เมื่อวันที่ 24 พ.ค.63 เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจรับเเจ้งเหตุใช้อาวุธปืนยิงกัน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดในบ้านหลังหนึ่ง บริเวณซอยสุวินทวงศ์ 28 เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ บ้านไม่มีเลขที่หลังหนึ่งภายในซอยสุวินทวงศ์ 28 เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 2 ราย ศพเเรกที่อยู่หน้าบ้าน ทราบชื่อ นายศรายุทธ มุสตอฟาดี อายุ 39 ปี นอนหงายสวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้นสีเเดง สวมรองเท้าเเตะ ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด
ส่วนศพที่ 2 นอนเสียชีวิตบริเวณถนนหน้าบ้าน ทราบชื่อ นายวีระชัย มุสตอฟาดี อายุ 37 ปี นอหงายสวมเสื้อยืดสีฟ้า นุ่งโสร่งสีเเดง สวมรองเท้าเเตะ ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด เเละชายโครงซ้ายขวา ข้างละ 1 นัด
นอกจากนี้ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ เป็นพี่ชายเเท้ ๆ ของผู้เสียชีวิตทั้งสองคน ทราบชื่อ นายเสรี มุสตอฟาดี อายุ 45 ปี หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไป ซึ่งครอบครัวดังกล่าวมีพี่น้อง 4 คน คนก่อเหตุเป็นพี่ชายคนโต ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นน้องคนที่ 3 เเละคนที่ 4 โดยญาติ ๆ ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า และไม่พร้อมพูดคุยกับสื่อมวลชน
นายคณิน ตันตระกูล เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า ได้รับเเจ้งเมื่อเวลา 17.30 น. มีเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บหมดสติ 2 ราย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบว่าทั้งสองราย ไม่มีสัญญาณชีพเเล้ว จึงช่วยเหลือโดยการปั๊มหัวใจเเต่ไม่เป็นผล ซึ่งสภาพศพทั้งสองล้วนถูกยิงเข้าที่จุดสำคัญ
ผู้ก่อเหตุเป็นพี่ชายเเท้ ๆ ของผู้เสียชีวิตทั้งสองคน จากการสอบถามกับทางญาติเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตทั้งคู่ขัดเเย้งกับคนก่อเหตุเรื่องมรดก เนื่องจากพ่อเเม่ได้เสียชีวิตหมดเเล้ว เเละที่ผ่านมามักจะมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง กระทั่งเกิดเหตุสลดขึ้นในวันนี้ ส่วนศพของผู้เสียชีวิต หากเจ้าหน้าที่ทำการชันสูตรเสร็จ ญาติจะรีบทำพิธีฝังตามหลักศาสนาอิสลามในทันที
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนลูกชายผู้เสียชีวิต ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายศรายุทธ เดินทางมาพร้อมกับนายวีระชัย ด้วยรถจักรยานยนต์ โดยมีลูกชายขี่มาส่ง และลูกชายได้ขี่กลับออกไป เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้เข้าไปพูดคุยเจรจากับนายเสรี เรื่องรถกระบะที่หยิบยืมกันใช้ และก่อนหน้านี้เคยทะเลาะมีปากเสียงกันเรื่องที่ดินมรดก รวมถึงรถกระบะคันดังกล่าวมาก่อนแล้วด้วย แต่ตกลงกันไม่ได้ ก่อนที่นายเสรี จะใช้อาวุธปืนมายิง และขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ทางด้าน น.ส.จำปูน มุสตอฟาดี อายุ 37 ปี ภรรยาของนายสรายุทธ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทั้ง 3 คน มีปัญหาทะเลาะกันและมีปากเสียงมาโดยตลอด เป็นปัญหาที่สะสมมานาน นอกจากเรื่องรถเเล้วส่วนหนึ่งก็มาจากที่ดินมรดกจำนวนหลายไร่ที่พ่อได้แบ่งไว้ให้ แต่ผู้ก่อเหตุต้องการจะได้ที่ดินมากกว่าน้องชาย จึงตกลงกันไม่ลงตัว
ทั้งนี้ น.ส.จำปูน ขอให้นายเสรี เข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝากบอกว่า "บังทำอะไรไว้ย่อมรู้อยู่เเกใจ บังก็รู้ดีว่าที่ผ่านมาน้องชายทำอะไรเพื่อบังบ้าง เเต่บังยังทำได้ลงคอ"