โพลชี้ คนไทย มากกว่า 91.2% สวมหน้ากากอนามัย แต่ยังไม่เว้นระยะห่างมากพอ

วันนี้(5 พ.ค. 63) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. เผยแพร่ผลสำรวจ การปฏิบัติตามมาตรการ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ตลอดเดือน เม.ย. 2563 จากผู้ตอบแบบสอบถาม 99,865 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 15 - 59 ปี
.
พบ 99.5% เข้าใจว่าควรทำมาตรการ "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" อย่างไร และ 93.8% คิดว่ามาตรการดังกล่าวช่วยลดการระบาดของโรคได้

เมื่อสอบถามถึงพฤติกรรมป้องกันตนเอง พบอันดับ 1 คือการใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า อยู่ที่ 91.2% รองลงมาคือการล้างมือด้วยสบู่และเจลแอลกอฮอล์ 87.2% กินร้อน ช้อนตัวเอง 86.1% ขณะที่การ รักษาระยะห่าง 65.3% ไม่เอามือจับหน้า จมูก ปาก 62.9% ซึ่งทางศบค.ขอให้เข้มงวดในมาตรการป้องกันให้มากขึ้น

ด้านสถานที่ที่ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นว่า ควรเปิด อันดับ 1 คือ ตลาดสด ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า 69.9% รองลงมาคือ ร้านตัดผม คลินิกเสริมความงาม นวดแผนโบราณ สปา 45.7% ซึ่งขณะนี้ตลาดสด ร้านสะดวกซื้อและร้านตัดผมได้ทำการเปิดเรียบร้อยแล้ว

เมื่อสอบถามถึงร้านค้าที่ยังไม่ควรเปิด อันดับ 1 คือสนามมวย สนามกีฬา สนามแข่งขัน สนามม้า 90.5% ผับ สถานบริการ สถานที่แสดงมหรสพ อาบอบนวด 89.9% ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนประถม-มัธยม 67.6% มหาวิทยาลัย 56.5% สนามเด็กเล่น ฟิตเนส สวนสาธารณะ 49.6% แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์ ห้องงสมุดสาธารณะ ศานสถาน 49.0% ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรืออื่นๆ 43.4% และสถานีขนส่งหรือโดยสาร 42.7% ทั้งนี้ สนามกีฬา สวนสาธารณะ ร้านอาหารและกาแฟ ทำการเปิดแล้ว
.
คำถามความกังวลของประชาชนในการยินยอมให้จัดสถานที่กักกันของรัฐ (State / local Quarantine) พบ 80% ยินยอมให้จัด ในส่วนของความกังวล พบ อันดับ 1 กังวลว่าผู้กักกันตัวจะออกมาในชุมชน 50.1% รองลงมาคือกังวลว่าผู้ปฏิบัติงานในสถานที่ควบคุมจะพาเชื้อออกมา 38% กังวลว่าการทำความสะอาดสถานที่และบริเวณโดยรอบจะไม่ปลอดเชื้อ 36.6% และกังวลว่าพาหนะ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในสถานที่ควบคุมจะปนเปื้อนเชื้อออกมา 35.2%