เมื่อวันที่ 24 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดศิริบุญธรรมบ้านกุดดินจี่ ต.กุดดินจี่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ญาติและชาวบ้านได้จัดพิธีฌาปนกิจศพนายณัฐนนท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี หลังพบเป็นศพผูกคอตายบนยอดต้นมะขามท้ายหมู่บ้าน เนื่องจากหายตัวไปตั้งแต่คืนวันที่ 11 พ.ค.63 เวลา 22.00 น. จนกระทั่งชาวบ้านมาพบศพในวันที่ 23 พ.ค.63 เวลา 15.30 น.
สืบเนื่องจากมีชาวบ้านได้ออกไปหางมหอยและกำลังเดินทางจะกลับบ้าน สายตาเหลือบไปเห็นรองเท้าคู่หนึ่งที่ใต้ต้นมะขาม เมื่อมองขึ้นไปที่ยอดกลับพบร่างของคนแขวนคอห้อยอยู่บนต้นไม้ จึงได้รีบวิ่งไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านให้มาที่เกิดเหตุ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวรและเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมใจนากลาง สมาคมร่วมใจสงเคราะห์การกุศล ได้ร่วมออกตรวจสอบสถานที่เกิด
โดยสถานที่เกิดเหตุเป็นต้นมะขามสูงประมาณ 20 เมตร พบร่างนายณัฐนนท์ ผูกคอแขวนอยู่บนต้นไม้ประมาณ 15-18 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมใจนากลางนำร่างของผู้เสียชีวิตลงมา สภาพศพเกือบเน่าเปื่อย ตรวจสอบไม่พบสิ่งที่จะเป็นการฆาตกรรม หรือมีการนำศพไปผูกสูงขนาดนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคาดว่าน่าจะเป็นการผูกคอตาย โดยทางแพทย์เวรได้สอบถามญาติซึ่งไม่ติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงมอบร่างให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
ยายเข็ม เสาร์สิริ อายุ 82 ปี เปิดเผยว่า หลานชายกลับจากทำงานขับรถส่งของกับพี่สาวและเป็นช่วงที่ใกล้จะคัดเลือกทหาร จึงได้กลับมารอและเตรียมเอกสารต่าง ๆ และขออนุญาตไปนอนที่บ้านเพื่อนนาน 2 เดือน ในวันก่อนเกิดเหตุเพื่อนของหลานชายบอกให้ตนฟังว่า ในช่วงกลางวันนายณัฐนนท์ ก็ได้พากันออกไปใส่เบ็ดปลาไหลไว้ กลางคืนช่วงเวลา 22.00 น. เพื่อนได้พาภรรยาออกมาเข้าห้องน้ำ ก็เห็นนายณัฐนนท์ กำลังยืนอยู่และเข้าใจว่าคงจะเข้านอน กระทั่งรุ่งเช้าอีกวันก็ไม่พบเห็น เพื่อนจึงได้ช่วยกันออกตามหา แต่อย่างไรก็ไม่พบจึงได้แจ้งให้ญาติของนายณัฐนนท์ทราบ เพราะโดยปกติแล้วผู้เสียชีวิตจะเป็นคนเรียบร้อย ไม่ค่อยพูด และก็ไม่ทราบว่ามีเหตุจูงใจอะไรที่ทำให้หลานชายคิดฆ่าตัวตาย
สำหรับนายณัฐนนท์นั้น ก่อนหน้าที่จะเสียชีวิตได้กลับมาจากทำงานต่างพื้นที่ เพื่อรอกำหนดเกณฑ์ทหาร แต่เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จึงทำให้กำหนดการเดิมเลื่อนออกไป จากนั้นได้ไปพักอาศัยอยู่กับเพื่อนที่หมู่บ้านหนึ่งซึ่งห่างกันประมาณ 1 กม. และหายตัวออกจากบ้านเพื่อนไป ก่อนจะพบเป็นศพผูกคอแขวนอยู่บนยอดต้นมะขามดังกล่าว