สาวสองโชว์แผลถูกแฟนหนุ่มซ้อมหน้าเละ อีกฝ่ายแฉกลับโดนตื๊อขอกินตับ ปัดมีสัมพันธ์ (คลิป)

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก"Ovacado Mint" โพสต์เรื่องราวของเพื่อนสาวประเภทสองที่ถูกผู้ชายที่กำลังคุยศึกดูใจกันอยู่ ทำร้ายร่างกาย จนมีบาดแผล ดั้งหัก ตาบวมช้ำ คิ้วและโหนกแก้มถลอก อ้างว่าผู้ชายคนนี้เคยทำผิดแล้วเพิ่งออกจากคุกมานั้น

วันที่ 8 พ.ค. 63 ทีมข่าวลงพื้นที่ตำบลแม่แฝกใหม่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ คุณกวาง อายุ 26 ปี สาวประเภทสอง ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ตนมาทำงานใน จ.เชียงใหม่ เป็นพนักงานร้านอาหาร รู้จักกับนายสุทธิเกียรติ ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 62 ที่ร้านเหล้า พูดคุยเป็นเพื่อนกันมาตลอด จนย้ายห้องพักไปอยู่ใกล้กับหมู่บ้านของนายสุทธิเกียรติในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 63 ทำให้สนิทกันมากขึ้น

กระทั่งวันที่ 5 พ.ค. 63 นายสุทธิเกียรติ และลุงโอ ได้นั่งดื่มสังสรรค์กันตั้งแต่ในช่วงค่ำที่บ้านของลุงโอ ซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถ จนในช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ลุงโอไปนอน เนื่องจากเมา จากนั้นตนกับนายสุทธิเกียรติก็มีปากเสียงกัน นายสุทธิเกียรติได้นำเรื่องส่วนตัวของตนไปเล่าให้เพื่อนผู้ชายฟังอย่างสนุกปาก

นายสุทธิเกียรติดึงผมของตนจนล้ม เตะเข้าที่ใบหน้า 3 ครั้งอย่างแรง แล้วขี่รถจักรยานยนต์ขับออกไป เมื่อตนถึงห้องพัก มีเลือดไหลออกทางจมูกและคิ้ว เนื่องจากตนเคยทำศัลยกรรมจมูกเมื่อ 2 ปีก่อน ปวดฟัน คาดว่าฟันหน้าน่าจะแตก ผลเอกซเรย์กระดูกจมูกหัก โหนกแก้มร้าว มีแผลช้ำที่ดวงตา 2 ข้าง และคิ้วซ้าย

ตนขอยืนยันว่าไม่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้ชายหรือเด็กชายคนอื่นตามที่นายสุทธิเกียรติกล่าวหา โดยไม่ใช่ครั้งแรกที่ตนถูกทำร้าย และครั้งนี้ตนแจ้งความแล้วที่ สภ.แม่แฝก ไม่ต้องการเรียกร้องมาก แต่ต้องการค่ารักษาพยาบาล และขอยืนยันว่าตนไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

นายสุทธิเกียรติ หรือ เป้ อายุ 20 ปี ผู้ถูกกล่าวหา เปิดเผยว่า สาวสองที่ถูกทำร้ายมีนิสัยชอบตีสนิทกับผู้ชายหล่อ ๆ ทั้งเด็กเล็กและวัยรุ่น เขิญชวนให้ไปสังสรรค์ในห้องพัก หรือบางครั้งก็ขอมาสังสรรค์ตามบ้านของผู้ชาย จากนั้นก็จะขอมีสัมพันธ์ด้วย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สาวสองรายนี้มีความสัมพันธ์กับผู้ชายหลายคน

นอกจากนี้ สาวสองยังเสพยาเสพติด ทำให้สติค่อนข้างจะเพี้ยน และพยายามเสนอขายยาเสพติดให้กับผู้ชายหลายคน ตนจึงพยายามตีตัวออกห่าง ทั้งนี้ เพื่อนของสาวสองโพสต์ว่าตนมีคดีติดตัวและเพิ่งออกจากคุก ยอมรับว่าตนเคยยุ่งเกี่ยวกับกับยาเสพติดสมัยอายุ 14-15 ปี จนต้องเข้ารับการบำบัดที่สถานบำบัด แต่ตนกลับตัวแล้ว

