เมื่อวันที่ 25 พ.ค.63 เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายก่อเหตุบุกเข้าไปชิงทองคำรูปพรรณในห้างทองศรีอุดม ถนนกะโรม ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งด้านหลังของร้านติดกับรั้วกองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช และคนร้ายได้ทองคำรูปพรรณไปจำนวน 2 เส้น น้ำหนักเส้นละ 2 บาท รวม 4 บาท มูลค่าซื้อขายตามราคาทองคำวันนี้สูงกว่า 1 แสนบาท ก่อนจะพังประตูล็อกอัตโนมัติแล้ววิ่งหลบหนีไปได้อย่างลอยนวล
โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า เป็นห้างทองศรีอุดมที่มีเจ้าของทราบชื่อ นายชาญวิทย์ บางโชคดี อายุ 46 ปี ที่ยังคงอยู่ในอาการตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประตูกระจกหน้าร้านแตกกระจาย นายชาญวิทย์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนที่กองเศษกระจกประตู พบรอยเลือดกระจายหลายจุด ซึ่งเป็นรอยเลือดของคนร้ายที่ถูกกระจกบาดที่ข้อมือขวาเป็นแผลฉกรรจ์ ในจังหวะที่พังประตูแล้ววิ่งหลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและเส้นทางหลบหนีพบว่า หลังจากก่อเหตุคนร้ายได้พังประตูหลบหนี โดยวิ่งไปตัดถนนผ่านหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช โดยตลอดทางมีรอยเลือดของคนร้ายหยดไปตลอดทาง ก่อนจะไปขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดซุ่มไว้ในซอยขุนพันธรักษ์ราชเดช เพื่อใช้เป็นพาหนะหลบหนีไปตามถนนศรีธรรมโศก ตัดออกพัฒนาการคูขวาง แล้วมุ่งหน้าไปยังเขตท้องที่ สภ.ชะเมา ซึ่งมีพื้นที่ติดกัน
นายชาญวิทย์ เจ้าของร้านแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้เข้ามาทำทีขอดูทองเส้นละ 2 บาท โดยได้ส่งให้ทดลองสวมจำนวน 1 เส้น และขอดูอีกเส้น จังหวะนั้นเองคนร้ายได้ชิงทองทั้ง 2 เส้น แล้ววิ่งหลบหนีไป กระแทกกับประตูอัตโนมัติจนกระจกแตกกระจาย แล้ววิ่งหนีหายไป เมื่อตั้งสติได้จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีบุคคลต้องสงสัยจะเป็นคนร้ายเข้ามารักษาตัวที่ รพ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ด้วยอาการเส้นเอ็นขาด หน้าซีดเผือด จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบว่า บุคคลดังกล่าวคือคนร้ายที่ก่อเหตุบุกเดี่ยวชิงทองจริง จึงแสดงเป็นตำรวจเข้าจับกุมตัวคนร้ายดังกล่าวทันที โดยพบว่ามีบาดแผลกระจกบาดที่มือขวา
นายสมนึก สีสง อายุ 35 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ให้การอ้างว่า หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ ทะเบียน 1กก-8185 นครศรีธรรมราช มาแจ้งพยาบาลที่ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ว่าล้มรถได้รับบาดเจ็บ แต่พลเมืองดีสงสัย จึงโทรศัพท์แจ้ง 191 ทำให้ตนถูกตามจับกุมได้ดังกล่าว ทั้งนี้จุดประสงค์ที่ต้องการชิงทองนั้น เพื่อหาเงินไปใช้หนี้เท่านั้น ซึ่งตนเก็บไว้ที่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดของกลางทั้งหมด เพื่อดำเนินการตามเป็นหลักฐานในคดีต่อไป ก่อนคุมตัวนายสมนึก ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป