สหมงคลฟิล์ม ดึง 4 ผกก.ชื่อดัง ถ่ายทอด 'ของขวัญ' หนังแห่งแรงบันดาลใจ ให้คนไทยดูฟรี!

10 ต.ค. 60
จากบริษัทที่ผลิตภาพยนตร์ไทยคุณภาพอย่างต่อเนื่องมากว่า 50 ปี ในเดือนตุลาคม 2560 “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” พร้อมจัดฉายที่สุดของภาพยนตร์แห่งความภาคภูมิ จากการรวมใจถ่ายทอดของ 4 ผู้กำกับแถวหน้าและทีมนักแสดงหลากหลายรุ่น เพื่อส่งต่อ... และหล่อเลี้ยงพลังใจให้คนไทยทั้งประเทศด้วย “ของขวัญ” ชิ้นพิเศษนี้ “นนทรีย์ นิมิบุตร” โปรดิวเซอร์-ผู้กำกับ เผยที่มาที่ไปและแรงบันดาลใจของโปรเจกต์นี้ว่า “คอนเซปต์ของ ‘ของขวัญ” คือการที่เราได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9’ มาโดยตลอดทั้งจากในพระราชกรณียกิจและพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน และพวกเราคนทำหนังเองก็จะมีส่วนหนึ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระองค์ท่านเหมือนกันในการที่เราจะทำงานอย่างหนักเพื่อทำสิ่งทีดีที่สุดไว้ให้กับคนดู เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกันที่เราทุกคนพยายามทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อที่จะส่งต่อแรงบันดาลใจ ส่งต่อสิ่งที่ท่านทำไว้ให้กับคนไทยทุกคนผ่านสื่อภาพยนตร์ที่เราถนัดครับ มันคือการใช้คำสอนของพระองค์ท่านมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเอามาเป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตของทุกๆ คน เราก็นำเอาคอนเซปต์นี้มาแบ่งเป็น 4 เรื่อง จากความร่วมมือของ 4 ผู้กำกับ ก็จะมี ‘ผม (อุ๋ย นนทรีย์), คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว, คุณโขม ก้องเกียรติ และ คุณมะเดี่ยว ชูเกียรติ’ ซึ่งทุกคนก็มีความเต็มใจและพร้อมที่จะทำภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างมาก และได้ ‘คุณสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ’ เป็นโปรดิวเซอร์ใหญ่ในการสนับสนุนพวกเราให้ทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมา ร่วมด้วยโรงภาพยนตร์คุณภาพจากทั่วไทยที่จะพร้อมใจกันส่งต่อ ‘ของขวัญ’ ชิ้นนี้ให้ถึงหัวใจคนดูทั้งประเทศอีกด้วย ผมรู้สึกว่าสิ่งที่น่าสนใจมากๆ ของหนังเรื่องนี้คือ การสะท้อนภาพที่เป็นมาเป็นไปของสังคมในปัจจุบันนี้ ซึ่งเราพยายามที่จะสะท้อนให้ภาพนี้มันชัดเจนที่สุด ผมอยากให้คนดูหนังเรื่องนี้แล้วสามารถจะกระตุ้นความรู้สึกบางอย่าง หรือให้ฉุกคิดในเรื่องบางเรื่อง หรือทำให้สิ่งที่พวกเขาหาทางออกไม่ได้ให้มันผ่านพ้นไปได้ คนไทยได้รับ ‘ของขวัญ’ ที่ดีที่สุดที่เต็มไปด้วยความรักและความดีงามที่สร้างแรงบันดาลใจ สร้างพลังชีวิตในทุกๆ ด้าน ในทุกๆ วันมากว่า 70 ปีไม่เคยขาดจากพ่อที่พวกเรารักที่สุด วันนี้ผมอยากให้หนังสั้น 4 เรื่องนี้เป็นตัวแทนในการส่งต่อ ‘ของขวัญ’ ให้คนที่รักพ่อ ส่งต่อพลัง ส่งต่อแรงขับเคลื่อนในการมีชีวิตอยู่ของพวกเรากันต่อไป” The Letter ผู้กำกับ: ปรัชญา ปิ่นแก้ว นักแสดง: ธรรมะ-ด.