จากกรณีเพจที่นี่ “นครนายก” ได้โพสต์เรื่องราวร้องทุกข์ของชายชาวขอนแก่น ได้ถูกหญิงสาวซึ่งอาศัยอยู่ที่จังหวัดนครนายก หลอกให้โอนเงิน จึงมาขอให้ช่วยโพสต์เพื่อต้องการเบาะแส โดยถูกหลอกโอนเงินกว่า 26 ครั้ง รวม 107,450 บาท โดยสาวดังกล่าวได้เอารูปสาวสวยคนอื่นมาสร้างเฟซบุ๊กว่าเป็นตัวเอง
โดยชายคนดังกล่าวกับผู้ต้องหาได้แชตคุยกัน และพูดคุยทำนองจีบกัน และฝ่ายหญิงขอให้โอนเงินให้ผ่านบัญชีธนาคาร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเรื่อย ๆ จนชายดังกล่าวอยากขอพบ แต่ถูกบ่ายเบี่ยงตลอด สุดท้ายหญิงรายดังกล่าวได้ยอมรับว่าหลอกลวงจริง ก่อนจะปิดโทรศัพท์หนีไม่สามารถติดต่อได้อีก ชายหนุ่มจึงได้แจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น
วันที่ 3 พ.ค.63 นายสุดปิติ หนุ่มผู้เสียหาย บอกว่า รู้จักกับฝ่ายหญิงเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2561 ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยภาพในปกเป็นผู้หญิงผมสั้น ขาวสวย หุ่นดี โพรไฟล์หรูเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยได้ทักทายกันในแชต แต่ไม่ได้คุยจริงจังมากนัก ก่อนจะขาดติดต่อไป
ต่อมาช่วงเดือนตุลาคม ปี 2561 ได้คุยกันอีกครั้ง โดยครั้งนี้ตนเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกในลักษณะจีบ กระทั่งฝ่ายหญิงชวนไปเที่ยวรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.จันทบุรี โดยเสนอให้ช่วยกันออกค่าที่พักคนละครึ่ง จึงตัดสินใจเปย์สาวจ่ายค่าที่พักไป 4,300 บาท แต่ระหว่างที่จะโอนเงินมีข้อสงสัย เนื่องจากชื่อนาม-สกุล เจ้าของบัญชีเป็นคนละชื่อกันกับที่ใช้ในเฟซบุ๊ก โดยฝ่ายหญิงอ้างว่าเป็นบัญชีของคนที่ดูแล จากนั้นจึงขอวิดีโอคอลไปหาส่วนตัวเพื่อขอดูหน้า แต่กลับบ่ายเบี่ยง อ้างว่าถ้ามาหาเดี๋ยวก็ได้เจอ
หลังจากนั้นก็เริ่มมีการสั่งให้ซื้อของให้ เช่น เสื้อผ้าที่มีลวดลายคู่กัน รวมไปถึงมีการโอนเงินครั้งละ 3-4 พันบาทเรื่อยมา แพงที่สุด 14,000 บาท เป็นสร้อยข้อมือทองคำ รวมทั้งหมดโอนไป 26 ครั้ง รวม 107,450 บาท โดยโอนจนถึงเดือนธันวาคม ปี 2561
จนกระทั่งใกล้ถึงวันกำหนดไปเที่ยวด้วยกัน แต่เจ้าตัวอ้างว่ารีสอร์ตปิด จึงเปลี่ยนแผนบอกจะไปหาที่ชลบุรีแทน แต่ฝ่ายหญิงโมโห ไม่ยอมให้ไปหาอ้างสารพัด ทำให้เริ่มสงสัยว่าถูกหลอกแน่นอน จึงตามสืบข้อมูลทั้งหมดที่เกียวกับผู้หญิงคนดังกล่าว จากเลขที่บัญชีและชื่อจนพบว่าชื่อเจ้าของจริง ๆ มีตัวตนอาศัยอยู่ จ.นครนายก
และยังสืบทราบอีกว่ารูปโพรไฟล์ก็ไปเอามาจากเจ้าของตัวจริง ส่วนภาพที่เจ้าของตัวจริงโพสต์ก็แอบนำมาใช้เป็นคนของตัวเองเพื่อหลอกคนอื่น จนจับได้และเจ้าตัวก็ยอมรับสารภความจริง โดยบอกว่าจะคืนเงินให้ทั้งหมด แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังติดต่อสาวรายนี้ไม่ได้อีก
ด้านนายทองหยิบ อายุ 75 ปี ตาผู้ก่อเหตุ บอกว่า ผู้ก่อเหตุคือ น.ส.ลักขณา หลานสาวของตน แต่ก็เพิ่งมาทราบข่าวจากเพื่อนบ้านว่าหลานสาวไปก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ปกติหลานสาวเป็นคนดี ไม่เคยสร้างความเดือนร้อนให้ใคร ทำงานรับจ้างทั่วไป อาจจะมีติดขัดเรื่องการเงินบ้างแต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไร ส่วนตัวไม่ทราบจริง ๆ ว่าสาเหตุที่หลานทำแบบนี้เกิดจากอะไรหลังเกิดเรื่องอยากจะขอโทษผู้เสียหายแทนหลานสาวที่ไปหลอกลวง เชื่อว่าที่ทำไปเพราะยังเด็กไม่รู้จักความ ถ้าติดต่อหลานสาวได้ เมื่อไหร่จะพาไปมอบตัว
ขณะที่ นายธวัช ประคองศิลป์ อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บอกว่า ผู้ก่อเหตุคือลูกบ้านของตน และก่อนหน้านี้น.ส.ลักขณา ยังเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อ 3-4 ปีก่อน เป็นคดีเกี่ยวกับเรื่องฉ้อโกงเงินประกัน กระทั่งล่าสุดก็ไปก่อเหตุลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก โดยหลอกให้อีกฝ่ายให้ตายใจก่อนจะหลอกเอาเงินหนีไป