จากกรณีที่นายประทวน คงนา ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองตาเรือ ต.วังหิน อ.เมือง จ.ตากพร้อมด้วยชาวบ้านได้ติดตามค้นหาศพของนายสนั่น อำพันธ์ หรือ “ผอ.อ๊อด” อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน อายุ 67 ปี ที่หายตัวออกจากบ้านพร้อมรถจักรยานยนต์ ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.63
ทั้งนี้บรรดาญาติ ๆ ได้ออกติดตามหาตัวอย่างต่อเนื่องแต่ไม่พบ กระทั่งมีชาวบ้านเข้าป่าหาเห็ด พบรถจักรยานยนต์สีดำ ทะเบียน 1 กฉ 4065 เพชรบูรณ์ ตรงตามลักษณะที่มีการแจ้งคนหายไว้ก่อนหน้านี้ อยู่บนยอดเขาสูงแห่งหนึ่งท้ายหมู่บ้าน จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตาก เพื่อตรวจสอบในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา จนพบโครงกระดูก และกะโหลกมนุษย์ กระดูกเชิงกราน และชิ้นส่วนกระดูกอีกเล็กน้อย แว่นตา ฟันปลอม พระเครื่อง
นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าเงิน เอกสารบัตรประจำตัวประชาชนและเงินสดในกระเป๋าครบถ้วน และเช้าวันต่อมาจึงได้ทำการค้นหาชิ้นส่วนกระดูกเพิ่มเติม พบชิ้นส่วนกระดูก เส้นผม เสื้อผ้า แหวนพระ เพิ่มเติมอีกด้วย
นายพินิจ อำพันธุ์ อายุ 68 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิตได้นิมนต์พระภิกษุมาประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน หลังจากเสร็จพิธี นายพินิจ ให้ข้อมูลว่า น้องชายของตนเมื่อก่อนเป็นอาจารย์สอนหนังสือในตัวเมืองจ.ตาก ก่อนจะได้รับตำแหน่งย้ายไปเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งที่เพชรบูรณ์จนเกษียณอายุราชการ ได้กลับมาอยู่บ้าน ซึ่งนายสนั่น เป็นคนอัธยาศัยดี เข้ากับคนง่าย เป็นคนขี้เกรงใจผู้อื่น ในแต่ละวันจะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักไปเที่ยวหาญาติคนอื่น ๆ แต่ช่วงหลัง ๆ เป็นโรคหลง ๆ ลืม ๆ และในวันที่ 24 มี.ค.63 น้องชายออกจากบ้านไปก็ไม่กลับมาบ้าน ญาติทุกคนต่างช่วยกันออกตามหาแต่ก็ไม่พบ
กระทั่งได้เจอกับน้องชายของตนเองอีกครั้ง ในวันที่ 5 พ.ค.63 เวลา 16.00 น. มีชาวบ้านพบรถจักรยานยนต์ และเวลา 21.00 น. ค้นเจอกระดูกชิ้นส่วน ถัดมาวันที่ 6 พ.ค.63 ตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ และวันที่ 7 พ.ค.63 นิมนต์พระมาเชิญดวงวิญญาณ
โดยการเจอครั้งนี้เป็นการพบเจอในสภาพที่ไม่มีลมหายใจ ไร้ซึ่งร่างกาย มีเพียงหัวกะโหลกและโครงกระดูกให้เห็นเท่านั้น ไม่ได้พูดคุยและสั่งลากัน คาดว่าน้องชายของตนอาจจะขี่รถเพลินและเกิดอาการหลงลืมกำเริบ ทำให้หลงป่าจนกระทั่งมาอยู่บนยอดเขา ห่างจากบ้าน 22 กม. ทั้งนี้ยังพบว่าน้องชายของตนได้ล็อกรถไว้และพยายามจะเดินลงจากยอดเขาเพื่อหาทางกลับบ้าน แต่คงหมดหนทางสิ้นใจตายกลางป่าดังกล่าว
หลังจากทำพิธีเชิญวิญญาณแล้ว นายพินิจและญาติทุกคนได้เรียกดวงวิญญาณของ ผอ.อ๊อด ด้วยน้ำตาของความรักที่พี่ชายมีให้น้อง อาบแก้มทั้ง 2 ข้าง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตาก ได้นำส่งกระดูกตรวจอัตตลักษณ์ เพื่อพิสูจน์ยืนยันบุคคลตามกฎหมาย ก่อนจะมอบชิ้นส่วนศพให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
