กรณีนายไทยรัฐ ปัญญาบุตร อายุ 36 ปี ชาว ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ขี่รถจักรยานยนต์ ทะเบียน กทง 194 นครพนม จอดอยู่เลนเกาะกลางที่ยังไม่ได้ตีเส้นจราจร เพราะอยู่ระหว่างการขยายเป็นถนน 4 เลน เพื่อใช้เป็นเส้นทางข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งบนถนนทางหลวง หมายเลข 22 (สกลนคร-นครพนม) ช่วงปากทางเข้า ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม ปรากฏว่ามีรถเก๋งไม่ทราบรุ่นและยี่ห้อ พุ่งชนกลางลำลากทั้งคนและรถครูดไปกับถนน ไกลประมาณ 100 เมตรเสียชีวิตคาที่
ส่วนรถเก๋งคู่กรณีหลังก่อเหตุได้เร่งเครื่องหลบหนีไปในเส้นทางเข้าตัวจ.นครพนม ทิ้งหลักฐานเป็นพลาสติกสีดำรองใต้ห้องเครื่อง ความยาวขนาด 80 ซม. กว้าง 50 ซม. ตกอยู่กับศพผู้เสียชีวิต คาดว่าเป็นอุปกรณ์ของรถเก๋งคันดังกล่าว ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเวลา 22.20 น. ของวันที่ 11 พ.ค.63 ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุดวันที่ 12 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้รับทราบจาก พ.ต.ท.วีระชัย สมประสงค์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม ว่า หลังเกิดเหตุได้ทำบันทึกเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้หมดแล้ว พร้อมติดต่อญาติของผู้เสียชีวิต เดินทางมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ส่วนรถยนต์คู่กรณีกำลังไล่ตรวจเช็กภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่าง ๆ เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี จะได้ทราบช่วงเวลาเกิดเหตุก่อนและหลังเคอร์ฟิว มีรถยนต์ต้องสงสัยคันใดวิ่งมาบ้าง ซึ่งคาดว่าจะทราบภายในเร็ววันนี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 มี.ค.63 บริเวณจุดดังกล่าวเพิ่งจะเกิดอุบัติเหตุสะเทือนใจมาแล้ว จากการที่ น.ส.อุบล โมคลา อายุ 45 ปี อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) บ้านด่านหมู่ 2 ต.กุรุคุ ขี่รถจักรยานยนต์ ทะเบียน กกฎ 7887 นครพนม มาจอดจุดเดียวกันเลนเกาะกลาง แล้วตัดหน้ารถเก๋งถูกพุ่งชนเสียชีวิตคาที่ ชาวบ้านจึงเชื่อว่าบริเวณดังกล่าว คงจะมีเจ้าที่แรง เพราะช่วงระยะห่างเหตุการณ์ 1 เดือนครึ่งเท่านั้น