จากกรณีเฟซบุ๊ก "ฅนข่าว ต้นปราการ" ได้โพสต์รูปเเม่ค้ารถเร่รายหนึ่ง โดยระบุว่า ห้ามซื้อขนมจีบจากรถเร่คันนี้เด็ดขาด ขายย่านบางเสาธง หนองปรือ ราชาเทวะ บางโฉลง จรเข้ใหญ่ ล่าสุดมีคนซื้อขนมจีบจากเจ้านี้ไปกิน พบมีอาการท้องเสียรุนแรงถึงขั้นสาหัสแล้ว กว่า 10 ราย และเสียชีวิตแล้ว 1 ราย ญาติผู้เสียชีวิตและเจ็บป่วยแจ้งว่าพบสารอันตรายรุนแรงปนเปื้อนในอาหาร
ล่าสุด วันที่ 11 พ.ค.63 นายประเสริฐ อ้นเจริญ อายุ 73 ปี สามีของนางธนู ผู้เสียชีวิต ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบาลพลี ด้วยอาการเดียวกัน ได้ขออนุญาตหมอออกมาจากโรงพยาบาลมาชั่วคราว เพื่อรดน้ำศพผู้เป็นภรรยา บอกว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันพุธที่ผ่านมา ตนและภรรยาได้เดินทางไปเก็บผักที่แปลงผัก ได้มีแม่ค้าขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาขายของกินประเภทขนมจีบ ซาลาเปา ก๋วยเตี๋ยวหลอด และของกินอื่น ๆ ที่บรรจุอยู่ในถุงหูหิ้วแขวนข้างรถขี่เข้ามาขาย ภรรยาตนได้ซื้อขนมจีบเอามากินที่บ้าน โดยแบ่งให้ลูกหลานในบ้านกินกันหลายคน มีเพียงลูกสาวเพียงคนเดียวที่ไม่ได้กิน
หลังจากที่เข้านอนจนเวลประมาณเที่ยงคืนเศษ ทั้งตน ลูกหลาน รวมทั้งภรรยา ที่กินขนมจีบเข้าไปทุกคนเกิดอาการถ่ายท้องอย่างรุนแรง ส่วนหลานสาวมีอาการเวียนหัวและอาเจียนร่วมด้วย แต่ก็ต้องรอจนกระทั่งเช้า ลูกสาวจึงได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาล หลังแพทย์ได้ตรวจรักษาและก็ให้ยาและให้กลับบ้าน ซึ่งตอนนั้นอาการก็ยังไม่ดีขึ้นเพียงแต่ทุเลาลงเท่านั้น แต่พอกลับมาบ้านก็ยังถ่ายท้องอยู่จนกระทั่งอีกวันหนึ่งอาการไม่ดีขึ้นลูกสาวจึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลบางพลี อีกครั้งแพทย์ได้ให้ยาฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งในช่วงบ่ายของวานนี้ลูกสาวโทรมาบอกว่าภรรยาตนเสียชีวิตแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช แต่ผลชันสูตรจนเบื้องต้นกลับระบุว่าหัวใจล้มเหลว ในวันนี้จึงขออนุญาตหมอออกมาจากโรงพยาบาลชั่วคราวเพื่อมาดูหน้าภรรยาเป็นครั้งสุดท้าย
วันเดียวกัน พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้นำตัว น.ส.มิ้น อายุ 29 ปี แม่ค้าที่รับขนมจีบไปขาย มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดย น.ส.มิ้น บอกว่า ไปรับขนมจีบจากร้านแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งร้านนี้ส่งหลายเจ้า แต่มีปัญหาแค่ตัวเอง ก่อนจะไปตระเวนขายตามสถานที่ต่าง ๆ
รวมไปถึงแถวบ่อผักและบ่อปลาในพื้นที่ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการด้วย โดยวันเกิดเหตุไปรับขนมจีบมาขายตั้งแต่เวลา 06.30 น. จำนวน 15 กล่อง มีการแพ็คอย่างดี ซึ่งจะขายชุดละ 30 บาท และในวันนั้นขายหมดตั้งแต่ก่อนเวลา 12.00 น. ซึ่งไม่เคยมีเหลือตกค้าง และที่ผ่านก็ไม่เคยมีปัญหา ยืนยันขายวันต่อวันไม่มีเหลือค้าง
