จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่มีชื่อว่า "ถ้ำนาคา" ตั้งอยู่ที่วัดถ้ำชัยมงคล อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ มีลักษณะคล้ายเกล็ดงู และมีรูปร่างคล้ายกับงูขนาดใหญ่ที่ขดตัวไปมา โดยชาวบ้านบางคนเชื่อว่าน่าจะเป็นงูยักษ์ที่กลายเป็นหินนั้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
เปิดตำนานถ้ำนาคา พญานาคสมสู่สาวถูกสาปกลายเป็นหิน พระเผยนิมิตให้มาอยู่ไม่ยอมให้สึก
ล่าสุดวันที่ 29 พ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทน์ทีวี เดินทางมายังศาลปู่อือลือ ต.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ซึ่งศาลปู่อือลือนั้น เป็นศาลที่พำนักของปู่อือลือนาคราชมาตั้งแต่อดีตกาล อยู่ใกล้กับบึงโขงหลง ซึ่งเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ มีพื้นที่ประมาณ 11 ตารางกิโลเมตร และบริเวณศาลมีรูปปั้นช้างม้าวัวควาย และบริวารอยู่ข้าง ๆ ศาล
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. ชาวบ้านในพื้นที่ได้พาทีมข่าวเดินเท้าไปยังยอดเขาภูลังกา และเข้าไปในถ้ำนาคาอีกครั้ง ซึ่งพอถึงปากถ้ำได้อธิบายให้ทีมข่าวฟังว่า จุดนี้เป็นหางของพญานาค และเป็นประตูทางเข้าเมืองลับแล รวมถึงทางเข้าเมืองบาดาลที่อยู่ติดกัน เมื่อลงไปจากส่วนห่างพญานาคจะเห็นว่า มีหินในถ้ำนาคาลักษณะขดกันอยู่คล้ายพญานาคขดตัว และหินในถ้ำนี้ก็มีลักษณะเป็นเกล็ดทั้งหมด เป็นส่วนลำตัวของพญานาคทั่วถ้ำ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับพระอาจารย์ต้อง ญาณสังวโร เจ้าอาวาสวัดถ้ำชัยมงคล ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ก่อนที่ตนจะมาประจำอยู่ที่วัดถ้ำชัยมงคลนี้ ตนก็นิมิตเห็นพญานาคตัวหนึ่ง ยาว 9 เมตร ตาแดงก่ำ ยืนอยู่บนหน้าผาของยอดเขาภูลังกา แต่เดิมนั้นที่วัดแห่งนี้เป็นวัดที่ทรุดโทรม โดยพญานาคตัวดังกล่าวนี้ได้ขอร้องตนให้มาจำพรรษาที่ัวัดถ้ำชัยมงคล จากนั้นตนจึงบูรณปฏิสังขรณ์วัดดังกล่าว จนมีสภาพเหมือนในปัจจุบันนี้ ซึ่งตอนนี้วัดถ้ำชัยมงคล ก็มีพระสงฆ์อยู่จำนวน 3 รูป
กระทั่งตนจำพรรษาที่วัดถ้ำชัยมงคล ได้ประมาณ 2 พรรษา ตนตั้งใจว่าจะลาสิกขา แต่ในระหว่างนั้นตนก็นิมิตเห็นพญานาคตัวเดิมมาบอกตนว่า “ขอนิมนต์หลวงพี่อยู่ต่ออีก อย่าเพิ่งลาสิกขาเลย” จากนั้นมาตนจึงตัดสินใจไม่ลาสิกขา และอยู่จำพรรษาที่วัดถ้ำชัยมงคลมากว่า 10 ปี
ส่วนตัวแล้วก็มีความเชื่อเรื่องถ้ำนาคา และพญานาคราชว่ามีอยู่จริง แต่ด้วยหลักธรรมของพระพุทธเจ้า ตนจึงไม่ได้แสวงหาเรื่องพวกนี้ ซึ่งนอกจากเรื่องของพญานาคแล้ว บนยอดภูลังกา ก็ยังมีเมืองบังบด และเมืองลับแลอยู่อีกด้วย