ช.ฐิรพจน์ ต่วนสวัสดิ์ เรื่องย่อ: ความคิดถึงในจินตนาการของเด็กน้อยบ้านไกลที่อยากจะส่งข้อความถึงพ่อที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด การติดตามจดหมายไปจนกว่าจะพบปลายทางนั้น นับเป็นการผจญภัยอันล้ำค่า ไม่ว่าพ่อในความคิดถึงจะอยู่ในที่แห่งใด แต่สำหรับเด็กน้อยผู้นี้ เขาเชื่อว่าจดหมายมักจะส่งถึงผู้รับเสมอ... “ผมเล่าเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่อยากจะเขียนจดหมายถึงพระองค์ท่าน จากจดหมายฉบับนั้นก็จะบ่งบอกถึงความรู้สึกที่เค้าอยากจะแสดงความรู้สึกบางอย่างต่อพระองค์ท่าน มันทำให้เกิดเรื่องเกิดราว ออกเป็นแนวผจญภัยเล็กๆ ในมุมของเด็ก เด็กอาจมองเป็นเรื่องเล็กสำหรับเค้า แต่ในสายตาผู้ใหญ่มันเป็นเรื่องใหญ่เหมือนกัน ตรงนี้มันทำให้หนังมีความน่าสนใจ  หนังผมจะเป็นการผจญภัยใสๆ เหมือนดูหนังดิสนีย์ แต่ว่าสิ่งที่เด็กได้รับหรือว่าความรู้สึกที่ได้รับในตอนท้ายนี่มันต้องยิ่งใหญ่ให้สมกับเรื่องราวที่เราพูดถึงพระองค์ท่าน โปรเจกต์นี้ผมว่าน่าสนใจที่เราจะได้ดูว่ามุมมองของผู้กำกับทั้งสี่คนนี้จะเล่าเรื่องออกมายังไง และที่สำคัญที่สุดคือโปรเจกต์นี้จะสร้างความแตกต่างจากหนังลักษณะนี้ที่เราเคยคุ้นตากันยังไงบ้าง” - ผกก.ปรัชญา ปิ่นแก้ว   ดอกไม้ในกองขยะ ผู้กำกับ: อุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร นักแสดง: เอ็ม-สุรศักดิ์ วงษ์ไทย, เฟรช-อริศรา วงษ์ชาลี, โอม-ธนาภัค จงใจพระ, พรีม-ชนิกานต์ ตังกบดี เรื่องย่อ: สิ่งที่จะสามารถจรรโลงสังคมอันป่วยไข้และสกปรกอย่างกรุงเทพฯ ได้ดีที่สุด นั่นก็คือความรักและความอบอุ่นของครอบครัว “ดอกไม้ในกองขยะ ก็เหมือนความงดงามที่อยู่ในความสกปรก ความงดงามของดอกไม้สำหรับผม มันเปรียบเหมือนความรักที่มันอยู่บนกองขยะที่ทุกคนไม่เอา สิ่งที่ทุกคนทิ้ง ที่ทุกคนว่าน่ารังเกียจ แต่มันมีความงดงามอยู่ในนั้น ถ้าครอบครัวเราอบอุ่น ถ้าครอบครัวเรามีความรักกัน มันก็จะทำให้ไม่ว่ามันจะเกิดอุปสรรคอะไรขึ้น ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายอะไรขึ้นก็ตาม ความรักจะทำให้ทุกอย่างมันผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หนังเรื่องนี้ก็จะเริ่มต้นคิดแบบนี้ ถ้าเราพูดถึงคนที่เป็นตัวแทนขององค์กรเล็กๆ ในสังคมอย่าง ‘คนที่มีอาชีพเก็บขยะ’ หน้าที่ความรับผิดชอบของเค้าคือจัดการของที่ทุกคนทิ้งให้มันเข้าที่เข้าทาง ผมว่าเค้ามีความเสียสละเพื่อพวกเราเพื่อจะไม่ให้บ้านเมืองสกปรก ผมรู้สึกอย่างนั้นก็เลยหยิบเอาชีวิตของเค้ามาพูดถึงในหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่การเขียนบท