จากกรณีที่ร่างทรงในพื้นที่จ.ชัยภูมิ นำหินอัศจรรย์ที่อ้างว่าอยู่ในบ่อพญานาคมาทุบให้แตก จนพบพลอยขนาดเล็กสีแตกต่างกันไป ที่อยู่ในก้อนหิน ซึ่งเชื่อว่าหินดังกล่าวคือหินของพญานาค โดยทีมข่าวได้ไปซื้อหินที่อ้างว่าเป็นหินพญานาค จากย่านท่าพระจันทร์มาทุบโชว์ให้ดูในรายการไปแล้วด้วยว่าเป็นของจริงหรือไม่นั้น
ล่าสุดวันที่ 8 พ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่มายังบ้านวังอ้ายจีด ต.วังตะเฆ่ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ เดินทางมายังบ้านของนางพรพิมล บำรุง หรือ นางตุ๊ หรือ “เจ้านางน้อย” ที่อ้างว่ากลับชาติมาเกิด โดยเมื่อไปถึงเวลา 13.00 น. พบว่ายายตุ๊ไม่อยู่บ้าน ประตูบ้านได้ใส่กลอนปืดประตูสนิท
กระทั่งเวลา 17.00 น. ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางมายังบ้านของยายตุ๊อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ยายตุ๊อยู่บ้าน และบอกกับทีมข่าวว่า เพิ่งจะกลับมาจากแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่นางไก่ และนายเปี้ยก ให้ข่าวอมรินทร์ทีวี จนทำให้ตนได้รับความเสียหาย
โดยยายตุ๊ บอกว่า ตนจะไม่ให้ข่าวอีกแล้ว เพราะข่าวที่ออกไปทำให้ตนเสียหายหนักมาก และตนก็เป็นเพียงประชาชนคนธรรมดา
ส่วนเรื่องหินเพชรพญานาค ตนยืนยันว่าไม่ได้นำไปค้าขายเป็นธุรกิจ ตนจะไม่ขอให้ข่าวเรื่องนี้อีกแล้ว มีแต่นางแก้ว ที่มาบูชากับตนไปเพียงไม่กี่ก้อน แล้วนำหินไปจำหน่าย ซึ่งจะจำหน่ายที่ไหนตนก็ไม่รู้ จนทำให้ตนเดือดร้อน
ขณะที่ทีมข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายโอด เกื้อหนุน พรานป่าบ้านวังอ้ายจีด ให้สัมภาษณ์ว่า สมัยตนเป็นหนุ่มตนเคยเข้าป่าไปล่าสัตว์ มีเหตุการณ์หนึ่งเวลาเที่ยงคืนตนได้ปีนต้นไม้เพื่อจะยิงนก ระหว่างนั้นกลับเห็นแสงไฟปริศนาดวงสีเขียว สีแดง และสีส้ม ขนาดใหญ่ ลอยอยู่ตามป่าดงพงไพร ซึ่งตนเชื่อว่าแสงไฟดังกล่าวเป็นแสงของว่านผีโพง ผีเป้า ที่มีคนเล่นของสมัยก่อนนำมาทิ้งไว้ จนกระทั่งปรากฏแสงดังกล่าวให้ตนเห็น และปัจจุบันนี้ที่ชาวบ้านในหมู่บ้านพบเห็นแสงไฟนั้น ตนคิดว่าน่าจะเป็นแสงของผีโพง ผีเป้า เช่นเดียวกัน
ขณะที่ทีมข่าวได้พูดคุยกันนายโอด ได้ไปหยิบบางสิ่งนำออกมาให้ผู้สื่อข่าวดู ปรากฏว่าเป็นหินสีดำ จำนวน 2 ก้อน ก้อนหนึ่งเป็นก้อนขนาดใหญ่รูปร่างแบน และอีกก้อนเป็นก้อนกลมขนาดเล็ก ซึ่งนายโอด ไม่ยอมบอกทีมข่าวว่า หินสีดำดังกล่าวชื่อว่าหินอะไร แต่ให้ทีมข่าวระบุว่าเป็นหินวิเศษ
นายโอด กล่าวอีกว่า หินดำวิเศษนี้ เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ตนไปล่าสัตว์ป่าในเวลากลางคืน อยู่บนยอดเขาสันหลัง อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ตนก็เหลือบไปเห็นหินสองก้อนดังกล่าววางอยู่บนต้นไม้ใหญ่ จึงปืไปหยิบนำกลับมาบูชา เพราะตนเชื่อว่าเป็นหินวิเศษ ซึ่งตั้งแต่นำหินมาพกติดตัว ก็ช่วยให้ตนแคล้วคลาดจากภัยอันตราย และเคยรอดชีวิตจากการประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์มาหลายครั้ง
ทั้งนี้มีเหตุการณ์หนึ่ง ตนเข้าป่าไปล่าสัตว์ และได้พกหินวิเศษนี้ในย่าม ตนเจอเสือกำลังจะเข้ามาทำร้าย ตนก็ได้นำหินทั้งสองก้อนมาเขียนข้อความลงบนพื้นดินบอกแม่ธรณี จากนั้นตนก็ท่องคาถาไล่เสือ ซึ่งเสือตัวดังกล่าวถึงกับยอมสยบและเดินหนีตนไป และหินทั้งสองก้อนนี้ก็ช่วยปราบผีโพง ผีเป้า และผีกระสือด้วย ซึ่งตนก็คิดว่าถึงจะมีของวิเศษแค่ไหน ถ้าใช้ชีวิตอยู่บนความประมาท ของวิเศษก็ไม่สามารถช่วยเหลือชีวิตเราได้