ตอนนี้รู้สึกเครียดมาก เพราะมีคนเสียชีวิต จึงอยากขอโทษไปถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิตว่าไม่ได้มีเจตนา และไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เพราะหากรู้ตั้งเเต่แรกว่ามีอันตรายคงไม่นำไปขายให้ลูกค้า "ส่วนตัวเคยลองกินขนมจีบแล้ว แต่ไม่เคยเป็นอะไร และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้นด้วย จะได้ให้ความจริงกระจ่าง"
จากนั้น ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่5 ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ ซึ่งเป็นบ้านของนางสุวรรณี รูปโลก อายุ 55 ปี คนที่ทำขนมจีบและเป็นเจ้าประจำที่ น.ส.มิ้น มารับไปขาย โดยบอกว่า ทำขนมจีบไก่มานานเกือบ 10 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านก็ทำส่งขายไปหลายเจ้า แต่ช่วงนี้ด้วยสถานการณ์โควิด-19 จึงไม่ได้ไปตั้งขายที่ตลาด ทำให้นางสาวมิ้นท์มารับขนมจีบจากที่บ้านไปขาย โดยในช่วงวันพุธที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา นางสาวมิ้นท์ได้มารับขนมจีบจากที่บ้านไปจริงจำนวน 10 กล่องในช่วงเวลา 6 โมงเช้า และมารับอีกครั้งหนึ่งในช่วงเวลาประมาณ 9 โมงเช้าวันดังกล่าวอีกจำนวน 5 กล่อง ก่อนที่ตนจะหยุดขายไปหลังจากนั้น เพราะไม่สบาย
ทั้งนี้ตนขายให้กับนางสาวมิ้นท์มานาน 1-2 ปีแล้ว โดยยืนยันว่าขนมจีบที่ตนทำไม่ใส่สารกันบูด ซึ่งคนแถวบ้านก็กินกันเกือบทุกคนและไม่มีคนมีปัญหาใด ๆ มีเพียงเคสของนางสาวมิ้นท์เพียงคนเดียวที่ซื้อไปในวันพุธที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา รวมไปถึงเรื่องของน้ำจิ้มที่ทำก็ทำเพียงหม้อเล็ก ๆ ใส่ส่วนผสมตามปกติ และเต็มที่เก็บไว้นานสุดไม่เกิน 2 วัน ซึ่งมีการชิมก่อนขายทุกครั้ง
หากถามว่าเครียดกับข่าวหรือไม่ ส่วนตัวไม่เครียด เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดพร้อมยินดีให้ตรวจสอบ โดยขั้นตอนการผลิตที่ผ่านมา ยืนยันว่าสะอาด ปลอดภัยและใส่ถุงมือเป็นอย่างดี ซึ่งปกติจะทำขายวันละประมาณ 40-50 กล่อง กล่องละ 7 ลูก และจะขายส่งในราคากล่องละ 17-18 บาท "มั่นใจว่าขนมจีบและน้ำจิ้มสะอาด ไม่มีการใส่วัตถุกันเสียก่อนทำทุกครั้งล้างมืออย่างดี สวมถุงมือทำขนมจีบทุกครั้ง"
ด้าน นางขนิษฐา เพ็ญศรี อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นผู้ช่วยทำขนมจีบ บอกว่า เจ้าของร้านจ้างมาช่วยทำขนมจีบ ซึ่งจะทำกันเพียง 2 คน โดยให้ค่าจ้างวันละ 200 บาท และการทำขนมจีบจะมีการทำแบบสดใหม่วันต่อวัน โดยในเเต่ละวันจะเริ่มเตรียมวัตถุดิบตั้งเเต่ช่วงบ่ายโมง จากนั้นจะเริ่มทำตั้งเเต่ช่วงเย็น ซึ่งกว่าจะนึ่งเสร็จก็ช่วงเวลาประมาณตี 3 ก่อนที่ลูกค้าจะมารับขนมจีบในช่วงเช้าตั้งเเต่เวลา 6 โมงเป็นต้นไป