นายสุทธิเกียรติ บอกว่า ตนไม่รู้จักผู้ใช้เฟซบุ๊กที่โพสต์กล่าวหาตนว่าทำร้ายด้วยซ้ำ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนอาศัยอยู่ในบ้านกับคุณแม่ตลอดเวลา แล้วตนจะออกไปทำร้ายร่างกายสาวสองรายนี้ได้อย่างไร ที่อีกฝ่ายเจาะจงว่าตนเป็นคนทำร้ายร่างกาย ตนไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายต้องการบังคับให้ตนรับผิดชอบและคบหาด้วยหรือไม่ เนื่องจากอีกฝ่ายชอบทักแชตและโทรศัพท์มาหาตนตลอดเวลา ขออมอวัยวะเพศและเสนอขายยาเสพติด จนแม่ของตนถามว่าสาวสองไม่ทำการทำงานเหรอ ตนจึงตัดสินใจบล็อกทุกช่องทางการติดต่อ แต่สาวสองรายนี้ก็ยังคนสมัครเฟซบุ๊กใหม่พร้อมหาเบอร์โทรศัพท์ใหม่ติดต่อตนมา แล้วด่าว่า “ไอ้สั-ว์” แล้วตัดสายไป ทำให้ตนรู้สึกงงมาก

อย่างไรก็ตาม แม่ตนกำลังปรึกษากันอยู่ว่าจะแจ้งความในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่ แต่ตนไม่อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องวุ่นวาย ตนไม่อยากให้คุณแม่ต้องเสียเงินเสียเวลา ส่วนตนอยากบอกว่า "ต้องการอะไรจากสังคม คนแถวนี้เขารู้หมดว่าคุณเป็นยังไง ไม่มีใครชอบคุณ หลายคนยังพูดว่าที่คุณโดนทำร้ายก็สมควรแล้ว"

นายสมบูรณ์ หรือ ลุงโอ อายุ 38 ปี เล่าว่า ตนรู้จักกับนายสุทธิเกียรติมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากเป็นเด็กแถวบ้าน ส่วนกวาง (นามสมมติ) ตนจะเรียกเขาว่าเบลล่า ซึ่งตนรู้จักมาได้เกือบ 1 ปี เนื่องจากย้ายเข้ามาทำงานที่ร้านอาหารและร้านเหล้าในละแวกนี้ เบลล่าชอบนายสุทธิเกียรติ แต่ตนไม่รู้ว่านายสุทธิเกียรติคบหากับเบลล่าหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว

คืนวันเกิดเหตุ ตนกับนายสุทธิเกีรยตินั่งดื่มเหล้าขาวกันตั้งแต่ 19.00 น. ที่อู่ของตน เวลา 20.30 เบลล่าก็ซื้อเบียร์เข้ามาที่อู่ ซึ่งตนดูจากท่าทางของทั้งคู่ คาดว่าทั้งคู่น่าจะมีเรื่องง้องอนให้ทะเลาะกันมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว จากนั้นตน นายสุทธิเกียรติ และเบลล่า ก็ได้นั่งดื่มกันต่อ กระทั่งเวลา 21.30 น. นายสุทธิเกียรติขอตัวกลับบ้าน เนื่องจากใกล้เวลาเคอร์ฟิว ตนจึงได้นั่งดื่มกับเบลล่าจ สังเกตเห็นว่าเบลล่าโทรศัพท์ตามให้นายสุทธิเกียรติกลับมาหาที่อู่ แต่นายสุทธิเกียรติไม่ยอมมา เบลล่าก็โทรศัทพ์ตามอยู่เรื่อย ๆ จนเวลาประมาณ 23.00 น. ตนก็ไปนอน เพราะเมามาก ไม่รับรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่ามีการทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกันในอู่ของตนหรือไม่