เมีย คาใจลูกตำรวจซิ่งกระบะชนผัวตายไม่โดนเป่า ซ้ำคดีอืด คู่กรณีชี้เรียก 1 ล้านต้องขอคิด (คลิป)

จากกรณี น.ส.จารุเนตร รอดประเสริฐ ภรรยาของนายอุธรณ์ ก้อนสมบัติ ที่เสียชีวิตจากถูกรถชน เดินทางติดตามความคืบหน้าที่ สน.บางขุนเทียน หลังสามีถูกลูกชายนายตำรวจ ขับรถกระบะเฉี่ยวชนจนเสียชีวิต ที่บริเวณซอยเอกชัย 54 แต่ระยะเวลาผ่านมา 7 เดือน กลับไม่มีความคืบหน้าเรื่องคดี

ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณจุดเกิดเหตุ เห็นว่ารถจักยานยนต์ของนายอุธรณ์ ผู้เสียชีวิต ได้ขับเบี้ยงเข้าเลนขวา จากนั้นรถกระบะของผู้ก่อเหตุ ขับจากเลนขวาเข้ามาชนอย่างแรง จนรถของผู้เสียชีวิตกระเด็น หลังจากนั้นก็มีผู้ชาย 1 คน ผู้หญิง 2 คน ลงมาจากรถคันก่อเหตุเพื่อดูเหตุการณ์

วันที่ 21 พ.ค. 63 นางสาวจารุเนตร รอดประเสริฐ ภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 62 เวลาประมาณ 03.39 น. หลังจากที่สามีตนเองขี่จักรยานยนต์เข้าเลนขวาเพื่อกลับรถ ไปยังฝั่งตรงข้าม มีรถกระบะสีขาวยูเทิร์นกลับรถมาจากอีกฝั่ง ขับพุ่งเข้ามาชนจนสามีตนร่างกระเด็นบาดเจ็บสาหัส เลือดคั่งในสมอง และกะโหลกร้าว เสียชีวิตในเวลาต่อมา 

คู่กรณีก็โทรศัทพ์มาขอโทษ และช่วยค่าจัดงานศพ 10,000 บาท จากนั้น วันที่ 11 ก.พ. 63 ตนเองก็มีการไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี แต่ก็เจรจากันไม่เป็นผล ร้อยเวรเจ้าของคดีคนเก่าก็ได้ย้ายไปประจำการที่ สน. อื่นแล้ว

ตอนนี้ ตนเองจึงกลัวคดีจะไม่มีความคืบหน้า ตนจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ล่าสุด ได้เจรจากับผู้ก่อเหตุพร้อมพ่อของเขาวันที่ 19 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา และตนเองยังติดใจในการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แค่สามีตนเองฝ่ายเดียว ไม่มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ก่อเหตุ ทั้งที่วันก่อเหตุนั้นคู่กรณีมากับผู้หญิงอีกสองคน และมีท่าทางเหมือนคนเมา

ที่ตนต้องออกมาเรียกร้องก็เพราะว่าตั้งแต่สามีตนเสียชีวิตไป 7 เดือน ครอบครัวตนก็ตกที่นั่งลำบาก ตนไม่สามารถทำงานได้ ต้องมาเลี้ยงลูกอีก 2 คน อายุ 9 ขวบ และ 1 ขวบ 8 เดือน รถจักยานยนต์สามีก็พัง ตนก็ไม่มีรถใช้ ที่ผ่านมาสามีตนเปรียบเสมือนเสาหลักของครอบครัวตน ตอนนี้ตนลำบากมาก แบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว ถึงขั้นจะต้องย้ายออกจากหอสิ้นเดือนนี้ เพื่อกลับไปอยู่บ้านเกิดที่ จ.น่าน

ส่วนในเรื่องของคดีนั้น เจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งข้อหาประมาทร่วมกัน ค่าเยียวยาจำนวน 1 ล้านบาท ที่ตนขอให้คํากรณีชดใช้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าว่าเขาจะเยียวยาพวกตนหรือไม่

ด้านผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า วันเกิดเหตุ ตนกำลังจะกลับบ้านที่ซอยเอกมัย 46 ขับยูเทิร์นมายังถนนจุดเกิดเหตุ ความเร็ว 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง จังหวะที่ชนตนเองก็ไม่เห็นผู้เสียชีวิตที่ขับเปลี่ยนเลนเข้ามา รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ตนเองชนคู่กรณีแล้ว จากนั้นตนเองก็ได้เปิดประตูรถลงมาดู ไม่ได้คิดหลบหนี ตั้งแต่เกิดเรื่องมาตนเองก็ได้ให้ประกันทางฝั่งตนเป็นคนเจรจา ส่วนค่าเยียวยาที่ทางฝั่งครอบครัวผู้เสียชีวิตร้องขอตนมา 1 ล้านบาทนั้น ตนอยู่ระหว่างปรึกษากับครอบครัว ขอยืนยันว่าวันเกิดเหตุตนไม่ได้มีอาการเมา ไม่ได้ขับรถเร็วเพื่อหลบหนีด่านด้วย

ความคืบหน้าทางคดี พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ บุญเสริมศักดิ์ พนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ได้แจ้งข้อหาผู้ก่อเหตุในข้อหา ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายถึงแก่ความตาย และได้ดำเนินในคดีข้อหาประมาทร่วมกันเนื่องจากผู้ตายได้มีการขับรถเปลี่ยนเลนกะทันหัน