จากกรณีเฟซบุ๊ก “เกรียงไกร ไทยอ่อน” ลงเรื่องราวของหนุ่มรายหนึ่งไปตกปลาแต่กลับไม่ทันเวลาเคอร์ฟิว ทำให้ตัดสินใจนอนริมทะเล แต่ถูกกำนันและผู้ใหญ่บ้านเข้าจับกุมในที่สุดต้องย้ายไปนอนคุกแทน 1 คืน ที่สภ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ข้อหาฝ่าฝืนเคอร์ฟิว โดยที่เจ้าตัวรู้สึกไม่เป็นธรรมและรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ใช้กฏหมายรังแกประชาชน นั้น
วันที่ 6 พ.ค.63 พ.ต.อ.ปรีชา ปัญญาเลิศ ผู้กำกับการ สภ.ปากพนัง บอกว่า เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจสกัดในช่วงเคอร์ฟิว เวลา 22.00 น. – 04.00 น. กระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่งมีผู้ชาย 2 คน ขับรถเข้ามาทางจุดตรวจ ต.ท่าพระยา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และอ้างว่าจะไปตกปลา เจ้าหน้าที่จึงขอดูหนังสือเอกสารรับรอง แต่ก็ไม่มีโดย 2 คนนี้มีอายุ 43 ปี และ 46 ปี มาจากจ.พัทลุง และจ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมข้อหาฝ่าฝืนช่วงเวลาเคอร์ฟิว และให้พนักงานสอบสวนส่งสำนวนฟ้อง และปรับไปเรียบร้อยแล้ว
หลังจากนั้นทางฝั่ง 2 หนุ่มผู้ทำผิดได้อัดคลิปและแชร์กันในโลกออนไลน์แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียด ต้องขอดูคลิปก่อนว่าทำให้เจ้าหน้าที่เสียหายหรือไม่ จึงขอฝากถึง 2 หนุ่ม ที่ทำคลิปโดยย้ำว่า ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ทางตำรวจทำงานเพื่อบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามกฏิกาของบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำตามหน้าที่
ด้าน ทนายเกิดผล แก้วเกิด บอกว่า ต้องดูที่พฤติการณ์ว่าขณะถูกจับนอนอยู่หรือกำลังตกปลา ถ้าไม่ได้เจตนาที่จะฝ่าฝืนเคอร์ฟิวก็ยังอาจจะพอฟังได้ แต่ถ้าดันไปขับรถในช่วงเวลาเคอร์ฟิวแบบนี้มีความผิดแน่นอนจึงควรฟังความสองด้านให้แน่ชัดเสียก่อน