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับนายสมจิตร ลาโพธิ์ หมอธรรมบ้านบึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ โดยนายสมจิตรนั้นมีหน้าที่สื่อสารกับปู่ลืออือ เมื่อยามที่ชาวบ้านมากราบไหว้ที่ศาลเจ้าปู่ลืออือ ให้ท่านได้รับทราบความต้องการของชาวบ้านคนนั้น ๆ โดยนายสมจิตร ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ตนเคยฝันเห็นปู่อือลือเมื่อหลายปีมาแล้ว ตอนนั้นฝันเห็นปู่อือลือนั่งสมาธิที่ศาล เป็นร่างมนุษย์สูงใหญ่ แต่งกายด้วยชุดนุ่งขาวห่มขาว ร่างกายดำ สูงใหญ่
และเมื่อปี 2555 ชาวบ้านได้ทำพิธีบวงสรวงให้กับปู่อือลือ ที่บริเวณบึงโขงหลงก็มีงูใหญ่สีดำเลื้อยขึ้นจากเหนือน้ำ ซึ่งชาวบ้านที่ทำพิธีบวงสรวงนับพันคน ก็เห็นงูตัวนี้กันทั้งหมด และต่างเชื่อว่างูที่เห็นนั้นเป็นร่างของปู่อือลือที่มาปรากฏให้ชาวบ้านเห็น และหลังจากเหตุการณ์วันนั้นมาชีวิตชาวบ้านที่บึงโขงหลง และผู้คนในจังหวัดบึงกาฬก็ต่างดีขึ้น ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์
ทั้งนี้นายสมจิตร ยังบอกอีกว่า หากใครที่มาบนบานที่ศาลปู่อือลือ ท่านก็จะให้พรสมปรารถนาทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโชคลาภ หรือหน้าที่การงาน หลังจากที่ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีเสร็จ นายสมจิตร ก็ได้พาทีมข่าวไหว้ขอพร และขอโชคลาภกับปู่อือลือ โดยนายสมจิตร ได้เตรียมดอกไม้จำนวน 5 คู่ และเทียนใส่จาน จากนั้นก็ได้ท่องคาถาบูชาปู่อือลือ เพื่อสื่อสารให้ปู่อือลือรับรู้ว่ามีลูกหลานมาขอบนบาน จากนั้นก็ได้นำจานดอกไม้ถวายให้กับปู่อือลือ
ถัดจากหินส่วนหัวพญานาคนั้น จะมีหินก้อนหนึ่ง และมีตัวเลขเขียน 3 ตัว บางคนก็เห็นเป็นเลข 534 บางคนก็เห็นเป็นเลข 554 โดยตัวเลขบนหินนี้ ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า เป็นฝีมือของชาวบ้านผู้ที่แสวงหาโชคลาภ ที่มาสลักไว้ ตัวเลขนี้ไม่ได้เกิดโดยพญานาค
จากนั้นก็ได้พาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินต่ออีก 1 กิโลเมตร ไปยังหน้าผาทิศตะวันออก ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์หลวงปู่เสาร์ เกจิที่มรณภาพไปหลายพันปีแล้ว สภาพมีรูปปั้นหลวงปู่เสาร์ ด้านหลังเป็นเจดีย์สีทอง และมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาว ส่วนด้านหลังหน้าผานั้น จะมองเห็นวิว 360 องศา รวมถึงมองเห็นแนวเทือกเขาของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อีกด้วย
โดยเจดีย์หลวงปู่เสาร์นั้น เป็นที่นับถือและที่ศรัทธาของชาวบ้านและอริยสงฆ์ ที่ชาวบ้านมาปฏิบัติธรรม ซึ่งพระอาจารย์เสาร์ มีอิทธิฤทธิ์สามารถสั่งผู้คนในเมืองบาดาล เมืองลับแล และเมืองมนุษย์ อีกทั้งรัดคนให้เชื่อฟังท่านได้อีกด้วย