เปิดใจครั้งแรกหลังหายป่วย "แมทธิว - ลิเดีย" หลั่งน้ำตาขอบคุณทีมแพทย์-ทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ รับสิ่งที่ทรมานที่สุดคือการไม่รู้ว่าจะหายเมื่อไหร่

มาอัปเดตกันต่อสำหรับข่าวของที่คู่รัก "แมทธิว-ลีเดีย" หลังจากที่ทั้งคู่หายป่วยจากโรคโควิด- 19 เมื่อช่วงเดือนที่แล้ว หลายคนก็ได้แต่ติดตามเรื่องราวของทั้งคู่ผ่านโซเชี่ยล ล่าสุดทั้งคู่ได้ควงกันออกงานครั้งแรก เพื่อเข้ารับรางวัล "Heroes of Humanity"จากสภามวยโลก เนื่องด้วยเป็นบุคคลสาธารณะที่กล้าหาญเปิดเผยตนเอง หลังได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมปลุกกระแสให้บุคคลทั่วไปที่มีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังตัวเองก่อนที่จะแพร่ระบาดในประเทศไทยและกระจายไปทั่วโลก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สุดซึ้ง "ลิเดีย" โพสต์คลิป ถึงบุคลากรทางการแพทย์ คำว่า “ขอบคุณ” คงไม่เพียงพอ
“แมทธิว” โพสต์คลิปเบื้องหลังการร้องเพลงของ”ลิเดีย” สุดน่ารัก!! เปลี่ยนห้องน้ำเป็นห้องอัดเสียง!
ข่าวดี!! “แมทธิว-ลิเดีย” ได้กลับบ้านแล้วหลังรักษาตัวนานกว่า30วัน!!
สุดซึ้ง "ลิเดีย" โพสต์คลิป ถึงบุคลากรทางการแพทย์ คำว่า “ขอบคุณ” คงไม่เพียงพอ
เคียงข้างกันตลอดไป! "ลิเดีย-แมทธิว" ได้อยู่ด้วยกันแล้ว พร้อมเล่าอาการ-ผลการรักษาละเอียดยิบ

โดยทาง "แมทธิว-ลิเดีย" เล่าถึงรางวัลที่ได้รับว่า ส่วนตัวไม่ได้มองว่าตนเป็นฮีไร่ในการช่วยให้คนตระหนักถึงเรื่องโรคโควิด-19 แต่รู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้คนที่คิดว่าเสี่ยงได้รีบไปตรวจเช็กเพื่อให้การระบาดนั้นไม่ขนายไปในวงกว้าง ทั้งนี้หากจะมองว่าใครเป็นฮีโร่นั้น ก็คงจะเป็นทางคุณหมอและทีมบุคลากรทางการแพทย์มากกว่า เพราะพวกเขาเหล่านั้นถือเป็นกลุ่มมคนที่ต้องเสียสละเพื่อทุกคน บางคนไม่สามารถกลับบ้านได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่สุดยอด

ขณะเดียวกันทาง "ลิเดีย" กล่าวเสริมว่าตอนนี้ต่องบอกว่ากำลังใจดีขึ้นเยอะ แม้ว่าช่วงที่เป็นเเรกๆนั้นถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่หนักที่สุดในชีวิตที่เคยเจอมา แต่ก็ยังมีข้อดีหลังจากที่หายทำให้เราเองมองโลกที่เปลี่ยนไปอีกแบบ โดยทำให้เราได้ทราบว่าความสุขที่แท้จริงสามารถเกิดได้แค่จากจุดเล็กๆ ยอมรับว่าช่วงหลังที่หายแรกๆก็ยังมีจิตตกว่าอาการจะกลับมาอีกครั้งไหม ซึ่งก็รู้สึกชื่นใจหลังจากที่คุณหมอเองก็คอนเฟิร์มว่าหายแล้ว ส่วนตัวเชื่อว่าหลังจากนี้ทุกอย่างจะดีขึ้น

โดย"แมทธิว-ลิเดีย" ยังเล่าต่อให้ฟังถึงความรู้สึกในการออกงานครั้งแรก ว่า ก็รู้สึกไม่ชิน แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้กังวลมาก เพราะมองว่าเราโชคดีที่ติดโควิด-19 มาก่อนหน้านี้แล้วทำให้ตนมีภูมิคุ้มกันในร่างกายแล้ว จึงเป็นห่วงคนอื่นมากกว่า ทั้งนี้ก็อยากฝากให้ทุกคนอย่าเพิ่งชะล่าใจกับสถานการณ์ที่เริ่มดีขึ้น ยังอยากมห้ทุกคนเว้นระยะห่างทางสังคม ปฎิบัติตามมาตรการของภาครัฐ เพราะต้องบอกว่าการอยู่โรงพยาบาลเป็นระยะเวลา 30 วันนั้นมันไม่ได้สนุก แต่มันทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ

คลิปสัมภาษณ์
https://www.facebook.com/AMARINTVHD/videos/383389965916470/?vh=e&d=n