ลงรายละเอียด การช่วยกันคิดช่วยกันวางดีเทล การรีเสิร์ชต่างๆ จนกระทั่งถึงตอนถ่ายทำ ผมรู้สึกว่าผมมีความอบอุ่นประหลาดอย่างบอกไม่ถูก แรงบันดาลใจในการทำเรื่องนี้มันเต็มร้อยเต็มเปี่ยมจริงๆ ทุกนาทีที่เราทำงานเรารู้สึกว่าพยายามที่สุดที่จะไม่พลาดอะไร พยายามที่สุดที่จะช่วยกันคิด ช่วยกันดู แม้กระทั่งนักแสดงเองก็ต้องลงมานั่งคุยกันทุกฉากว่า แค่นี้เราคิดว่าพอหรือยัง หรืออยากจะลองแบบนี้อีกมั้ย เพิ่มอีกหน่อยมั้ย ทุกๆ คนพยายามจะทำหนังเรื่องนี้ในรายละเอียดให้มันสวยงามที่สุด ช่วยกันดีไซน์ให้มันสนุกขึ้นกว่าบทที่เราเขียนไว้ ซึ่งตอนเป็นบทเราก็รู้สึกว่ามันโอเคแล้ว แต่พอทำงานจริงๆ มันสนุกกว่าบทเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นการแสดง การเลือกมุมกล้อง การถ่ายทำ การไปเลือกโลเคชั่นในการทำงาน คือทุกคนก็จะช่วยกันทำให้หนังเรื่องนี้มันประสบความสำเร็จบนเวลาที่จำกัด” - ผกก.นนทรีย์ นิมิบุตร   สัจจะธรณี ผู้กำกับ: โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ นักแสดง: ม.ร.ว.มงคลชาย ยุคล, เอ-อัญชลี หัสดีวิจิตร, บีม-ณัชชาภัทร แสงฤทธิ์, แม็กกี้-ศุทธสิทธิ์ พจน์ฐศักดิ์ เรื่องย่อ: สาวน้อยกับการเดินทางห่างไกลจากแม่ที่เลี้ยงดูเธอมา เพื่อออกตามหารากเหง้าของผู้เป็นพ่อและตัวเอง จนได้เข้าใจในที่สุดว่าครอบครัวของเธอมาจากไหน และใครคือคนที่รักเธออย่างแท้จริง พร้อมทั้งได้พลังและศรัทธาแห่งชีวิตกลับคืนมา “ตั้งแต่คุยกับพี่อุ๋ย นนทรีย์-โปรดิวเซอร์เรื่องนี้ เราก็ไม่อยากทำเรื่องที่มันเศร้าอย่างเดียว อยากจะทำโปรเจกต์ที่มันเป็นเรื่องของการก้าวไปข้างหน้า การมอบของขวัญ การส่งต่อความดี การอยู่กับสิ่งที่เป็นอยู่อย่างเข้าใจถ่องแท้และเดินทางไปข้างหน้าอย่างมั่นใจด้วยองค์ความรู้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เคยมอบไว้ให้ผืนแผ่นดินนี้ เราก็นำความรู้เหล่านั้นมาพูดถึงในแง่ของการทำหนังว่าเราจะเล่าเรื่องของพระองค์ยังไงดี โดยที่ไม่ใช่แค่การตอกย้ำความสูญเสีย แต่มันคือการก้าวไปข้างหน้าและการบอกต่อ อันนี้ในฐานะคนทำหนังแล้วเราเชื่อว่ามันเป็นภารกิจที่จำเป็น เรื่องราวก็จะพูดถึงว่า ไม่ว่าเราจะเป็นใคร เราจะเดินทางหาตัวตนที่แท้จริงของเราเจอหรือไม่ บางทีมันไม่สำคัญเท่าเราเข้าใจหรือเปล่าว่าทั้งหมดมันคือการสมมติขึ้นทั้งนั้น แต่ดินต่างหากที่ไม่เคยโกหกใคร ในหลวงจึงพัฒนาดิน คอนเซปต์หลักๆ ก็มาจากชื่อของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่แปลว่า ‘พลังของแผ่นดิน’ เราก็เลยรู้สึกว่าการเล่นเรื่องดินเนี่ย น่าจะเป็นการพูดถึงสิ่งที่มีอยู่และไปข้างหน้าอย่างมั่นคงมากกว่า การไปข้างหน้ามันอาจไม่ได้พูดถึงเชิงเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่ถ้าเราเข้าใจมันอย่างถ่องแท้แล้วเราก็จะไปข้างหน้าได้จริงๆ” - ผกก.