นายประทวน คงนา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 เปิดเผยว่า ความลี้ลับของภูเขาท้ายหมู่บ้าน จุดดังกล่าวเรียกว่าหุบป่าช้า ซึ่งในอดีตที่ตั้งชุมชนนั้นอยู่ห่างไกล ไม่มีวัดและไม่มีเมรุเผาศพแบบในปัจจุบัน หากมีชาวบ้านทั้งในหมู่บ้านหรือบ้านใกล้เคียง ก็จะนำศพมาเผาบริเวณหุบเขาแห่งนี้ จนกลายมาเป็นที่มาของหุบป่าช้า ซึ่งชาวบ้านในสมัยนั้นได้ตั้งศาลไว้อายุประมาณ 100 ปี สืบมาจนปัจจุบัน
ทั้งนี้ความอาถรรพ์ของหุบป่าช้าเป็นสิ่งลี้ลับที่ไม่อาจพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ หลายปีต่อหลายปีที่ผ่านมามักจะมีชาวบ้านทั้งในและนอกพื้นที่ที่เข้าป่าหาเห็ดตามฤดูกาล และหลงป่าเป็นประจำจนเป็นที่กล่าวขานถึงความเฮี้ยนของผืนป่า ซึ่งก่อนหน้าที่จะพบศพนายสนั่น ไม่กี่วัน ก็มีชาวบ้านในหมู่บ้านเข้าไปหาเห็ดและไปพบกับชายนิรนาม คาดว่าเป็นคนพลัดถิ่นหลงป่านอนไม่ได้สติอยู่บริเวณศาลเจ้าที่ในหุบป่าช้า คนละฝั่งเขาที่พบศพนายสนั่น ซึ่งหมอบอกว่าหากมาช้ากว่านี้อีก 1 ชั่วโมง ชายนิรนามคนนี้อาจจะเสียชีวิต ก่อนจะรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลหลายวัน ต่อมาก็มีชาวบ้านเข้าป่าหาเห็ด จนกระทั่งพบรถจักรยานยนต์และศพของนายสนั่น อยู่บนยอดเขาอีกฝั่งดังกล่าว
นายประทวน เผยอีกว่า เรื่องสิ่งลี้ลับความเชื่อของชาวบ้านคนทั่วไปหรือคนอื่น อาจจะมองว่าเป็นสิ่งไร้ค่า แต่สำหรับชาวบ้านที่นี่หรือชุมชนอื่น ๆ ก็ตาม ความเชื่อในเรื่องลี้ลับอาถรรพ์เป็นรากวัฒนธรรมที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษแต่โบราณ ซึ่งหากมองตามหลักวิทยาศาสตร์ ความเชื่อหรือพิธีกรรมต่าง ๆ ก็เป็นไปตามหลักรัฐศาสตร์ที่เป็นกฎเกณฑ์ทางสังคมให้คนในชุมชนอยู่ร่วมกันได้เป็นปกติ สิ่งเหล่านี้ต้องย้ำอีกครั้งว่า เป็นรากเง้าทางวัฒนธรรมจากบรรพชน
น.ส.พจนีย์ อำพัน หลานของผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับทีมข่าวว่า นายสนั่นหายออกจากบ้านไป ทางครอบครัวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เป็นห่วงและช่วยกันออกตามหา ครอบครัวทำทุกทางจนไปหาที่พึ่งสุดท้ายเรื่องไสยศาสตร์และดูดวง โดยไปหาหมอดูนับ 10 ราย รวมทั้งการออกเดินป่าตามหานับ 10 วันก็ยังไม่เจอ จนมีคนรู้จักแนะนำว่าให้ไปหาหมอดูที่ จ.สุโขทัย ครอบครัวจึงเดินทางไปอ้อนวอนหมอดูให้ช่วยดูดวง
หมอดูเป็นร่างทรงพ่อปู่ บอกว่า บริเวณจุดที่หายตัวไป ได้มีเจ้าพ่อเขาพระเมิน ซึ่งเป็นเจ้าที่เจ้าทางดูแลเขาพระเมิน จะไม่ยอมปล่อยตัวนายสนั่นเด็ดขาด จะเก็บตัวไว้ นอกจากนี้กลุ่มชาวบ้านที่เข้าไปค้นหาได้ไปลบหลู่ ไปทำพิธีเปิดป่า จุดธูปและส่งเสียงดังเหมือนลบหลู่เจ้าพ่อ โดยชาวบ้านใน จ.ตาก จะรู้ว่า เขาพระเมิน ไม่ชอบเสียงดัง
ทั้งนี้น.ส.พจนีย์ ยังเล่าให้ฟังอีกว่า เจ้าพ่อเขาพระเมิน จะนำคนที่ออกตามหาไปด้วย ในกลุ่มนี้จะมีคนตาย 1 คน ซึ่งก็คิดว่า เจ้าพ่อเขาพระเมิน น่าจะมาเอาวิญญานตนไป ยอมรับว่าหวาดกลัวมาก ร่างทรงปู่ฤาษียังทักได้แม่นยำราวกับตาเห็น รู้ว่านายสนั่น ใส่เสื้อสีน้ำเงิน มีตัวอักษรสีขาวด้านหลังเสื้อ ซึ่งตรงกับวันที่นายสนั่น ใส่เสื้อตัวดังกล่าวแล้วหายตัวไป
ร่างทรงปู่ฤษี บอกว่า นายสนั่น มีกรรมกับสิ่งเร้นลับบนเขาพระเมิน ตนจึงขอให้ร่างทรงช่วย เพราะไม่รู้ว่านายสนั่น ไปทำอะไรไว้ จะให้ขอขมาลาโทษก็ให้บอก ร่างทรงปู่ฤษีจึงติดต่อกับเจ้าพ่อเขาพระเมิน บอกว่าไม่ช่วย “พวกมึงลบหลู่” และบอกให้ทำใจไว้ นายสนั่นนอนคว่ำหน้าอยู่ วินาทีนั้นตนตกใจและสียใจ ถึงกับร้องไห้ “ถ้าเจ้าหาไม่เจอวันนี้ ถึงพรุ่งนี้ เขาจะไม่ยอมปล่อยตัว” หลังจากนั้นไม่กี่วันออกตามหากันอีกครั้ง จึงพบร่างนายสนั่น