จากกรณีที่คนร้ายแอบขึ้นไปขโมยพระพลวงพ่อสัจจะ พระพุทธรูปเก่าแก่ อายุ 250-400 ปี จากบริเวณลานบุญลานธรรม หน้าหลวงพ่อองค์ใหญ่ วัดเขาพระทอง หมู่ 1 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 15.30 น. ของวันที่ 9 พ.ค. 63 พระอารยนันต์ อานันโท รักษาการเจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบภาพคนร้ายเข้ามาขโมย
ล่าสุด วันที่ 112 พ.ค. 63 พ.ต.อ.เธียร บาลทิพย์ ผกก. สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช สั่งการให้สายตรวจตำบลเขาพระทอง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เดินทางไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
ขณะนั้นมีนายพัทธวรรณ เพชรแก้ว อายุ 41 ปี แม่ และญาติ ๆ เดินทางมาในลักษณะอาการตัวสั่น เข้ามาพบพระอารยนันต์ พร้อมแจ้งว่า นายพัทธวรรณเป็นคนขโมยหลวงพ่อสัจจะ และต้องการจะนำหลวงพ่อสัจจะที่ขโมยไปมาคืน พร้อมกราบขอขมาหลวงพ่อองค์ใหญ่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดเขาพระทอง
นายพัทธวรรณ ร้องไห้และมีอาการหวาดผวาตลอดเวลา จนหลวงพ่อนนท์พระลูกวัด เกจิดัง เข้ามาทำพิธีปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย จนนายพัทธวรรณอาการกลับมาเป็นปกติ แต่ยังร้องไห้ตลอดเวลา
หลังจากนั้น นำนายพัธวรรณขึ้นไปบนเชิงผาลานบุญ หน้าหลวงพ่อองค์ใหญ่ และโต๊ะหมู่บูชาสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อสัจจะ ให้นายพัทธวรรณกราบสักการะ เจ้าตัวยอมรับว่า ได้กระทำสิ่งเลวร้าย ขโมยหลวงพ่อสัจจะ ทรัพย์สมบัติของวัดไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พร้อมสัญญาว่าจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดี
นายพัทธวรรณ กล่าว่า จริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจที่จะมาขโมยหลวงพ่อสัจจะ แต่วันเกิดเหตุเดินทางมาพร้อมภรรยาและลูก เพื่อกราบนมัสการหลวงพ่อองค์ใหญ่ ขณะที่ขึ้นไปบริเวณลานบุญลานธรรมเชิงผาหน้าหลวงพ่อองค์ใหญ่ หันไปเห็นหลวงพ่อสัจจะขนาดเล็กสภาพเก่าจนพระพักตร์ของพระไม่เห็น รู้สึกอยากได้เป็นเจ้าของขึ้นมาทันที ประกอบกับคิดว่าเป็นพระพุทธรูปที่ไม่สำคัญ จึงคว้าเดินลงมาด้านล่าง
แต่ตกกลางคืนรู้สึกจิตใจร้อนรุ่มผิดปกติ และหายใจติดขัด จึงเข้านอนหลับตา แต่ไม่ทันจะหลับ กลับรู้สึกเหมือนมีร่างสูงใหญ่ดำทมึน ใช้เท่าขนาดใหญ่มาเหยียบกดทับที่หน้าอกจนหายใจไม่ออก และยังบอกว่า ไปทำความชั่วร้ายแรงเอาไว้ ขอให้รีบนำหลวงพ่อสัจจะไปคืน หากไม่ยอมคืนจะตามมาลงโทษตน และครอบครัว ญาติพี่น้องให้มีอันเป็นไป กระทั่งรุ่งเช้าจึงตัดสินใจนำหลวงพ่อสัจจะมาคืนวัด ชีวิตนี้จะไม่คิดทำชั่วอีกแล้ว จะขอไถ่บาปด้วยการเข้าวัดทำบุญตลอดชีวิต