ก้องเกียรติ โขมศิริ   เมฆฝนบนป่าเหนือ ผู้กำกับ: มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล นักแสดง: โอบ-โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์, อุ้ม-อิษยา ฮอสุวรรณ, เฟม-ชวินโรจน์ ลิขิตเจริญสกุล, บุญส่ง นาคภู่ เรื่องย่อ: คนเรายึดมั่นที่จะทำความดีเพื่อจะทำให้สังคมดีขึ้นได้หลายรูปแบบ โดยที่เราต้องไม่ยัดเยียดและไม่ย่อท้อ หนังจะเล่าเรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาออกค่ายไฟแรงที่คิดจะไปปลูกป่าเพื่อจบการศึกษา แต่ก็ต้องเผชิญกับความขัดแย้งจากการที่ชาวบ้านไม่ให้ความร่วมมือ พร้อมกับเรื่องราวความรักของวัยรุ่นที่มีเส้นบางๆ ของความเป็นเพื่อนกั้นกลาง ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครยัดเยียดความรักให้ใครได้ “เวลาเรานึกถึงพระองค์ท่าน เราก็จะนึกถึงโครงการต่างๆ นึกถึงความชุ่มฉ่ำอุดมสมบูรณ์ในทุกๆ ที่ที่ท่านไปถึง แล้วก็ทำให้พื้นที่ตรงนั้นอยู่ได้ แล้วก็นึกถึงชีวิตอะไรอย่างนี้ แล้วพอเรานึกถึงเมฆฝนก็เชื่อมโยงกับบางสิ่งบางอย่างของวัยรุ่น อย่างอุดมการณ์ แรงความฝัน แรงศรัทธาอะไรบางอย่าง บางทีเค้าก็จะมีแรงวิ่งตามความฝัน วิ่งตามเมฆฝนพวกนี้ในชีวิตของเค้า ก็เอาประเด็นนี้มารวมกันจนเป็นเรื่องนี้ขึ้นมา บางสิ่งที่พระองค์ท่านได้เคยพูดไว้ว่า การที่เราจะไปพัฒนาที่ไหนซักที่หนึ่ง เราควรจะรู้ความต้องการของคนในพื้นที่นั้นๆ ว่าเค้าต้องการอะไร การพัฒนานั้นมันถึงจะได้ผลและยั่งยืน ประเด็นนี้แหละ เรารู้สึกว่า Conflict ในสังคมเนี่ย มันก็แก้ได้ด้วยการเรียนรู้จากที่ท่านได้สอนมาหรือได้เคยพูดเอาไว้ พอได้รับโจทย์มา ก็แทบจะไม่คิดอะไรเลย คือตอบรับทันที เราทำเรื่องนี้ด้วยใจจริงๆ แล้วพอได้ทำ ได้ไปรีเสิร์ช ก็เข้าใจแก่นที่เราทำมากขึ้น ในสิ่งที่ท่านเคยสอนเราในฐานะที่เป็นพ่อของคนทั้งแผ่นดิน เราเข้าใจมากขึ้น เห็นหลายๆ อย่าง ท่านทำเอาไว้เยอะมาก แล้วสิ่งที่ท่านทำไม่ได้สูญหายไปไหน ก็ยังอยู่ในใจของเราทุกคน แล้วถ้าเราทำตามสิ่งที่ท่านสอนเอาไว้ ประเทศของเรา โลกของเรามันจะดีขึ้น ถ้าเราไม่ย่อท้อไปก่อน มันก็เป็นแรงบันดาลใจให้เราส่งต่อ เราก็มาร่วมกันระลึกถึง เห็นแง่มุมที่พระองค์ท่านได้วางเอาไว้ เห็นแง่มุมที่เราจะปฏิบัติและเดินตาม และสำหรับเรื่องนี้ก็เป็นเหมือนของขวัญที่พวกเราตั้งใจทำและส่งมอบให้กับคนดู นอกจากความบันเทิงก็คงจะได้รับความทรงจำดีๆ กลับไปด้วย” - ผกก.ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล สำหรับ "ของขวัญ" ภาพยนตร์แห่งแรงบันดาลใจ จะมอบให้คนไทยดูฟรีทั้งประเทศ 28 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป ภาพจาก : @nonzee2499, @vkoolcreative, Prachya Pinkaew

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม