สุดเวทนา! กระบะชนผัวพิการ ผ่าน 3 เดือนคดีไม่คืบ เมียลาออกดูแลลูกอีก 3 ขาดรายได้บ้านจะถูกยึด

เมื่อวันที่ 4 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากกำนัน ในพื้นที่ ต.กระแชง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีครอบครัวหนึ่งสามีประสบอุบัติเหตุจนเป็นผู้ป่วยติดเตียง ประกอบอาชีพไม่ได้ ภรรยาต้องออกจากงานมาดูแลและเลี้ยงดูลูกอีก 3 คน ทำให้ขาดรายได้จนบ้านจะถูกธนาคารยึด จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบเป็นบ้านใต้ถุนสูง บนบ้านพบนายสายัน อายุ 42 ปี นอนอยู่บนที่นอน ร่างกายซูบผอม โดยมี น.ส.อรวรรณ รามคุณ อายุ 30 ปี ภรรยากับลูกชาย 3 คน บีบนวดช่วยกันทำกายภาพบำบัด

น.ส.อรวรรณ ผู้เป็นภรรยา เปิดเผยว่า อุบัติเหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ก.พ.63 เวลา 05.00 น. ขณะที่ สามีขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งตนทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่ง ได้แวะจอดรถจักรยานยนต์เพื่อรอใส่บาตร พร้อมกับนางวารี เจริญลาภ อายุ 65 ปี แม่ของสามี ก่อนที่จะไปทำงาน แต่ระหว่างนั้นกลับมีรถกระบะพุ่งเข้ามาชนอย่างแรง จนร่างของตนและสามีกระเด็น

สำหรับตนได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ส่วนสามีอาการสาหัส กระดูกซี่โครงหัก แขนและขาหัก มีเลือดออกในสมอง รักษาตัวที่โรงพยาบาลระยะหนึ่ง ก่อนออกมารักษาตัวที่บ้าน และกลายเป็นผู้ติดเตียง ทำให้สามีไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แขนและขาขยับไม่ได้ สมองได้รับความกระทบเทือน การพูดคุยหรือสื่อสารไม่ได้ความ อีกทั้งความทรงจำเลอะเลือน

ทั้งนี้แต่เดิมตนจะต้องไปทำงานที่โรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง แต่ด้วยอุบัติเหตุดังกล่าว ต้องออกจากงานมาดูแลสามี ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัว และเป็นคนขยัน ทำอาชีพรับเหมาก่อสร้างภายในหมู่บ้าน   

จากเดิมที่เงินเดือนของตนและรายได้จากสามี มีมากพอที่จะช่วยกันดูแลครอครัว และสามารถเงินเก็บเล็ก ๆ น้อย ๆ เก็บเงินปลูกบ้าน แต่เงินก็ยังไม่พอจึงต้องได้กู้เงินจากธนาคารมาสร้างบ้านจนสำเร็จ แต่ถึงวันนี้ตนต้องลาออกจากงานมา ไม่มีรายได้ และไม่ได้ส่งเงินส่งธนาคาร จนทำให้มีหนังสือทวงถาม ซึ่งญาติ ๆ พี่น้อง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พยายามช่วยเหลือให้เครื่องอุปโภคบริโภค และคอยพาสามีไปรักษาที่โรงพยาบาล และลงทุนอุปกรณ์ขายหมูปิ้ง น้ำแข็งไส ริมถนนหน้าหมู่บ้าน พอมีรายได้เข้ามาวันละ 200 บาท เพื่อใช้เลี้ยงปากท้องทั้งหมด 5 ชีวิต ได้แก่ ตน สามี ลูกชาย 2 คน และลูกสาว 1 คน ซึ่งขณะนี้แม่ของตนช่วยรับไปเลี่ยงดูที่ จ.บุรีรัมย์

ส่วนคู่กรณีเข้ามาเยี่ยมในช่วงแรกที่สามีรักษาตัวที่โรงพยาบาล และมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง เพราะทางคู่กรณีไม่มีเงินที่จะช่วยเหลือไปตลอด ส่วนเรื่องของคดีคงจะต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจกับทางบริษัทประกันภัยของรถคู่กรณี

นางวิไล ทรัพย์บุญ อายุ 52 ปี กำนันตำบลกระแชง กล่าวว่า ตนรู้สึกสงสารครอบครัวนี้มาก ผู้ใหญ่บ้านและคนในชุมชนช่วยหลือกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ใครมีอะไรเอามาช่วยกัน แต่ก็ยังเป็นห่วงเรื่องหนี้สินกับทางธนาคาร ซึ่งมีอยู่ประมาณ 200,000 บาท อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดเรื่องของคดี จะได้มีเงินเยียวยาชดเชยค่ารักษาและอาการป่วย เพราะคดีความเข้าเดือนที่ 3 แล้ว รูปคดียังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ประกันก็ยังไม่ยอมจ่าย ทั้งที่ผู้เสียหายจอดรถอยู่ข้างทาง แต่รถกระบะพุ่งมาชน

อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่ต้องการจะช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าว สามารถบริจาคเงินได้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาอยุธยา เลขที่บัญชี 101-0-79158-3 ชื่อบัญชี น.ส.อรวรรณ รามคุณ