เชื่อปาฏิหาริย์! บุกป่าเจออีกกระดูกสะโพก ผอ.อ้อย - ผัวเชื่อเมียตายทรมาน (คลิป)

ภายหลังจากศาลจังหวัดกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มีคำสั่งไม่อนุญาต ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือ "ผู้กองเหน่ง" นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาคดีฆ่า น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ "ผอ.อ้อย" ผอ.กองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้ "ผู้กองเหน่ง" ต้องถูกควบคุมตัว ส่งไปคุมขังที่เรือนจำอำเภอกันทรลักษ์ ในการฝากขังครั้งที่ 2 ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น ล่าสุด วันนี้(31 ต.ค.60) ช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่เรือนจำอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พบว่าไม่มีญาติพี่น้องของ "ผู้กองเหน่ง" มาเยี่ยมหรือว่ามีทนายความมาให้คำปรึกษาแนะนำแต่อย่างใด ซึ่งนายไพสันต์ ขุ่ยรานหญ้า ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอกันทรลักษ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เรือนจำ อ.กันทรลักษ์ ปฏิบัติกับ "ผู้กองเหน่ง" เหมือนดังเช่นผู้ต้องขังทั่วไป เมื่อช่วงค่ำของ วันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เรือนจำได้ทำการตรวจโรค และแนะนำให้ทราบถึงระเบียบการปฏิบัติตัวในเรือนจำกับ "ผู้กองเหน่ง" พร้อมทั้งมอบผ้าห่มให้ 3 ผืน โดยผ้าห่มผืนแรก จะใช้ในการปูนอนบนพื้นซึ่งสะอาดปราศจากเชื้อโรค ผ้าห่มผืนที่ 2 ใช้สำหรับทำเป็นหมอนหนุนหัว และผ้าห่มผืนที่ 3 ใช้สำหรับห่ม ส่วนชุดผู้ต้องขัง 4 ชุด จะมีไว้ให้ใช้สำหรับปรับเปลี่ยนกันในแต่ละวัน "ผู้กองเหน่ง" ถูกนำตัวเข้าไปอยู่ในแดนแรกรับทั้งนี้ทางเรือนจำ อ.กันทรลักษ์ ได้จัดนักโทษชั้นเยี่ยม จำนวน 3 คน มาคอยดูแล และจับตาดูความเคลื่อนไหว เนื่องจากเกรงว่า "ผู้กองเหน่ง" อาจจะเครียด และคิดสั้นทำร้ายตัวเองได้ นายวิทยา เกษแก้ว สามี "ผอ.อ้อย" พร้อมญาติ และชาวบ้านกว่า 20 คน ลงพื้นที่บริเวณทางขึ้นเนินห้าร้อย ห่างจากฐานอนุพงศ์ บ้านโนนสูง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี จุดพบศพ "ผอ.อ้อย" เพื่อค้นหาชิ้นส่วนกระดูกที่เหลือเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 กองกำลังสุรนารี ได้ใช้เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด เข้ามาตรวจสแกน และขยายพื้นที่ในการค้นหาออกไปเพิ่มเติม

ก่อนที่ญาติ และชาวบ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ปูพรมค้นหา ซึ่งใช้ไม้เขี่ยตามพื้นป่า จนพบกระดูกลักษณะคล้ายสะโพก อยู่ข้างต้นไม้ ติดกับถนนลูกรัง ทางขึ้นเนินห้าร้อย โดยเจ้าหน้าที่ได้กั้นเชือกสีแดง พร้อมปักป้ายระบุจุดไว้ก่อนพนักงานสอบสวน สภ.น้ำยืน จะเข้ามาเก็บชิ้นส่วนดังกล่าว ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะคืนให้ญาติในภายหลัง

ขณะที่ นายวิทยา เปิดเผยว่า กระดูกดังกล่าวน่าจะเป็นส่วนสะโพกของ ผอ.อ้อย ส่วนตัวอยากเก็บชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยตนยอมรับว่า แม้จะทำใจไว้แล้วเรื่องการจากไปของภรรยา แต่เมื่อเจอสภาพกระดูกต่างๆ รู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก เพราะคิดว่าภรรยาน่าจะถูกฆ่าอย่างทรมาน ซึ่งตอนที่พบกะโหลกศีรษะ มั่นใจว่าเป็น "ผอ.อ้อย" เพราะจำลักษณะฟันของ "ผอ.อ้อย" ได้อย่างแม่นยำ เพราะฟันของภรรยาเรียงกันสวย ส่วนเรื่องคดี ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา "ผู้กองเหน่ง" ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ซ่อนเร้นอำพรางศพ และหน่วงเหนี่ยวกักขังให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยถูกคัดค้านการประกันตัว ตนจึงคิดว่าเป็นผลดีกับครอบครัว เพราะเป็นก้าวแรกที่จะพิสูจน์กระบวนการยุติธรรม โดยมั่นใจในพยานหลักฐานว่าสามารถมัดตัว "ผู้กองเหน่ง" ได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ตนได้บอกลูกสาวว่า ในตอนนี้แม่ไปสวรรค์แล้ว ซึ่งลูกสาวมีท่าทีนิ่งเฉย นายวิทยา จึงคาดว่า ลูกสาวน่าจะเข้าใจ แต่ทำใจยอมรับไม่ได้ ตนจึงไม่ได้อธิบายเพิ่มเติม และจะรอเวลาบอกลูก ถึงเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง