำลังพลไปร่วมในพิธีฌาปนกิจศพ โดยต้องมีการทำหนังสือรับรองการกักกันตัวในหน่วย คัดเลือกกำลังพล เพื่อเดินทางไปร่วมงาน ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนของการตรวจโรคมีใบรับรองแพทย์ รวมทั้งต้องเสนอหนังสือขออนุญาตถึงฐานทัพเรือสัตหีบ ในการไปราชการจำเป็นกรณีพิเศษในช่วงเวลาเคอร์ฟิว

440046

ในส่วนข้อมูลเรื่องสารพิษ ที่มีการนำเสนอว่าป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของพลทหารเจษฎานั้น จากผลการชันสูตรในเบื้องต้น ทราบว่าผลปัสสวะไม่มีสารเสพติด ขณะที่ผลเลือดและผลน้ำในกระเพาะอยู่ระหว่างการส่งไปตรวจแล็บภายนอก ต้องรอคอยเวลาแจ้งผลกลับมาไม่เกิน 1 สัปดาห์ ซึ่งขัดแย้งกับข่าวที่นำเสนอออกมาเรื่องสารฆ่าแมลงที่ทราบผลแล้ว จึงขอให้มีความชัดเจนในเรื่องผลการชันสูตรอีกครั้งหนึ่ง และหากผลตรวจพบว่ามีการเสียชีวิตที่ผิดธรรมชาติ หรือความผิดไปจากปกติแต่ประการใด ทางกองทัพเรือจะได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสาเหตุ และ แจ้งข่าวให้ทราบต่อไป

141069

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เดินทางไปยังบ้านพักเลขที่ 224 หมู่ 2 บ้านเนินสะอาด ต.ท่าหมื่นราม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เพื่อพูดคุยกับนางพยอม บุรีรัมย์ อายุ 43 ปี มารดาของพลทหารเจษฏากร เปิดเผยว่า ตนมีลูก 2 คน คนโตเป็นลูกสาว ส่วนน้องก็อตเป็นลูกชายคนเล็ก และเป็นเสาหลักของครอบครัว เมื่อวานวันที่ 2 พ.ค.63 ซึ่งเป็นวันเผาศพของลูกชาย แต่ตนได้ตัดสินใจไม่เผาและติดต่อไปยัง รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก เพื่อขอผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตของลูกให้ชัดเจนอีกครั้ง และจะร้องขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานต้นสังกัดของลูกชายให้ความจริงกระจ่างว่าลูกชายของตนเป็นอะไรตายกันแน่ เพราะตั้งแต่วันที่ตนเดินทางไปรับศพลูกที่ จ.ชลบุรี กลับมานั้น ไม่เคยมีใครมาแม้แต่ร่วมงานศพลูกจนถึงวันที่จะเผา ก็ไม่มีตัวแทนจากทหารมาสักคน หรือแม้แต่คนที่มาอธิบายให้ฟังว่าลูกตนเป็นอะไรตายก็ไม่มีมี ซึ่งตนพยายามติดต่อกลับไป ได้รับคำตอบว่าไม่ว่าง ติดงาน ติดเคอร์ฟิว ตนกับลูกสะใภ้ติดต่อไปหาเพื่อนของลูกที่เป็นทหาร ก็ตอบไม่ตรงกันสักคนว่า สรุปแล้วลูกตนเป็นอะไรตาย ก่อนลูกจะตายเกิดอะไรขึ้น