ทั้งนี้เมื่อถามถึงความรู้สึกวินาทีแรกที่รู้ตัวว่าติดเชื้อแล้วต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งในโชเชียลเองก็มีทั้งมุมบวกและมุมลบที่เข้ามาคอมเมนต์ ส่วนตัวเรารู้าึกน้อยใจหรือไม่นั้น ทางทั้ง 2 กล่าวว่า วินาทีนั้นต้องบอกว่ามีหลายมุมที่ให้คิด แต่ช่วงแรกนั้นส่วนตัวนั้นไม่ติดตามข้อมูลข่าวสาร เพราะใจมุ่งคิดแต่เรื่องการรักษา และสุขภาพ ณ ขนาดนั้น ยอมรับการที่ตนประกาศลงไปให้สังคมทราบเป็นเพราะความหวังดีที่ไม่ต้องการเห็นคนเสียชีวิตจากโรคดังกล่าว ทั้งนี้สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราข้ามพ้นเหตุการณ์ร้ายๆครังนี้ได้ ก็เพราะทุกกำลังใจจากทุกคน แม้กระทั้งคนที่ไม่รู้จักและคนที่รู้จักก็ตาม เพราะมีหลายคนไดเรคข้อความมาขอบคุณเยอะมาก ว่าเราสองคนเป็นเหมือนส่วนหนึ่งที่ให้สังคมตระหนักกับโครดังกล่าวมากขึ้น

ยอมรับว่าการที่เห็นว่าเราทั้งสองคนร้องไห้บ่อยนั้น ส่วนหนึ่งเพราะช่วงนั้นมีความหลากหลายของช่วงอารมณ์เข้ามา ไม่ว่าจะเป็น ความกลัว ความวิตกกังวล การคิดถึงลูกๆ หรือแม้กระทั้งไม่รู้ส่าตนเองนั้นจะตายหรือไม่ ยอมรับช่วงนั้นถึงขั้นที่บางวันไม่อยากจะตื่นขึ้นมาในสภาพที่เราคือผู้ป่วยโควิด-19 ทุกวันที่อยู่ในโรงพยาบาลมันคือการสู้ที่ไม่ใช่แค่สู้กับไวรัส แต่มันยังต้องสู้กับจิตใจของตัวเอง ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับบ้านเพื่อเจอหน้าลูก อาการจะเป็นอย่างไร จะหายไหม ยาที่กินไปจะสามารถรักษาได้จริงไหม ซึ่งสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ เผยวันที่ทราบผลว่าเป็ลบครั้งที่ 2 มันเป็นความรู้สึกที่จะบอกว่าดีใจก็ดีใจ จะบอกว่าเฉยๆก็ไม่เชิง เพราะที่ผ่านมาเองเราก็คาดหวังที่จะเป็นลบหลายรอบจนทำให้ความหวังนั้นกลายเป็นเหมือนเรื่องที่ต้องทำใจมากกว่า เพราะบางครั้งผลลบแล้วกลับมาเป็นบวกอีกครั้งก็เคยเจอ

"แมทธิว-ลิเดีย" ยังเล่าต่อหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลตอนนี้อาการก็เริ่มดีขึ้น ของทาง "แมทธิว"เองความแข็งแรงของปอดก็น่าจะอยู่ที่ 95 เปอเซนต์ ส่วนของทาง "ลิเดีย" เนื่องด้วยอาการหนักกว่าใ่ายชายมาตั้งแต่ต้น ตอนนี้ก็ถือว่าดีขึ้นแต่ยังไม่ถึง 100 เปอเซนต์ คาดว่าจะดีจริงๆคงภายในสัปดาห์นี้ เผยส่วนภาพโมเมนต์ที่โพสต์ครบรอบแต่งงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่เศร้าอีกหนึ่งเรื่อง เพราะตอนที่โพสต์ออกไปนั้นต่างคนต่างอยู่โรงพยาบาล ซึ่งทาง "ลิเดีย" เองก็เพิ่งทราบว่าติดเชื้อ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นถึงขั้นที่ตนแอบหลังน้ำตาหลังจากที่ต่างดูรูปภาพและเรื่องราวเก่าๆของเราทั้งคู่

รับโชคดีที่ลูกๆทั้ง 2 คน เข้าใจที่พ่อกับแม่ต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบ เผยตลอดระยะเวลาที่พักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลเวลาวีดีโอคอลคุยกันลูกๆทั้ง 2 คนไม่เคยร้องไห้ให้เราเห็น พอถึงวันที่ต้องกลับบ้านเขาเองก็เข้ามากอดโดยที่ไม่ร้องไห้ แต่รับทราบได้ว่าเขาอาจจะมีอารมณ์แบบร้องไห้อยู่ในใจ พร้อมกอดไม่ปล่อย

เผยการอยู่ด้วยกันตลอดระยะเวลา 30 วันที่ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทำให้รู้สึกว่าเราทั้งคู่รักกันมากขึ้น ต่างฝ่ายต่างได้เห็นมุมดีๆของกันและกัน ส่วนเพลง "รัก" ของพี่ปุ๊ อัญชลี ที่ตนทั้ง 2 ได้ร่วมกันร้องเพลงนั้น ถือเป็นการตอบแทนให้กับทางทีมแพทย์ที่ช่วยดูแล เพราะเราได้เห็นถึงการเสียสละและการตั้งใจทำงานของเเพทย์และพยาบาล ขณะเดียวกันทางด้าน "ลิเดีย" กล่าวเสริมทั้งน้ำตาว่า เมื่อกี้ในช่วงที่ตนมาร่วมงานแล้วได้ฟังเสียงคุณหมอที่รักษาตนนั้น ยังคุ้นกับเสียงๆนี้ เป็นเสียงที่ทำให้เราในวันที่กังวลและกลัวมาก ได้ผ่านพ้นและมีกำลังใจขึ้นมา ส่วนตัวอยากขอบคุณทางคุณหมอมากๆ เสียงดังกล่าวเป็นเสียงที่อยู่กับเราในวันที่ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีคำตอบว่าคุณจะอยู่ คุณจะรอด คุณจะเป็นอะไรไหม ซึ่งเสียงนี้จะเป็นเสียงที่คอยให้กำลังใจมาตลอด พร้อมกับคำสัญญาว่าจะเขาจะรักษาเราให้ดีที่สุด