โดยส่วนประกอบขนมจีบ ประกอบด้วย เนื้อไก่ ไข่ไก่ รากผักชี กระเทียม พริกไทย เเห้ว เเป้งสาลี ผงชูรส น้ำตาลทราย เติมทิพย์เเละซอสฝาเขียว
ส่วนประกอบน้ำจิ้ม ประกอบด้วย น้ำส้มสายชู ซอสฝาเขียว ซีอิ้วขาว น้ำตาลปี๊ป น้ำตาลทราย และพริกขี้หนู
พร้อมยืนยันว่า ทั้งขนมจีบเเละน้ำจิ้มนั้นสะอาด ไม่มีการใส่วัตถุกันเสียใด ๆ เเละก่อนทำทุกครั้งจะมีการล้างมืออย่างดี เเละมีการล้างมือด้วยเจลเเอลกอฮอร์ นอกจากนี้ยังมีการสวมถุงมือทุกครั้ง ซึ่งหลังจากที่ทราบข่าวว่ามีคนเข้าโรงพยาบาล เเละคนเสียชีวิตรู้สึกเสียใจ แต่ไม่เชื่อว่าสาเหตุมาจากขนมจีบจึงต้องรอการตรวจสอบเสียก่อน
ขณะที่ น.ส.แสนสายแก้ว คงคล้าย ผู้เสียหายรายหนึ่ง บอกว่า เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. มีแม่ค้าขนมจีบขี่รถจักรยนตร์เข้ามาขายที่บ้าน ย่านตำบลหนองปรือ อำเถอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เลยซื้อไป 3 กล่อง แบ่งกันกินกับครอบครัวทั้งหมด 6 คน คือ ตนเอง สามี เเม่ อายุ 63 ปี ลูกชาย อายุ 20 ปี ลูกสาว อายุ 17 ปี และลูกสะใภ้ อายุ 20 ปี ทานไปเพียงคนละ 1-2 ลูกเท่านั้น ซึ่งรสชาติขนมจีบนั้นปกติ ไม่ได้บูดเน่าเเต่อย่างใด
ต่อมาเช้าวันศุกร์ ทุกคนที่กินขนมจีบเข้าไปเริ่มมีอาการป่วยคือ มีไข้ ปวดท้อง ท้องเสีย และอาเจียน ทั้งหมดจึงไปตรวจที่โรงพยาบาล แพทย์วินิจฉัยว่าอาหารเป็นพิษ ส่วนตนเองมีอาการไม่รุนแรงมากคือถ่ายท้องเกือบ 20 รอบต่อวัน ซึ่งหมอฉีดยาให้และให้ยามากิน จนตอนนี้อาการดีขึ้นไม่ถ่ายท้องแล้ว แต่คนที่อาการหนักคือยาย อายุ 63 ปี ที่มีอาการมึนหัวและหมดแรงร่วมด้วยหมอต้องให้น้ำเกลือและให้นอนค้างที่โรงพยาบาล ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการรักษา แต่เบื้องต้นทราบจากหมอว่าได้นำอุจจาระของยายไปตรวจพบเชื้อโรคว่า 100 ตัว
วันเดียวกันช่วงเย็น ญาติได้นำศพนางธนู ผู้เสียชีวิต มาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่ วัดหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยน.ส.อรุณี อ้นเจริญ ลูกสาวผู้เสียชีวิต บอกว่า น.ส.มิ้นท์กับพี่ชายและผู้เป็นพ่อมาร่วมงานศพ แต่สิ่งที่เห็นคือพี่ชายของน.ส.มิ้นท์ ปักธูปกลับหัวใส่กระถาง จึงอยากรู้ว่าหากต้องการมาขอขมาศพแม่จริง ๆ ทำไมถึงทำแบบนี้ จะมาอาฆาตแม่ตนอีกหรือไม่ ถ้าไม่เต็มใจจะมาไม่ต้องมาดีกว่าทำแบบนี้เสียความรู้สึก
อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่ายที่ผ่านมาทางสาธาณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เข้ามาเก็บตัวอย่างน้ำจิ้มขนมจีบไปตรวจสอบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากขนมจีบ เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานชี้ชัด ซึ่งหลังจากนี้จะนำตัวอย่างทั้งหมด ทั้งจากลูกค้าที่ยังทานไม่หมด เเละตัวอย่างบางส่วนจากผู้ผลิตไปทำการตรวจสอบจากนั้นจะเเจ้งผลให้ทราบต่อไป