871452

นางพยอม กล่าวทั้งน้ำตาว่า เวลาเกณฑ์ทหารก็จัดรถอย่างดี 2 ชั้น ติดแอร์มารับไปอย่างสมเกียรติ ปลุกฝังให้ภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เวลาตายทำให้ได้แค่เงินช่วยเหลือ 3 หมื่นกว่าบาท แถมให้ญาติเอาศพกลับมาเอง แม้แต่โลงที่ใส่ร่างก็ยังเป็นโลงบริจาค ตนเสียใจมากลูกตนตายในค่ายทหารและในชุดทหาร แต่ทำไมไม่มีใครตอบได้ว่าเป็นอะไรตาย ตนยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด หากไม่มีใครตอบได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ความจริงไม่ปรากฏว่าสารพิษที่อยู่ในกระเพาะอาหารเข้าไปได้อย่างไร ในเมื่ออาหารกินก็กินกันหลายคน แต่กลับไม่มีใครเป็นอะไรเลย มีเพียงลูกชายของตน หากความจริงไม่ปรากฏ ตนจะไม่เผาศพลูก จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมตรงนี้ด้วย

773694

ด้าน น.ส.ชฏาพร บัวแย้ม อายุ 22 ปี ภรรยาของพลทหารเจษฏากร เล่าให้ฟังว่า สามีของตนเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ยิ่งกับตนยิ่งไม่เคยทะเลาะ หรือมีปากเสียงกันเลย ปกติจะคุยโทรศัพท์กันวันละหลายรอบ คืนวันเกิดเหตุประมาณ 12.00 น. ตนนอนหลับไปแล้ว แฟนก็แชททิ้งไว้ว่าหลับฝันดี จนกระทั่งเวลา 06.00 น. มีจ่าเวรติดต่อมาว่าสามีเสียชีวิตแล้ว ให้ติดต่อญาติมารับศพ ตนก็พยายามถามว่าเกิดอะไรขึ้น ก็รู้แค่เพียงว่ากินอ่อมไก่กันแล้วแยกย้ายเข้านอน จนเพื่อนข้างเตียงมาปลุก ปรากฏว่าแฟนหยุดหายใจไปแล้ว จึงต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ก็ช้าเกินไปสามีสิ้นใจไปแล้ว

cg_6

ทั้งนี้ตนรู้เพียงเท่านี้ นอกจากนั้นไม่รู้อะไรเลย ไปรับศพสามีกลับมาบ้านที่ จ.พิษณุโลก ตั้งสวด 3 คืน และพยายามติดต่อไปที่เพื่อนของสามีที่อยู่ในค่ายทหาร ว่าจะมีใครมาร่วมงานศพหรือไม่ ก็ไม่มีใครมาสักคน จนแม่ของสามีบอกไม่ไหวแล้ว ปล่อยไปอย่างนี้ไม่ได้ ต้องร้องขอความเป็นธรรม ตายในหน้าที่แต่กลับถูกทอดทิ้งไม่มีใครเหลียวแล แม้แต่งานศพก็ไม่มาร่วม ตนต้องการหาความจริงว่าสามีเป็นอะไรตาย

5_2

สำหรับในวันที่ 4 พ.ค.63 ตนและแม่ของสามี จะเดินทางไปยังโรงพยาบาลที่ จ.ชลบุรี เพื่อขอทราบผลการตรวจสารพิษในกระเพาะอาหารว่าเป็นสารอะไรกันแน่ และจะไป สภ.พลูตาหลวง และสภ.สัตหีบ เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนความจริงให้กระจ่างว่าเป็นอะไรตาย หากความจริงไม่ปรากฏก็ยืนยันจะไม่เผาศพสามีจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรมให้กับครอบครัว

อย่างไรก็ตาม เพื่อนทหารเล่าให้ญาติฟังว่า คืนเกิดเหตุ พลทหารเจษฏากร กำลังนอนเล่นโทรศัพท์ จากนั้นเวลา 01.50 น. เกิดน้ำลายฟูมปาก และไม่เคยมีปัญหากับใคร อีกทั้งไม่เคยคิดฆ่าตัวตายแต่อย่างใด ในค่ายทหารไม่มียาฆ่าหญ้า โดยคลิปเสียง ระบุว่า ประมาณเที่ยงคืนก็ยังเห็นพลทหารเจษฏากร นอนเล่นโทรศัพท์มือมือ หลังจากกินอาหารต่อจากผู้หมวดรายหนึ่ง ยืนยันว่าในกลุ่มไม่มีใครทะเลาะกัน 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม